จดหมายถึงครู l ชีวิตที่ไม่เห็นภัย แต่ก็เริ่มใหม่จนกว่าลมหายใจจะหมด


วันจันทร์  ที่ 5 พฤศจิกายน 2555

กราบสวัสดีค่ะครู

        ความรู้สำนึก หิริโอตัปปะ เป็นสิ่งที่ยังต้องบังคับและฝึกให้มีกับใจหนูอีกมาก หนูพึ่งยอมรับกับตนเอง ครูและหลวงพี่เมตตามากๆในการตรวจสอบตนเองของหนู ตลอดเส้นทางการฝึกฝน ด้วยเพียงหนูล้มกับตนเอง เมื่อเย็นวาน ทำให้มีวันที่ต้องดัดนิสัยชั่วๆของตนเองเพิ่มอีกถึง 3 วัน ของเดิมอีก 2 วันเป็น 5 วัน กิเลสมันก็ยังคร่ำครวญและโอดครวญ แต่ลึกๆหนูก็สมย้ำหน้ามันเจ้าค่ะ กับเช้านี้เอาใหม่ ตั้งใหม่กับตนเอง 

ลุกขึ้นมาตั้งใตละชั่ว กราบพระกราบรูปครูในห้องน้อมเอาเสื้อผ้าที่ครูเมตตามามองแล้วถามตนเอง "เอายังไงดี"

หนูไม่อยากเป็นอย่างที่ผ่านมา ก็ต้องละ ต้องทิ้งนิสัยอย่างที่ผ่านมาให้ได้

ทิ้งไม่ได้ก็ไม่ต่างจากเดิม 

น้ำในแก้วมันเติมใหม่ไม่ได้ถ้าไม่เทออก 

ผ้าถ้าไม่ฟอก มันก็ไม่ขาว หนูอยากให้ใจขาดดั่งผ้าที่ฟอกถวายครู แต่กลัวการซัก กลัวการฟอก มันจะขาวได้ยังไง

ใจหนูแทบจะวิ่งหนีน้ำ แต่อีกใจก็ยังหน้ามึนวิ่งตามึนวิ่งตามครู

หนูสารภาพตรงๆเจ้าค่ะ ไม่รู้ในตนเองนักอะไรที่ยังทำให้วิ่งตามครูแบบผงาบๆ เหมือนมีสายใยบางอย่างที่ยังทำให้ไปไหนไม่ได้ นี่เป็นเรื่องดีๆ สิ่งดีๆที่เห็นข้างในตนเองทำให้ยังพอมีโอกาส เพราะสิ่งนี้เสียงนี้ ทำให้ใจยังพยายามสู้กับแรงรั้งของกิเลสในใจ ให้อดทนฝึกฝน 

แต่เจ้ากิเลสมันก็มาเนียนๆกับคำว่า อีกแป๊บ อีก เดี๋ยว หรือ ไม่ก็ย้ำกับหนูว่า หนูไม่คู่ควร 


เมื่อวานโทรศัพท์คุยกับหลวงพี่ ตามที่ครูเมตตาให้ส่งข่าว

"ท่านบอกว่าอนุโมทนาสาธุ การได้รับข้อความจากครูทำให้ท่านมีปีติ มีแรงสู้บนเส้นทางของการเพียรภาวนา"

ท่านเล่าให้ฟังเรื่อง ความไม่ระวังในการปฏิบัติต่อพระอริยะ คือ มีพระรูหนึ่งในวัดขึ้นไปหยิบของที่ศาลาตอนที่หลวงปู่ไม่อยู่แล้วยังไม่ได้รับอนุญาต แล้วลื่นล้มหัวแตก 

ท่านเล่าว่า มันเร็วขนาดนี้ผลกรรม ต้องมีสติ คิดให้ดีๆก่อนจะทำอะไรต้องระวัง

พระท่านนี้ตอนแรกว่าจะไม่เย็บไปๆ มาๆ แผลปริ หลวงพี่ท่านเลยเป็นคนเย็บให้เอง เพราะท่านเคยเย็บส้นเท้าตนเองมาแล้วท่านเอ่ยว่า

"ช่วยตนเองได้แล้วค่อยช่วยคนอื่นมันเป็นแบบนี้"

หนูนึกย้อนกับตนเอง หนูใช้ชีวิตในโหมดสำออยอยู่มากเจ้าค่ะ 

หลวงพี่ขอให้เพิ่มข้อวัตรของหนูอีกเรื่องคือ 

อ่านหนังสือที่ครูให้อย่างน้อยวันละ 10 หน้าโดยเฉพาะของหลวงพ่อพุทธทาส 

หนูรับปากท่าน แต่ข้างในยังงอแง 

ตลอดวันสอนงานน้องจากเดิมหนึ่งวันนี้มีมาเพิ่มเป็น 2 คน เจ้าค่ะครูเป็นโอกาสหนูย้ำกับตนเอง

และปรับกับตนเองเรื่อง การเขียนบันทึกเช้าว่าจะตั้งใจทำอะไร เอามาปรับเป็นเขียนมือ ไม่ต้องเอาลง G2K แต่ให้เขียนเป็นบันทึกถอดบทเรียนเกี่ยวกับงานที่ทำในแต่ละวันดีกว่าเจ้าค่ะ

จัดการอายัติบัติต่างๆตกเย็นไปแจ้งความ 

หนูลืมดูว่าเขาเขียนนามสกุลหนูผิด ด้วยความที่หนูลายมือหวัดมาก 

สติไม่ดี อะไรๆก็พลาด หนูเบื่อตนเองเจ้าค่ะครู 

แต่ดีที่สุดก็คือ ลุกขึ้นมาแก้ไข

อีกใจก็ถาม ว่า แกทำผิดซ้ำ ๆ เมื่อไหร่จะแก้ไข

อีกเสียงก็สำออย อีกเสียงก็ซ้ำเติม

แล้วสุดท้ายก็บอกว่า "หยุด พอเหอะ เลิกคร่ำครวญแล้วทำซะทีืเสียเวลาอยู่ได้ แก้ไขอะไรได้ก็ทำไป"

นี่ไงที่ครูบอกว่า "ไม่มีหิริโอตัปปะ ไม่มีสำนึก ไม่มีสติ"

ถ้ามันไม่มีก็ทำให้มันมีซิ ก็จบ จะมาสำออยคร่ำครวญหาอะไรเสียเวลา

หลวงพี่ก็บอก "มันไม่เห็นภัย กิเลสมันเต็มใจอยู่ มีแต่ซ้ำเติมตนเอง คอยย้ำแต่ส่าทำอย่างนี้จะเป็นเปรตไปนรก เคยคิดไหม อันดีๆสิ่งดีๆที่เคยได้ทำ สิ่งต่างๆที่เคยได้ทำถวายท่าน กุศลต่างๆที่เพียรทำ ออกจากใจ มันต้องมี ทำไมไม่นึกถึงให้มันมาเป็นกำลังใจเจ้าของบ้าง เส้นทางนี้มันต้องหัดสร้างกำลังใจให้ตนเอง ไม่ใช่ดีแต่ซ้ำเติม มันก็ตายหน่ะซิ เสร็จกิเลสหมด"

เทศนากัณฑ์ใหญ่จากหลวงพี่เจ้าค่ะ

กิเลสที่มัน ต่อต้านมันพาเดี้ยงเลยเจ้าค่ะ แต่หนูก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า

"จริงทุกประการที่ทั้งครูและหลวงพี่สอนสั่ง"

แต่ก็จะยังพยายามต่อไปเจ้าค่ะ

หมายเลขบันทึก: 507784เขียนเมื่อ 6 พฤศจิกายน 2012 11:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 ธันวาคม 2012 15:20 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ความพยายามอยู่ที่การกระทำนะไม่ได้อยู้ที่คำพูด ติ๋วพยายามที่วาจามานานหลายปี ขอให้ลงมือปฎิบัติเสียทีนะในเรื่องความพยายาม

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท