ผมเขียนถึง รศ. พญ. ลัดดา เหมาะสุวรรณ ตามคำขอของแพทย์รุ่นลูกศิษย์ ของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ไว้ตั้งแต่เดือน พ.ค. ๕๕ ตั้งใจเอาลง บล็อก แล้วก็ลืม จึงนำเอามาลงในตอนนี้ เพราะว่า ท่านเป็นตัวอย่างของคนที่ดำรงชีวิตแบบพอเพียง
รศ. พญ. ลัดดา เหมาะสุวรรณ
เพชรน้ำหนึ่งของวงการวิชาการโภชนาการและพัฒนาการเด็กไทย
วิจารณ์ พานิช
อดีตคณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ๒๕๒๔ - ๒๕๒๖ และ ๒๕๒๘ - ๒๕๓๒
.............................
รศ. พญ. ลัดดา เหมาะสุวรรณ กับผมน่าจะสนิทสนมกันมาประมาณ
๓๕ ปี
ดังนั้นข้อเขียนต่อไปนี้น่าจะถือได้ว่าเป็นการเขียนจากใจของมิตรคนหนึ่ง การได้รับเชิญให้เขียนถึงอาจารย์หมอลัดดาช่วยให้ผมได้ย้อนรำลึกถึงช่วงการทำงานที่คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งถือเป็นช่วงที่ผมได้เรียนรู้จากการทำงานมากที่สุดแห่งหนึ่ง เนื่องจากเป็นงานในวัยฉกรรจ์
มีแรงบันดาลใจหรือมีไฟล้นเปี่ยม
โดยมีเป้าหมายที่การพัฒนาวิชาการให้แก่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และแก่สังคมไทย โดยมีอาจารย์หมอลัดดาเป็นแนวร่วมสำคัญ
ในสายตาของผม อาจารย์หมอลัดดาจึงเป็นอาจารย์นักวิชาการหรือนักวิจัย นอกเหนือจากทำหน้าที่สอนหรือดูแลลูกศิษย์นักศึกษาแพทย์ที่ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คือเป็นครูแพทย์ที่เอาใจใส่การวิจัยเพื่อนำความรู้มาพัฒนาการทำหน้าที่อาจารย์แพทย์ และทำหน้าที่แพทย์ให้บริการผู้ป่วยได้ดียิ่งขึ้น อาจารย์หมอลัดดามีข้อเด่นพิเศษในฐานะอาจารย์แพทย์ทางคลินิกที่ทำงานวิจัยอย่างจริงจัง อุทิศเวลาเพื่อการนี้ ไม่เปิดคลินิกหารายได้ส่วนตัว
ผมเดาว่าคุณสมบัตินี้ นอกจากมาจากพื้นฐานส่วนตัวของอาจารย์หมอลัดดาแล้ว ยังน่าจะได้จากการอบรมบ่มนิสัยจากคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ในส่วนของสาขาวิชาโภชนศาสตร์ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ ที่มี ศ. นพ. อารี วัลยะเสวี แพทย์รางวัลแม็กไซไซ เป็นหัวหน้าใหญ่ ศ. พญ. สาคร ธนะมิตต์ เป็นหัวหน้ารุ่นที่สอง ศ. นพ. ไกรสิทธิ์ ตันติศิรินทร์ เป็นหัวหน้ารุ่นที่สาม และต่อๆ มา
เมื่ออาจารย์หมอลัดดาฝึกวิทยายุทธด้านการเป็นแพทย์เฉพาะทางสาขากุมารเวชศาสตร์ และเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านโภชนศาสตร์ (Nutrition) แล้ว ท่านก็มาทำงานที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งผมเดาเอาเองว่า เพราะท่านมีนิสัยชอบที่ว่างไม่ชอบที่คับคั่ง ซึ่งเป็นนิสัยที่พ้องกับผม คือชอบไปทำงานริเริ่มสร้างสรรค์ที่ใหม่ ไม่ชอบทำงานที่เก่าที่มีคนวางรากฐานไว้แล้ว เราอยากทำงานวางรากฐานด้วยตัวเอง โดยต้องหาทางสร้างทีมงาน และคลำหาทางสร้างรากฐานงานด้วยตัวเอง
อาจารย์หมอลัดดาจึงเป็นผู้วางรากฐานวิชาการและหน่วยงานด้านโภชนศาสตร์ให้แก่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า เป็น founder คณะแพทยศาสตร์ควรยกย่องจารึกไว้ให้ชัดเจนเป็นตัวอย่าง และเป็นแรงบันดาลใจ ของการทำงานริเริ่มสร้างสรรค์แก่อนุชนรุ่นหลัง
การริเริ่มสร้างสรรค์ของอาจารย์หมอลัดดาไม่ได้หยุดอยู่แค่ที่ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์เท่านั้น แต่เมื่อถึงวาระและโอกาสที่เหมาะสม ประสบการณ์และความรู้ของท่านก็ได้มีคุณูปการระดับประเทศด้วย และผมเดาว่ามีหลายเรื่อง แต่ที่ผมมีประสบการณ์ร่วมคือเรื่องชุดโครงการวิจัยระยะยาว พัฒนาการแบบองค์รวมของเด็กไทย ที่สนับสนุนโดย สกว. กระทรวงสาธารณสุข และองค์การอนามัยโลก ตั้งแต่สมัยที่ผมยังเป็นผู้อำนวยการ สกว. ดังสรุปย่อโครงการที่ http://research.trf.or.th/node/3829 โดยอาจารย์หมอลัดดารับผิดชอบโครงการในส่วนภาคใต้ ที่อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา ถึงแม้โครงการนี้ในระดับประเทศจะดำเนินไปไม่ครบ ๑๕ ปีตามเป้าหมายเดิม แต่ในส่วนของศูนย์ภาคใต้ในความรับผิดชอบของอาจารย์หมอลัดดา ยังคงดำเนินการต่อเนื่อง และได้ผลสร้างความรู้ใหม่เกี่ยวกับพัฒนาการเด็กมากมาย ดังตัวอย่างใน PowerPoint คำบรรยาย http://www.saiyairakhospital.com/back-office/upload/document/latda.pdf และใน หนังสือชุดพัฒนาการแบบองค์รวมของเด็กไทย http://info.thaihealth.or.th/library/11018 ที่มีทั้งหมด ๑๐ เล่ม
การวิจัยภาพใหญ่ของประเทศไทยอีกเรื่องหนึ่งที่อาจารย์หมอลัดดามีส่วนสำคัญ คือเรื่องโรคอ้วนในเด็กไทย ดังในรายงาน http://www.hiso.or.th/hiso/picture/reportHealth/pro-6_Chapter1(1).pdf และการบรรยายเรื่องสถานการณ์ ผลกระทบ และความก้าวหน้า ของการจัดการปัญหาโรคอ้วนในประเทศไทย http://www.nutritionthailand.or.th/upload/docpath/Sym%209.1-%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%94%E0%B8%B2%20%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%93.pdf
เนื่องจากผมเป็นคนความจำไม่ดี และออกจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ไปทำงานอื่นตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๓๕ ผมจึงไม่มีรายละเอียดผลงานของอาจารย์หมอลัดดา แต่ผมก็รับทราบว่า ท่านได้รับยกย่องเป็นอาจารย์ตัวอย่างด้านการวิจัย ประจำปี ๒๕๔๓ ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และผมก็ได้รับรู้ว่าท่านได้รับการยอมรับนับถือในฐานะนักวิชาการด้านโภชนาการเด็ก พัฒนาการเด็ก และโรคอ้วน เป็นบุคคลแนวหน้าในระดับประเทศ โดยที่ตัวท่านเองไม่แสดงตัว คนที่อ่อนน้อมถ่อมตน และสมถะเช่นนี้ เป็นบุคคลที่สมควรได้รับการยกย่องเป็นตัวอย่าง
ผมเคยเขียนยกย่องอาจารย์หมอลัดดาสั้นๆ ในบันทึกชุด “คนดีวันละคน” ใน บล็อก Gotoknow ที่ http://www.gotoknow.org/blogs/posts/209357
ในโอกาสฉลอง “แซยิด” อายุครบ ๖๐ ปี ของอาจารย์หมอลัดดา ผมจึงขอถือโอกาสแสดงความชื่นชม และแสดงความยินดี ใน “ชีวิตอุดม” ของท่าน และใคร่ขอตั้งความหวังว่า อาจารย์หมอลัดดาจะยังคงทำงานวิชาการต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย ๒๐ ปี เพราะชีวิตคนสมัยนี้มีความแข็งแรงยืนยาว อาจารย์ของพวกเราหลายคนอายุกว่า ๘๐ ยังคงมีร่างกายแข็งแรง สมองเฉียบแหลม และยังทำประโยชน์ให้แก่บ้านเมืองต่อเนื่อง ผมขออำนวยพรให้อาจารย์หมอลัดดาดำเนินชีวิตหลังวัย ๖๐ อยู่ในกลุ่มนั้น
เมื่อได้อวยพรแล้ว ก็ขอถือโอกาสทักท้วงด้วย ว่าความสมถะด้านตำแหน่งวิชาการ ไม่ยื่นขอตำแหน่งศาสตราจารย์ ทั้งๆ ที่ความสามารถและผลงานเหลือเฟือ เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่อาจารย์รุ่นหลัง และทำให้ขาดโอกาสทำงานที่ยากกว่าที่ทำอยู่แล้ว เพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง
วิจารณ์ พานิช
๗ พฤษภาคม ๒๕๕๕
.............................
วิจารณ์ พานิช
๘ ต.ค. ๕๕
ไม่มีความเห็น