ด้วยแรงอธิษฐาน (๒)


ดังนั้นหากใครละได้ในชาติ แล้วไปพบใครใหม่แล้วสามารถตัดอกตัดใจจากเขาหรือเธอได้ ตามความคิดเห็นของข้าพเจ้าเองนั้น ก็ถือว่าท่านสามารถหลุดพ้นจากห้วงทุกข์ในวัฏสงสารได้อีกระดับหนึ่งแล้ว ขออนุโมทนาสาธุในกิจการครั้งนี้ของท่านเป็นอย่างยิ่ง

ทำไมคนสมัยอำแดงเหมือนและนายริดจึงมักจะอธิษฐานกันว่า ขอได้มีบุญได้เกิดมาร่วมชาติหรือร่วมหอลงโรงดัวยกันอีก

จากความคิดของข้าพเจ้าคิดว่า ผู้คนในสมัยที่การสื่อสารและการโทรคมนาคมไม่สะดวกเฉกเช่นทุกวันนี้ ไม่มีโอกาสได้เห็นรูปลักษณ์ที่สวยงามของดาราในภาพยนตร์ หรือโทรทัศน์ จึงทำให้คิดว่าบุคคลที่เราได้มีโอกาสใกล้ชิดนั้นเป็นคนที่ใช่สำหรับเราไปทุกภพทุกชาติ จึงได้มีการอธิษฐานในลักษณะผูกมัดตนเองกับคู่รักไว้เช่นนั้นทุกอย่างทุกชาติไป โดยไม่เคยได้น้อมนำเอาหลักธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธะ เอามาไว้ในหัวอกหัวใจแล้วไตร่ตรองใคร่ครวญว่า สรรพสิ่งล้วนเกิดดับเช่นเดียวกับอารมณ์ของคนเราเป็นอาทิ

แล้วเมื่อการไปเป็นไปเยี่ยงนั้นแล้ว ก็เลยกลายเป็นว่า ต้องมาตามล้างตามเช็ดกันเอาในชาติภพที่การสื่อสารรวดเร็วปู้ดป้าดเกินกว่าความเร็วแสงเช่นทุกวันนี้ ให้วุ่นวายกันเสียอุตลุดกันนักเชียว

555 ก็ดันทะลึ่งไปสัญญิงสัญญาอะไรกันเสียแน่นเหนียวจนยากแก่การแก้ไข จนทำให้มีหมอดูหลายสำนัก หรือเกจิอาจารย์ดัง ๆ ท่านถึงกับแต่งคำแก้แรงอธิษฐานว่า ขอให้เลิกรากันไปเสียเถิดนะจ้ะ คู่อดีตชาติ ให้ไปผุดไปเกิด หรือหากยังไม่เกิดก็ให้คำอธิษฐานนั้นเลิกแล้วต่อกันตั้งวินาทีนี้ เดี๋ยวนี้ ก็ว่ากันไปประดามี

คนเราอุจจาระเหม็นช่างวุ่นวายมาไม่รู้แต่ชาติปางไหน ก็จำต้องค่อยแก้ไปกันไปตามยะถากรรมแห่งตน แต่ก็ขอเอาธรรมะแห่งพุทธองค์เป็นหลักชัยในการดำเนินชีวิต อย่าให้หลงมัวเมาไปเฉกเช่นในอดีตกาลผ่านมา รักใครชอบใครก็ให้มันจบลงในชาติภูมินี้ อย่าได้ยึดติดกันนักเลย แต่ข้าพเจ้าก็ยังอดในส่วนตรงนี้ไม่ได้เสียจริง ๆ สิ ก็เพราะคนเรามักจะยึดเหนี่ยวเอาสิ่งที่ไม่ค่อยจะเป็นแก่นสารเอามาเป็นแก่นสารของชีวิตเสียร่ำไปสิท่า

ความยึดมั่นถือมั่นจะเป็นบ่อนทำลายการเข้าถึงธรรมของพระพุทธองค์

ดังนั้นหากใครละได้ในชาติ แล้วไปพบใครใหม่แล้วสามารถตัดอกตัดใจจากเขาหรือเธอได้ ตามความคิดเห็นของข้าพเจ้าเองนั้น ก็ถือว่าท่านสามารถหลุดพ้นจากห้วงทุกข์ในวัฏสงสารได้อีกระดับหนึ่งแล้ว ขออนุโมทนาสาธุในกิจการครั้งนี้ของท่านเป็นอย่างยิ่ง

ข้าพเจ้าเองก็หาใช่คนที่สามารถจะหลุดพ้นได้โดยง่าย แต่ก็พยายามจะเอาสิ่งดี ๆ เข้าข่มตามเงื่อนไขที่ว่า วันหนึ่งทำสิ่งดีและสิ่งเลวอย่างละครึ่งก็คงจะไม่ตกนรกเสียกระมัง 555

ขอยกตัวอย่างเช่นวันนี้ดื่มเหล้า ก็สวดมนตร์ก่อนนอนสักบท ก็เป็นความคิดที่เข้าท่าดีนะครับ หากท่านคิดจะนำไปใช้ข้าพเจ้าไม่สงวนลิขสิทธิ์ จะเป็นบุญของข้าพเจ้าที่ได้บอกกล่าวบางอย่างที่อาจจะเป็นประโยชน์บ้างก็เท่านั้น

แต่เงื่อนไขนี้ก็คงจะนำไปใช้ได้ตลอดรอดฝั่งของการเป็นคนดีใฝ่ธรรมะได้เสมอไปนะครับ โปรดใช้วิจารญาณในการคิดตรึกตรองเอาตามเหตุปัจจัยของแต่ละท่าน เพราะคนเรามีพื้นเพทางจิตใจและความคิดใฝ่ดีต่างกันโดยธรรมชาติอยู่แล้ว

 

คำอธิษฐานบางอย่างก็มีผลอย่างมากจนทำให้สังคมไทยเดี๋ยวนี้มีพวกที่ทำตัวเหมือนกำลังรอเนื้อคู่จากอดีตชาติ แต่รอแล้วรอเล่าก็ยังไม่ปรากฏตัวสักที ข้าพเจ้าขอแนะนำให้ท่านที่กำลังตกที่นั่งลำบากนี้ไปสวดแก้ไขตามที่ข้าพเจ้าแนะนำ หรือเจ้าสำนักที่ท่านเคารพหรือศรัทธาสักตำรับหนึ่ง เผื่อหนทางสว่างในชีวิตจะได้ปรากฏเป็นจริงเสียที

เกจิดังในอดีตบางท่านกล่าวว่า อย่าจงอธิษฐานหากไม่แน่ใจว่า เราจะสามารถทำเช่นนั้นได้ทุกภพชาติไป

ความเห็นของท่านช่างเข้าท่าเข้าที ก็ในเมื่อจิตใจคนเรายังสามารถแปรเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ แล้วจะให้สิ่งที่เรียกว่าแน่แท้ในความคิดขณะหนึ่งเท่านั้น จะสามารถดำรงอยู่เช่นนั้นตลอดกัลปวสานได้จริง ๆ หรือ ขอให้ทุกท่านได้นำไปคิดพิจารณาเอาเองเถิดครับ ราตรีสวัสดิ์

 

หมายเลขบันทึก: 506796เขียนเมื่อ 25 ตุลาคม 2012 21:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 ตุลาคม 2012 21:26 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท