ทีมงานสหสาขาวิชาชีพ ร่วมกันเข้าสัมมนาเชิงปฏิบัติการในโครงการพัฒนาวิยากรเอนกประสงค์ เพื่อบริการวิชาการแก่สังคมรุ่นที่ ๒ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๔๙ ระหว่างวันที่ ๑๘ และ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙
ภาพที่ ๑ JJ เล่าสู่กันฟัง ที่มาของโครงการ วิทยากรเอนกประสงค์ เพื่อบริการวิชาการแก่สังคม (คลิก)
ภาพที่ ๒ อาจารย์ ดร.กระจ่าง พันธุมนาวิน (คลิก) กำลังดูหนังสำหรับนักพัฒนา "เสียงกู่จากครูใหญ่"
ภาพที่ ๓ ทีมงานกำลังทำ BAR
BAR หรือ Before Action Review เสียงกู่จากผู้เข้าร่วมสัมมนา มีความคาดหวัง หรือ ความต้องการประมาณนี้ครับ
• แนวทางและทักษะการเป็นวิทยากร ด้านบริการวิชาการแก่สังคม (๕)
• เทคนิค/แนวทาง/ประสบการณ์ การทำงานร่วมกับชุมชน (๓)
• รู้จักเพื่อนร่วมอุดมการณ์ร่วมทำงานเพื่อสังคม (๒)
• ความรู้ ความเข้าใจการเขียนโครงการ และทำโครงการบริการวิชาการแก่สังคมได้ (๒)
• ให้บริการชุมชนมหาวิทยาลัยขอนแก่น
• การเรียนรู้วิถีชีวิตอย่างพอเพียง
• ต้องการรู้ว่ามีกิจกรรมใดบ้างที่สามารถนำความรู้จากตนเองไปช่วยชุมชนเพื่อตอบแทนแผ่นดินแม่
• รู้จุดแข็ง จุดอ่อน โครงการบริการวิชาการแก่สังคม
• สามารถบริการวิชาการแก่สังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• เรียนรู้เทคนิควิธีการใหม่ ๆ
การทำงานต้อง "หาผู้นำธรรมชาติในชุมชน" เพื่อรู้ว่าสังคม หรือ ชุมชนนั้นใครเป็นผู้นำที่แท้จริง
ศึกษาประสบการณ์ ของ อาจารย์ ดร.กระจ่าง ได้ใน
เทคนิคการทำงานกับชุมชน ๑ และ เทคนิคการทำงานกับชุมชน ๒
JJ
เยี่ยมมากครับท่านอาจารย์หมอ JJ
ออตคิดว่าเป็นการเตรียมบุคคลากรของมหาวิทยาลัยให้เข้าใจคนและลดช่องว่างระหว่างผู้ที่เรียกว่ามีการศึกษามากกับผู้ด้อยการศึกษามาเป็น ผู้ที่พร้อมจะเรียนรู้ไปด้วยกัน
คนของมหาวิทยาลัยน่าจะได้รับแง่คิดดีดีเรื่องจิตอาสาและคนข้างนอกก็จะมองภาพลักษณ์เราดีขึ้นไม่ดูเหินห่างกัน
ก่อนอื่นต้องขอบคุณทางคณะผู้จัดที่มีหนังสือเชิญทางสำนักฯท่านผู้บริหารก็อนุญาตให้คนเดิมไป ก็พอดีโครงการที่เสนอยังค้างคาอยู่ด้วยเหตุผลของการรวมตัวจากสหสาขา ตอนแรกก็รวมได้ถึงขั้นออกไป สำรวจความต้องการของชุมชนเป้าหมาย...ก็เริ่มจ่ายตั้งแต่ค่านำมันเขื้อเพลิง ค่าอาหารคณะผู้ร่วมโครงการ และ อื่นๆ คณะฯ ถามว่าถ้าเสนอแล้วจะอนุมัติเงินเมื่อไร ผู้ประสานงานก็ตอบว่าต้องผ่านคณะกรรมการพิจารณาก่อน จากนั้น...เราก็ไม่มีเวลาได้ประสานงานกันอีก.ด้วยเหตุผลบางประการ..ความชัดเจนจาก ท่านรองผอ.ฝ่ายดำเนินโครงการสหสาขาตอบว่า...การเสนอโครงการไม่มี Format ตายตัวอย่างไรก็ได้ขอให้ได้คำตอบ จากประเด็นปัญหา แต่คำถามต่อไปคือแล้วแบบไหนละเป็นตัวอย่างที่ได้รับการอนุมัติและไม่อนุมัติเพราะถ้าเข้าอบรมครั้งเดียวคงยังไม่ชัดเจนเท่าที่ควร ...ทางศูนย์ฯบอกว่าไม่ต้องการชี้แนะ ให้ผู้อบรมคิดเอง แต่...ทางผู้เข้าอบรมต้องการให้เป็นพี่เลี้ยงในการติดต่อประสานงานกลางเพื่อช่วยให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย คนที่เข้าอบรมใหม่..ก็ยังงงๆ ต่อไป แต่ไม่เป็นไรเมื่อทุกคนไปด้วยใจที่อยากจะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการให้บริการแก่สังคมกับศูนย์บริการวิชาการฯ ตามภารกิจหลักของ มข. ถึงแม้ว่าวิทยากรจะเหมาะสมเพราะท่านเป็นผู้มีประสบการณ์ แต่ก็น่าจะเชิญผู้เข้าร่วมโครงการสหสาขาฯที่ประสบผลสำเร็จในการดำเนินงานหรือปัญหาอุปสรรคเพื่อให้เห็นของจริง ผู้เข้าอบรมน่าจะมีประสบการณ์ตรงที่จะทำให้เข้าใจมากขึ้นและสามารถนำมาเป็นต้นแบบที่ดีได้ ....เห็นผู้ดำเนินการบอกว่า"อย่าเอาเงินเป็นตัวตั้งการทำโครงการ"....ผู้เข้าอบรมก็บอกว่าไม่ได้เอาเงินเป็นตัวตั้งแต่ที่มาร่วมงานก็จำเป็นต้องเอาผลงานกลับไปฝากผู้บริหารว่าเรามาแล้วทำจริง คือทุกฝ่ายต้อง WIN-WIN-WIN ก็หวังว่าท่านฯผู้จัดคงเข้าใจและประเมินได้ว่าจัด TOTมา2-3 รุ่น แล้วมีบทเรียนอย่างไร ทำอย่างไรจึงจะให้ผู้เข้าอบรมได้สร้างโครงการให้ทางศูนย์ฯและประสบผลสำเร็จร่วมกัน เรายินดีให้ความร่วมมือ แต่ถ้าเราไม่มีความสามารถพอก็ต้องขออนุญาต...ขอให้กำลังใจท่านฯผอ. JJ ต่อไป ....ถ้าเป็น KM เราคงพูดถึงในส่วนที่ดี ของการอบรมดูงานครั้งนี้ คือวิทยากรดี สถานที่ไปดูงานดี ถ้าระบบการบริหารจัดการดีๆๆๆๆ โครงการนี้ย่อมไปได้ดีแน่นอน ครับ....เจ้านาย.......