รักษ์ เล ป่า ฟ้าสตูล 11

สตูล สงบ สะอาด ธรรมชาติ บริสุทธิ์

รักษ์ เล ป่า ฟ้าสตูล 11

เริ่มขึ้นอีกแล้ว...กับการเดินทางของชีวิต  การเดินทาง ครั้งนี้ของฉันต่างไปจากเดิมมากนัก

เพราะไม่ได้ไปเพื่อท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว...มันเริ่มจาก ฉันเป็นคนสตูลคนหนึ่ง

อยู่สตูลมา 30 ปีพอดิบพอดี อยากเข้าร่วมกิจกรรม รักษ์ เล ป่า ฟ้าสตูล

ซึ่งเป็นโครงการที่บ่งบอกว่า ฤดูการท่องเที่ยวทะเลสตูลเริ่มขึ้นแล้ว

เป็นการ เปิดฟ้าอันดามัน สวรรค์สตูล ปีนี้เลยได้โอกาสดี

สมัครเป็นจิตอาสาไปเก็บขยะ ที่เกาะต่าง ๆ ร่วมกับพี่น้องจิตอาสา ทั้วประเทศ กว่า 700 ชีวิต

 

การสมัครไม่ยากจนเกินไป ก็คือต้องติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด

ถ้ามีคนวงในก็จะได้ความสะดวกเพิ่มขึ้น( ซึ่งก็เป็นนิสัยที่แก้ไม่หายของคนไทย )

ค่าสมัคร 500 บาท ซึ่งรวม เสื้อยืด 1 ตัว แจ๊คเก็ต 1 ตัว และหมวก 1 ใบ ซึ่งมีสัญลักษณ์ประจำโครงการสกรีนอยู่

ปีนี้เสื้อยืดสีชมพู สดใส แจ๊คเก็ตสีขาว สกรีนอักษรสีชมพูงดงาม  พร้อมทั้งรวมอาหาร 6 มื้อ

และเรือไปกลับ ตลอดการเดินทาง  โดยได้ความร่วมมือจากทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งในจังหวัดเอง และ ต่างจังหวัดด้วย

 

 

 

 

 

กิจกรรมของโครงการหลัก ๆ แล้วเป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ซึ่งเราจะต้องเตรียมตัวเองในการเดินทางให้พร้อมที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเต้น ถุงนอน เครื่องใช้ส่วนตัว รวมไปถึงอาหารกินเล่น และยาประจำตัว แต่ทางโครงการก็ได้มีการเตรียมไว้อย่างดี ทั้งการให้เช่าเต้น  มีคณะหมอ พยาบาล ประจำเรือด้วย ถือได้ว่า เตรียมพร้อมจริงๆ

การเดินทางเริ่มจาก ท่านผู้ว่า ราชการจังหวัดสตูล  เป็นประธานในพิธีเปิด  ปล่อยเรือลำแรกจากท่าเทียบเรือน้ำลึก ปากบารา อ.ละงู จังหวัดสตูล ประมาณเวลา 9 โมงเช้า โดยเรือที่ฉันไป เป็นเรือลำแรกในพิธีเปิด  นอกจาก จิตอาสาธรรมดาอย่างฉันแล้ว เรายังมี แขก วีไอพี(VIP) ซึ่งมาจาก ททท.ตรัง อีกด้วย มาด้วย สโลกแกน “โรแมนติกสตูล ฮันนีมูนตรัง”  และสื่อมวลชนอีกนิดหน่อย

 

 

 

บ่ายสามโมงโดยประมาณ เรือทุกลำถึงเกาะอาดัง กันครบถ้วน สมาชิก จัดแจงกางเต้น และพักผ่อนบริเวณทิวสนที่ทางเจ้าหน้าที่จัดไว้ให้เรากางเต๊น เป็นอีกความสวยงาม เต้นหลากสี หลากขนาดเรียงรายกันเต็มไปหมด บางก็ พาขนมมานั่งกิน บ้างก็นั่งคุยกันเป็นกลุ่มเล็กบ้างใหญ่บ้าง บ้างก็เดินชมวิว ชายหาด  ทะเล 

 

 

 

บ่ายสี่โมง กิจกรรมของเราก็เริ่มขึ้น โดยการเรียกรวมตัวจาก staff  รวมตัวตามป้ายสีที่ได้รับแจกมาตั้งแต่ลงทะเบียน โดยเฉลี่ยกลุ่มละ 100 คน ก็แล้วแต่ว่าจะมากันครบหรือไม่ (บางคนสมัครแต่ไม่มา) แล้วก็มีกิจกรรม สันทนาการ กิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ มีการเลือกประธานกลุ่ม มีการตั้งชื่อกลุ่ม สโลแกนกลุ่ม ท่าทางประกอบ ยังกะไปเข้าค่าย ได้ย้อนวัย ไปเป็นเด็ก ๆ อีกครั้ง ภายใต้การนำของพี่เลี้ยงประจำกลุ่ม  นับเป็นกิจกรรมที่ทำให้จิตอาสาได้มารู้จักกันมากขึ้น.. 

 

 หลังจากทานอาหารเย็นแล้ว ก็มีกิจกรรมอีกนิดหน่อย และมีการกล่าวต้อนรับจากหัวหน้าอุทยานแห่งชาติตะรุเตาและ นัดแนะกิจกรรมสำหรับวันพรุ่งนี้  คืนนี้อาบน้ำ แล้วนอนเอาแรง ไว้เก็บขยะพรุ่งนี้...คืนนี้ อากาศดี ไม่มีฝนอยางที่กลัว ฟ้าสวย ดาวเต็มฟ้าเลย

 

 

 

เช้าวันที่ 20 พย 54 ตื่นมาเช้าสักหน่อย กลัวคนเยอะ อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วก็เดินเล่นริมหาด เห็นแสงสีส้มของพระอาทิตย์ ขึ้น ส่องแสงกระทบผิวน้ำ สวยงามตามธรรมชาติสรรค์สร้าง เช้าอันสดใส ท่าทางแดดจะแรง เลยต้องทาครีมกันแดด  

 

 

 

วันนี้ โปรแกม ของกิจกรรมก็คือ ลงเรือตามที่ได้กำหนดไว้ ไปยังเกาะหินงาม

 

 

 พักทานข้าวเที่ยงที่เกาะราวี  

 

จากนั้นไปที่เกาะหลีเป๊ะ เดินเที่ยวและเก็บขยะที่เกาะ

 

 

 โดยลงเรือด้านาหลังเกาะ และเดินไปตามถนนคนเดิน ออกไปยังด้านหน้าเกาะ ซึ่งจะมหาดทรายที่ละเอียดมาก เรียกได้ว่า ขาวละเอียดอย่างกับ คอฟฟี่เมต กันเลยทีเดียว 

 

 

 

 ดีใจที่วันนี้ ยังคงเป็นหาดคอฟฟี่เมตอยู่ ถึงแม้ กลางเกาะ จะเปลี่ยนไปจนแทบจำไม่ได้แล้วเมื่อเทียบกับ 4 ปีที่แล้ว หลังจากเก็บขยะเสร็จ ประมาณ สี่โมงเย็น กลับไปยังเกาะอาดัง ให้เวลาเล่นน้ำ เตรียมการแสดงของกลุ่ม  หลังจากทานอาหารเย็นก็มีกิจกรรมรอบกองไฟ ซึ่งพิธีเปิด สวยงามมาก กิจกรรมดำเนินไปอย่างสนุกสนาน จนเลยเวลาเที่ยงคืน  จบด้วยการแสดงของทีมประดาน้ำ คืนนี้ ดาวสวย แต่ลมแรงไปหน่อย

 

 

 

วันสุดท้ายตื่นมาเช้ากว่าเดิม อยากเห็นทะเลมืด ๆ ค่อย ๆ มีแสงเพิ่มขึ้น เหมือนเปิดม่านการแสดง บรรยากาศดีมาก ๆ นั่งชมบรรยากาศแล้ว ไปอาบน้ำ จัดกระเป๋า พร้อมเดินทางกลับ  ซึ่งกำหนดการเป็นไป อย่างราบรื่น ถึงแม้ขากลับ จะเจอลมฝนบ้าง แต่เราก็ลับบ้านโดยสวัสดิภาพกันทุกคน....

 

สิ่งที่ได้ จากการเข้าร่วมกิจกรรม ครั้งนี้

 

1. การเดินทางเป็นหมู่คณะที่ใหญ่ที่สุด ที่มีความเป็นระเบียบ และมีความเผื้อเฟื้อกัน

 

2. การได้เจอเพื่อนใหม่ และเพื่อนเก่า และเพื่อนบ้าน คนรู้จัก คุณครูสมัยมัธยม  และอื่น ๆ อีกมากมาย

 

3. การได้พบว่าขยะที่เกาะหินงาม มีทั้ง หวี แปรงสีฟัน ขวดยาสระผม แต่บนเกาะ ไม่มีคนอยู่เลย (มรสุม พัดมาจากกลางทะเล จากเรือประมงที่ทิ้งลงมา-staff บอก)

 

4. ได้พบว่า คนไทยก็รักความสะอาด ห้องน้ำสำหรับ คน 700 คน ไม่ได้สกปรกอย่างที่กลัวเลย

 

5.  อาหารทุกมื้ออร่อย แต่ข้าวแข็งไปหน่อย

6. ได้พบความเปลี่ยนแปลง ของแนวปะการังที่เกิดการฟอกขาวที่เกาะราวี ซึ่งน่าเสียดายมาก เพราะที่นั้น คือบทสรุปของการดำตื้นเลยทีเดียว

 

7.  ได้พบกับเมืองกลางเกาะหลีเป๊ะ ที่มีแต่คนต่างชาติ มีหนังสือภาษาอังกฤษขายเยอะกว่าหนังสือภาษาไทย มีเมนูอาหารที่มีแต่ภาษาอังกฤษ และราคาที่คนไทยแทบร้องไห จะแพงไปไหน

 

8.  ได้พบว่าเกาะอาดังยังสงบเหมือนเดิม มีตุ๊กแกประจำถิ่นทักทายทุกคืน แต่ดูเหมือนว่าเกาะจะสกปรกเพราะการที่ไม่รับผิดชอบของคนบางคน ที่กินทิ้งกินขว้าง

 

9.  staff น่ารักทุกคน  กิจกรรมบนเวทีสนุกมาก เพิ่งรู้ว่า แร๊กเก้ สไตล์ สนุกอย่างนี้ นี่เอง

 

10.  ดีใจที่ได้เกิดมาเป็นคนสตูล ได้ทำอะไรให้เมืองสตูล และ รักสตูล

(แต่หนุ่มเชียงใหม่นี่ หล่อมาก ขอเป็นสะใภ้เชียงใหม่ละกัน)

[ขจิต ฝอยทอง]

• สุดยอดเลยครับ
• รอดูกิจกรรมอีกครับ

[...ปริม ทัดบุปผา...]

ชื่นชมจิตอาสากับกิจกรรมดีดีเช่นนี้ค่ะ :)