จะว่าไปแล้ว...
เราเรียนรู้การเป็น note taker กันมาโดยตลอด
ก็อย่างเช่น
ตอนเป็นเด็กเราอาจจะเคยจดการบ้าน
ที่คุณครูให้มาไว้กันลืม...
หรือเราอาจจะเคยบันทึกเรื่องราวลงในสมุดบันทึกส่วนตัว
เพื่อระบายถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดทั้งทุกข์และสุข
และอื่นๆอีกมากมาย
ซึ่งรวมถึงขณะนี้ที่กำลังเขียนบันทึกสะท้อนเรื่องราวออกจากใจผู้เขียน...
การ"เป็น" note taker อาจถูกมองว่าเป็นองค์ประกอบที่ไม่ควรขาดในกระบวนการจัดการความรู้อย่างครบวงจร
ทว่า "ตัวหนังสือหรือสิ่งอื่นที่เก็บรวบรวมมาได้" จากการเป็น note taker นั้น
จะมีคุณค่าก็ต่อเมื่อ...
สิ่งที่เก็บรวบรวมได้นั้นถูกนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์ที่สุด
เสมือนกับว่าเป็นบันทึกจากใจผู้เขียน...สู่ใจผู้อ่าน
ซึ่งผ่านกระบวนการกลั่นกรองมาอย่างดี
เพื่อเสนอความเป็นไปของสิ่งที่ "ฟังได้ยิน เห็นด้วยตา และสัมผัสได้ด้วยใจ"
โดยไร้รูปแบบที่"กำหนดตายตัว"...
แด่ ผู้บันทึกเรื่องราว...
๑๐ กรกฎาคม ๒๕๕๕
์Note taker ==> เป็นองค์ประกอบที่ "ไม่ควรขาด" ใน ==> กระบวนการจัดการความรู้ (KM) อย่างครบวงจร==> ดีจริงๆค่ะ
ขอบคุณมาก สำหรับบทความดีดีนีนะคะ
การเขียนบันทึกนั้น
จะมีคุณค่าหรือไม่อยู่ที่การ
นำไปใช้ หรือต่อยอดให้เกิดประโยชน์คะ
หรือแม้แต่การสร้างกำลังใจ สร้างความอิ่มเอมใจ
ให้ผู้อ่านก็ถือเป็นคุณค่า อีกอย่างหนึ่งคะ
ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ ^_^
เอาภาพไม่เหมือน...มาฝากไว้เป็นเพื่อนกับภาพถ่ายของจริงด้วยค่ะ
ดีใจมากที่รู้ว่าnote taker ตาโกโก จะร่วมเดินทางไปด้วยกัน หลังจากไม่เจอกัน
เป็นเวลาเกือบปี แต่ด้วยความเข้าใจ...เรามีความสุขได้แม้ไม่เจอกัน...
เพียงรู้ได้ด้วยความรู้สึก...บายดีนะเพื่อน.. ( ^ .. ^ )
ตอนแรกก็ดีใจที่รู้ว่าจะเดินทางด้วยกัน "อีกครั้ง"
แต่...ตอนหลังภายในเรียกร้องให้..."เป็นตัวของตัวเอง"
ในแบบ "ตาโกโก"...ที่เป็นเพียงปุถุชนฅนหนึ่ง
คิดถึงทีไรก็ "สุกทุกทีล่ะน้า"...(^_^) จริงมะจ้ะ...