ประสบการณ์การพัฒนาทักษะการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพของข้าพเจ้า


อะไรตายกันแน่ (หลวงตามหาบัว)
สิ่งที่เรียนรู้ (what) : ความตายในความหมายทางธรรม

  

วิธีเรียน (how) : ศึกษาธรรมะที่หลวงตามหาบัวได้เทศน์ไว้ เมื่อวันที่ ๒๙ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๑๙ ณวัดป่าบ้านตาด เรื่อง อะไรตายกันแน่ซึ่งในขณะที่ศึกษานั้นก็ได้น้อมจิตมาพิจารณาตามสิ่งที่ท่านได้สั่งสอนเพื่อให้เกิดเป็นปัญญาในการที่จะลดระดับความทุกข์ที่มีอยู่ภายในใจไปทีละขั้น
  
ผลการเรียน (outcome) : การที่เราได้ศึกษาธรรมแล้วนำมาปฏิบัติอยู่บ่อยๆครั้ง ตามหลักของ ศีล สมาธิ เพื่อจะทำให้เกิดปัญญาในการตัดกระแสแห่งความทุกข์ต่างๆนั้น เป็นเป้าหมายของพระพุทธศาสนาที่มุ่งจะให้พุทธศาสนิกชนได้พ้นทุกข์ ถึงแม้ว่าเราอาจจะยังไม่บรรลุเป้าหมายสูงสุดในทางพระพุทธศาสนาแต่อย่างน้อยการที่เราปฏิบัติอยู่บ่อยครั้งนั้น เป็นการน้อมจิตมาศึกษาตนเอง พิจารณาตนเอง เป็นผลให้เราตัดความกังวลและเรื่องทุกข์ใจต่างๆออกไปได้บ้าง ทำให้เราสามารถปฏิบัติกิจต่างๆในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้เกิดขึ้นกับข้าพเจ้ามาแล้วหลังจากที่ได้ปฏิบัติมา

ข้อคิดที่ได้จากประสบการณ์ (reflection)  : หากเรามองแบบเผินๆ เราอาจจะคิดว่าความตายคือ การไม่มีชีวิตอยู่ของร่างกายโดยกระบวนการทำงานต่างๆของระบบร่างกายนั้นหยุดชะงักลง แต่เมื่อเราได้ศึกษาธรรมแล้วจะพบว่าชีวิตของเราประกอบด้วยกายกับจิตโดยร่างกายของเราประกอบด้วยธาตุ4 ได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ มาทำปฏิกิริยากัน(สังขาร) เมื่อถึงเวลาที่จะต้องละจากโลกนี้แล้วร่างกายก็จะสลายกลายเป็นธาตุ 4 กลับคืนสู่ธรรมชาติส่วนจิตนั้นถ้าหากมองในแง่วิทยาศาสตร์ก็คือพลังงานซึ่งไม่สามารถทำให้สลายได้ตามกฎวิทยาศาสตร์ ก็ต้องหาที่จุติใหม่เป็นวัฎวนอยู่อย่างนี้ไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด แล้วอะไรคือความตายที่แท้จริง!!  ฉะนั้นแล้วการที่เราจะหลุดพ้นจากวัฏวนนี้ เราก็ต้องหาเหตุที่ยังทำให้เกิดซึ่งวิธีการที่จะนำไปสู่การหาเหตุและดับเหตุนั้นเราก็ต้องดำเนินตามมรรคที่องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ประทานไว้ให้แก่เรา   จากบทความที่กล่าวมานั้น หลายคนอาจจะยังสงสัยว่าสิ่งเหล่านี้เป็นความจริงหรือเปล่าเพราะไม่สามารถพิสูจน์ได้ด้วยวิทยาศาสตร์แต่ผู้เขียนอยากบอกว่าถ้าหากคุณเชื่อในวิทยาศาสตร์คุณก็ต้องพิสูจน์ แต่การจะ"พิสูจน์" ธรรม นั้น เราไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์เลย เพียงแค่อาศัย กายกับจิต จนเกิดเป็นสมาธิแต่กว่าจะเป็นสมาธิได้เราก็ต้องอาศัย "ความเพียร" "สติ" "สัมปชัญญะ" ไม่ท้อโดยเด็ดขาดให้สมกับเป็นวิญญาณนักวิทศาสตร์ที่แท้จริงแล้ว คุณก็จะพบกับสิ่งที่เรียกว่าเป็น "ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ " โดยไม่ต้องสงสัย...


เอกสารหรือสื่ออ้างอิง (references)  : http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=1585&CatID=1

  


หมายเลขบันทึก: 493980เขียนเมื่อ 8 กรกฎาคม 2012 11:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 สิงหาคม 2012 23:01 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

อ่านแล้วรู้สึกชอบมากเพราะทำให้เราคลายกังวลและเข้าใจสัจธรรมในชีวิตมากขึ้น

การที่จะหลุดพ้นนั้นต้องปล่อยวางเหรอครับ

@ อภิสิทธิ์ การที่จะปล่อยวางได้นั้น ก็เป็นผลมาจาก ปัญญาที่รู้เห็นตามความเป็นจริงว่าสรรพสิ่งเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไป เมื่อเราบ่มปัญญาเช่นนี้อยู่เนืองๆแล้ว ปัญญาจะก่อให้เกิดญาณ ซึ่งญาณจะเป็นตัวนำพาให้หลุดพ้นตามลำดับของภูมิธรรมนั้นเองแต่การที่เราจะสามารถพัฒนาปัญญาให้คมกล้าพอที่จะตัดกระแสได้ ก็ต้องอาศัยสัมมาสมาธิ (ฌาน) แต่การที่เราจะดำรงสมาธิให้ตั้งมั่นได้ จิตใจของเราก็ต้องไม่กระสับกระส่ายจากเรื่องขุ่นมัวต่างๆ ซึ่งการที่เราจะมีจิตที่ไม่ขุ่นมัว ก็เพราะเราได้ประพฤติตัวมาดี(ศีล) จึงทำให้ไม่ต้องมีเรื่องคอยกวนใจมากนัก ซึ่งสรุปแล้วก็จะเห็นว่า ถ้าเรามี ศีลดีเราก็จะตั้งสมาธิได้ดี(สมถะ) เมื่อเรามีสมาธิดี เราก็จะมีกำลังพอในการตามรู้เห็นสิ่งต่างตามกฎไตรลักษณ์(วิปัสสนา) จนเกิดเป็น ญาณ(การเข้าใจลึกซึ้ง) ในการนำพาให้ออกไปได้

สัจธรรมแห่งชีวิต (*/*)

อ่านแล้วเข้าใจชีวิตมากขึ้นนา : ))

คงทำให้บรรลุยาก ครับท่าน เป็นคนที่ไม่ค่อยมีสมาธิ แต่ไม่สั้นครับ

@ คุณแว่นธรรมทอง อย่าเพิ่งท้อนะครับ ทุกๆครั้งที่ปฏิบัตินั้น เป็นการชำระสิ่งที่ไม่ดีออกจากใจเรา ก็เหมือนกับ น้ำที่มันหยดลงบนหินยิ่งหยดมากๆ บ่อยๆ สักวันมันก็ต้องแตก ครับ ขอเพียงคุณเชื่อมั่นในตัวเอง เมื่อคุณเห็นผล(มหาสติ)ที่มันเกิดขึ้นแล้ว ย่อมทำให้คุณอยากที่จะปรารถนาในภูมิธรรมขั้นสูงขึ้นไปครับ

บนท้องฟ้าไม่มีอะไรแน่นอนถ้ามองจากตรงนี้

พวกเราทั้งหลายล้วนแต่ไร้ซึ่งชีวิต นับถือแต่กำเนิดมา มรณะทั้งหลาย ล้วนแต่อยู่เบื้องหน้าการก่อเกิด

หากกามีชีวิตคือการรับรู้ซึ่งบางสิ่งเรื่อยไปแล้วไซร้ สิ่งซึ่งเราจักได้รับรู้ในห้วงสุดท้ายนั้น ก็มิใช่สิ่งอื่นใดนอกจากมรณะ ได้ค้นพบมรณะ ได้รู้แจ้งถึงมรณะ นั่นแหละไซร้คือมรณะ อิอิ ^^

ดีมากฮะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท