ความเป็นมา ข้อมูลของหมู่บ้าน ปัญหาที่ต้องการแก้ไขและแนวทางการแก้ไข
ตำบลโพธิ์หมากแข้ง เป็นที่ราบลุ่ม มีพื้นที่ทั้งหมด 97.456 ตารางกิโลเมตร จำนวนหมู่บ้าน 15 หมู่ ในเขตเทศบาล 5 หมู่บ้าน นอกเขต 10 หมู่บ้าน มีจำนวนครัวเรือน 2,000 ครัวเรือนมีจำนวนประชากร 7,592 คน ศูนย์ส่งเสริมและผลิตพันธุ์ข้าวชุมชนบ้านบัวโคก เริ่มต้นจากสมาชิก 2-3 คน ต่างคนต่างทำ ต่อมาเมื่อปี 2544 จึงได้รวมกลุ่มกันอย่างเป็นทางการมีสมาชิก 44 คน โดยมีสำนักงานเกษตรอำเภอบึงโขงหลงได้เป็นผู้ชี้แนะแนวทาง และให้คำปรึกษาด้านวิชาการ ตลอดจนการบริหารจัดการกลุ่ม โดยจัดตั้งให้เป็นศูนย์ประจำตำบลโพธิ์หมากแข้ง เพื่อเป็นแหล่งกระจายข้าวพันธุ์ดี มีการระดมทุนจากสมาชิกในปีแรกได้ 4,000 บาทส่วนปัจจัยการผลิตได้รับการสนับสนุนเป็นเมล็ดพันธุ์ข้าวและปุ๋ยเคมีจากกรมส่งเสริมการเกษตรคิดเป็นเงิน 50,000 บาท
จนกระทั่งปี 2548 จึงได้จดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชน ขณะนั้นมีสมาชิก 72 คน ต่อมาเกษตรกรเริ่มให้ความสนใจในผลิตผลของกลุ่มมากยิ่งขึ้น และเห็นถึงความสำคัญของปุ๋ยที่เป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่งในการทำการเกษตร กิจกรรมของกลุ่มจึงเน้นเรื่องการผลิตปุ๋ยหมัก การทำน้ำหมักชีวภาพ การผลิตปุ๋ยอินทรีย์เคมี และการให้ทุนกู้ยืมแก่สมาชิกเพื่อเป็นทุนประกอบอาชีพ ปัจจุบันมีสมาชิกทั้งสิ้น 112 คน
ปี 2551 สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ได้รับมอบหมายให้ดำเนินโครงการหนึ่งอำเภอหนึ่งโรงปุ๋ยจากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วว. จึงได้เข้ามาให้การอบรมเรื่องการผลิตปุ๋ยตามหลักวิชาการที่ถูกต้องทั้งในภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ จากนั้นกลุ่มได้ผลิตปุ๋ยตามแบบที่ได้เรียนรู้นั้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยผลิตตั้งแต่ปี 2551-2554 ได้ปริมาณปุ๋ยรวม 230 ตัน มีรายได้จากการจำหน่ายปุ๋ยเฉลี่ยปีละ 528,000 บาท ซึ่งกระบวนการผลิตได้มีการพัฒนาปรับปรุงในด้านคุณภาพและปริมาณเพื่อสนองตามความต้องการของผู้ใช้ปุ๋ยในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
อาชีพหลัก
อาชีพหลักของเกษตรกรชาวตำบลโพธิ์หมากแข้ง ส่วนใหญ่เป็นการเกษตรกรรม ได้แก่ การทำนา ปลูกผัก ปลูกยางพารา และผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวเองด้วย ซึ่งสภาพพื้นที่เป็นที่ราบลุ่มเหมาะสม มีความอุดมสมบูรณ์ด้านน้ำอุปโภคเพราะตั้งอยู่ใกล้แหล่งน้ำ คือแม่น้ำโขง
อาชีพเสริม
นอกจากการทำเกษตรกรรมแล้วเวลา ยังมีงานอื่นๆที่สามารถสร้างรายได้เพิ่มอีกเป็นงานเสริม เช่น การผลิตผ้าสไบบ้านโพธิ์หมากแข้ง ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป การทำไม้กวาดดอกแขมบ้านนาสาร การทำสุรากลั่น การทอผ้าไหม และการจำหน่ายหินตู้ปลา ซึ่งเป็นทรัพยากรที่มีขึ้นตามธรรมชาติสร้างรายได้ให้กับชุมชนได้อย่างดี
จุดเด่นของกลุ่ม
กลุ่มมีการจัดระบบโครงสร้างที่แข็งแรง โดยเน้นที่การวางรากฐานการบริหารอย่างเป็นระบบ ไม่เน้นตัวบุคคล มีการปรับเปลี่ยนการบริหารตามวาระ สมาชิกทุกคนมีความเคารพในกติกาเสียงส่วนใหญ่เป็นอย่างดี มีการพัฒนาบุคลากรให้มีความสามรถในหลายๆด้าน ให้โอกาสสมาชิกได้ไปศึกษาดูงานที่อื่นๆอย่างสม่ำเสมอ
การดำเนินการของกลุ่ม
เนื่องจากกลุ่มเริ่มผลิตปุ๋ยในช่วงแรกเพียงเพื่อสำหรับสมาชิกในชุมชนใช้กันเอง ประสงค์ที่จะลดต้นทุนการใช้ปุ๋ยและนำเอาวัสดุเหลือทิ้งมาเปลี่ยนให้ให้เป็นปุ๋ยและเกิดประโยชน์อย่างสูงสุด ไม่ได้มุ่งหวังด้านการจำหน่ายหรือผลกำไรแต่อย่างใด ซึ่งช่วยให้กลุ่มลดค่าใช้จ่ายได้บางส่วนแต่ทั้งนี้กลุ่มไม่ทราบว่าปุ๋ยที่กลุ่มผลิตมีคุณภาพเพียงใด หลังจากที่ได้รับความรู้ใหม่ๆ ที่ วว.ให้ความรู้และสอนการผลิตปุ๋ยอย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับพืช โดยนำหลักการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ร่วมกับเคมี ที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ามาปรับปรุงการผลิตจากเดิม ทำให้ปุ๋ยของกลุ่มตอบสนองต่อการทำการเกษตรของชุมชนเป็นอย่างมาก ชุมชนมีความพึงพอใจ ทำให้ปริมาณการผลิตมีการปรับเพิ่มเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการในพื้นที่มากขึ้น ชุมชนมีความเข้มแข็ง สามรถพึ่งพาตนเองได้อย่างมั่นคง และเป็นแบบอย่างให้แก่ชุมชนอื่นๆ
รางวัลที่กลุ่มได้รับ
กลุ่มได้รับรางวัลต่างๆในระดับจังหวัด ระดับภาคและระดับประเทศหลายรางวัล ได้แก่
3. รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 การประกวดสถาบันเกษตรกรดีเด่น ระดับจังหวัด ปี 2548จาก จังหวัดหนองคาย
4. รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 การประกวดศูนย์ข้าวดีเด่น ระดับจังหวัดปี 2550 จากจังหวัดหนองคาย
5. รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 การประกวดศูนย์ข้าวดีเด่น ระดับจังหวัด ปี 2553 จากจังหวัดหนองคาย
6. รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 การประกวดศูนย์ข้าวดีเด่น ระดับจังหวัด ปี 2554 จาก
จังหวัดบึงกาฬ
7. รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 การประกวดวิสาหกิจชุมชนดีเด่นด้านการบริหารจัดการโดย
ใช้ข้อมูลทางบัญชี ระดับจังหวัด ปี 2554 จากจังหวัดบึงกาฬ
8. รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 การประกวดวิสาหกิจชุมชนดีเด่นด้านการบริหารจัดการโดยใช้ข้อมูล ทางบัญชี ระดับภาค ปี 2555 จากสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ที่ 5
จากความมุ่งมั่นในการบริหารจัดการกลุ่มอย่างมีประสิทธิภาพและด้วยความพร้อมเพียงของสมาชิกทำให้กลุ่มมีความก้าวหน้าในการดำเนินกิจกรรมต่างๆและเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กลุ่มผู้สนใจทั้งหลายได้แวะเวียนเข้ามาเพื่อศึกษาและแลกเปลี่ยนเป็นระยะ อันเป็นความสำเร็จที่กลุ่มมีความภูมใจเป็นอย่างมาก
บทบาทแม่ข่ายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
“หมู่บ้านเทคโนโลยีการผลิตปุ๋ยอินทรีย์” กลุ่มศูนย์ส่งเสริมเมล็ดพันธุ์ข้าวบ้านบัวโคก ม.4 ต.โพธิ์หมากแข้ง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ เป็นหนึ่งในหมู่บ้าน ซึ่งได้รับคัดเลือกจากสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ (วท.) ในการยกระดับจาก“หมู่บ้านเทคโนโลยีการผลิตปุ๋ยอินทรีย์” มาเป็น “หมู่บ้านแม่ข่ายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี” ทั้งนี้ เนื่องจากหมู่บ้านบ้านบัวโคก ม.4 เป็นหมู่บ้านที่มีความเข้มแข็ง ประกอบกับประธานกลุ่มมีความรู้ความสามารถในการบริหารการจัดการ มีประสบการณ์การทำงานร่วมกับชุมชนไม่น้อยกว่า 10 ปี จึงสามารถบริหารกลุ่มบริหารผลิตภัณฑ์ และสามารถผลิตปุ๋ยได้ปีละไม่ต่ำกว่า 50 ตัน/ปี นับตั้งแต่ได้รับโครงการเป็นต้นมา มีรายได้หมุนเวียนในหมู่บ้าน เป็นเงิน มากกว่า 500,000 บาท/ปี
ไม่มีความเห็น