มดคันไฟ invicta พิษร้าย รุนแรง ตอน 2
ใครมีลูกมีหลานดูแลกันดีๆนะคะ อย่าไว้ใจ ถ้าถูกมดกัด ควรหายาหม่องทาซะ.. หรือ TA cream ทาเลย อย่า..ชะล่าใจเป็นอันขาด
ตอนที่แล้วลืมบอกตำแหน่งของการถูกมดกัด -- แหม.. มันกัดที่หน้าขาค่ะ.. ปลายกางเกงขาสั้น (ถ้าถูกมดกัดสูงกว่านี้นะสงสัยจะ..ดูไม่จืดเลยค่ะ..)
ผลการเพาะเชื้อจากหนองที่แผลตอนที่เข้าไปผ่าตัดออกมาเป็น gram possitive cocci ติดเชื้อ S. aureus (เป็นการติดเชื้อแบคทีเรีย) ตอบสนองต่อยา oxacillin , cefazolin,fosfomycin
สามวันแรกเราได้ยาปฏิชีวนะเป็นแบบฉีดวันละครั้ง แต่พอผลเพาะเชื้อกลับมา หมอต้องเปลี่ยนยาตัวใหม่เป็นฉีดทุก 6 ชั่วโมง -- สรุปว่า ถูกเปิดเส้นเลือดไว้ฉีดยาเฉลี่ยวันละ 1 ครั้ง -- เดาว่า เส้นเลือดคงทนต่อยาดังกล่าวไม่ค่อยได้ (เค้า on normal saline lock ไว้ฉีดยา )
ส่วนแผล เราก็ทำวันละ 1 ครั้ง แบบ แผลเปียก (wet dressing) สองวันแรกปวดมากเพราะต้องดึงผ้ากอส ออกจากหลุมแผล -- เราต้องขอพักยกและเรียกร้องยาฉีดแก้ปวดกันเลย -- ซี๊ดมากก -- พี่ๆ พยาบาลบอกว่า กลัวจะติดยาแก้ปวด เราเลยบอกว่า ถ้าไม่ฉีดก็เอาแขนพี่มาให้เรากัดเถอะ.. 555 พยาบาลต้องยอมคนไข้หล่ะงานนี้ ( จริงๆแล้วความอดทนเอาไปไว้ใช้ช่วงเวลาอื่นเถอะค่ะ..คุณพยาบาล ถ้าคนไข้บอกว่าปวด จงเชื่อ..เค้าเถอะ )
เรื่องของอาหาร เพื่อนๆ พยาบาล เบิกข้าวต้มกุ๊ยให้ 3 มื้อ พร้อมไข่วันละ 3 ฟอง เรียกว่า อัดโปรตีนกระหน่ำ (หวังผล ในการทำให้หลุมแผลตื้นขึ้น) อย่า.งงนะคะว่าข้าวต้มกุ๊ยช่วยอะไร มันช่วยให้กลืนง่ายค่ะ เพราะข้าวสวย ที่นี่.. โฮ.. แข็งมากกก ค่ะ
วันนี้เป็นวันที่ 10 หลังจากที่ได้ผ่าตัดระบายหนอง
ผลการตอบสนองต่อการรักษาเป็นดังนี้ค่ะ..
วันที่ 1 - 8 ไม่มีไข้ ยังฉีดยาต่อ แต่ต้องเปลี่ยนเส้นเลือดที่ฉีดยา ดังนั้น.. เราจึงขอให้พี่พยาบาลเปลี่ยนจากการ on normal saline lock เป็นการต่อน้ำเกลือให้หยดรักษาเส้นไว้ฉีดยา -- เข้าท่าดีผ่านการฉีดมา 4 ครั้งแล้ว ยังใช้ได้ดี
แต่เมื่อวานกะวันนี้มีไข้ต่ำๆ ตอนเย็นๆ (38 องศา)
แผลแดงดี ตื้นขึ้นมากๆเลย..(จากไข่แหง..เพราะบางวันได้ตั้งมื้อละ 2 ฟองแหน่ะ) ไม่ปวด เลิกฉีดยาแก้ปวดในวันที่ 3หรือ 4 นี่แหล่ะ
แต่สัก 3 -4 วันมานี้สังเกตว่าผิวหนังบริเวณรอบๆแผลที่เคยแดงคล้ำเป็นปื้นๆ ตอนช่วงเย็นๆและมีอาการคันๆพอควร
ทีนี้..แผลมีลักษณะ วงรี (จากการผ่าระบายหนอง) ที่แบะออก -- หมอจึงต้องการเย็บแผลเพื่อให้แผลติดกันเร็วขึ้น--
ปัญหาก็อยู่ที่คนไข้อย่างเรานี่แหล่ะค่ะ.. เกรงว่าพิษมด มันยังเหลืออยู่แล้วอาจเกิดการติดเชื้อเป็นหนองขึ้นใหม่ หรือไม่ เพราะจากข้อมูลในเน็ตและการทำลายเนื้อเยื่อของสารพิษกลุ่ม alkaloid ที่มันทำให้เกิดการตายของเนื้อเยื่อ
เหตุการณ์นี้.. เราเลยขอต่อรองว่าอย่าเพิ่งเย็บเลย และมีหมออีกท่านหนึ่ง (เคยรักษาแผลกลุ่มนี้) มาช่วยดูแผลและให้คำแนะนำว่า แผลแดงดีและตื้นขึ้นใช้ได้เลย ถ้าหมอแน่ใจว่า..พิษหมด(ไม่มีหนอง) ก็เย็บปิดได้เลยคร้าบบ แต่ถ้ายังไม่แน่ใจก็ทำแผลต่อไปก่อนเรื่อยๆ เพราะถ้ามันยังมีพิษอยู่มันก็จะระบายออกมากะแผลตอนทำเรื่อยๆ คร้าบบบ
เอากะเค้าซิ.. คนไข้อย่างเราก็เลยขอเลือกแบบหลัง ซึ่งหมอเองก็อยากจะเลือกอย่างแรกนะ แต่เพราะ..แจ๊คพอต มันมักจะออกกะคนกันเองนี่แหล่ะ
--- เราเลยต้องนอนนับเลขต่อที่โรงพยาบาล ---
เอาน่า.. มันเป็นเชื้อโรคจากต่างถิ่น (ถ้า..น้องมดตัวนั้นเป็นinvicta จริงๆ) ให้ชัวร์ๆดีกว่า.. ช้าๆได้พร้าเล่มงามนะคะ..
ความเห็น (1)
เราใช้เวลาในการฉีดยา ทำแผลเช้า และเช้าเย็น ในครั้งนี้นาน 25 วัน เพื่อให้แผลที่ถูกคว้าน ออก ตื้นมาเอง นานมากแต่ก็มั่นใจ เหลือแต่ต้องเช็คผลเลือดดูการทำงานของไตเพราะได้ยาแก้อักเสบนาน หลายตัว ด้วย -- ยังมีรอยแผลเป็นสีคล้ำเชียว ขนาดเกือบ 2 นิ้วได้ 5555 น้องมดเค้าฝากเอาไว้ กลัวจะลืมกัน-- ตอนนี้กลับไปทำงาน ใช้ชีวิตได้ปกติแล้ว หลังจากยืนอาบน้ำเป็นกระต่าย( ขาเดียว) มาตลอด