คุยกับพี่ชายที่แสนดี


พฤติกรรมของเด็กพื้นฐานมาจากการเลี้ยงดูของครอบครัวโดยเฉพาะทักษะชีวิตและทักษะทางสังคมที่จะผลให้เด็กเป็นคนเก่ง คนดีของสังคมได้

 "พี่ช่วยน้อง เพื่อนช่วยเพื่อน ครูต้องช่วยศิษย์เพื่อลดปัญหา"

          จากโจทย์ปัญญาที่ครูนกเคยบันทึกเกี่ยวกับนักเรียนที่ไม่ยอมพูดคุยกับใครๆ  "พูดด้วยก็ไม่พูดด้วย"    ทำให้อยากได้ข้อมูลจากบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเด็ก  
          ในที่สุดวันหนึ่งโอกาสดีก็มาถึงได้พบกับพี่ชายของนายนิ่งมาก นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาที่ปีที่ ๕ ที่พูดน้อยถึงขั้นไม่พูดเลย ครูนกเลยชวนนั่งสนทนาเรื่องนายนิ่งมาก
เบื้องต้นข้อมูลที่ได้จากพี่ชายคือ "อยู่บ้านก็ไม่เคยคุยกับใครครับครู แม้แต่กับผม"ครูนกเลยสอบถามว่าเขาคุยกับใครมากที่สุดในบ้าน คำตอบคือ พี่สาวซึ่งกำลังเรียนมหาวิทยาลัยปีที่ ๒ ส่วนเพื่อนในโรงเรียนก็มีหนึ่งคนในชั้น ม.๕ ห้อง ๓ ซึ่งพี่ชายบอกว่า "คนนี้คุยได้เป็นวัน" ส่วนแม่ของเขาน้องชายไม่ยอมคุยด้วยมาเกือบปีแล้ว โดยที่แม่ก็ไม่ทราบสาเหตุว่าเพราะเหตุใด ครูนกฟังแล้วถามตนเองเลยว่า ถ้าเราเป็นแม่นี้เราทำอย่างไร 
           ครูนกเลยถาม "ในฐานะพี่ รู้สึกอย่างไรกับเรื่องน้อง และเรื่องต่างๆ"  นักเรียนผู้พี่บอกว่า ก็คิดกังวลเล็กน้อยเช่นกัน แต่คิดว่าไม่เป็นไรน้องชายของเขาอย่างไรเขาก็ดูแลได้ในภายหน้า ครูนกเลยตั้งคำถามว่า "ทำไมเราไม่ช่วยปรับตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้น้องดีขึ้นเรื่อยๆ ไป" ครูนกชี้ให้เห็นว่า ระยะชีวิตของใครไม่แน่ไม่นอนจะทำสิ่งใดให้รีบทำ อีกประเด็นที่สำคัญคือน้องมีความศักยภาพในทางการเรียนสูงหากได้รับการช่วยเหลือทางด้านทักษะทางสังคมต่อไปน้องจะเป็นบุคคลคุณภาพคนหนึ่ง 
          กรณีของแม่ครูนกแนะนำให้พี่ชายนายนิ่งมากพูดคุยกับแม่ว่า ให้ถามน้องตรงๆเลยว่า โกรธเรื่องอะไรไม่พอใจเรื่องอะไร หากน้องไม่ตอบก็ไม่ต้องซักไซร้ไล่เรียงแต่ให้ชวนพูดชวนคุย เมื่อจังหวะเหมาะๆค่อยถามสาเหตุอีกสักครั้ง ขอให้แม่พยายามอย่าปล่อยเหตุการณ์ไว้ในลักษณะนี้
          การเล่นเกมพี่ชายยืนยันว่าน้องไม่ได้ติดเกมออนไลน์ แต่ปัญหาคือ ไม่ค่อยจะทานอาหารเช้า และมื้ออื่นๆ ครูนกเลยได้คำตอบว่า ครอบครัวไม่ได้นั่งทานข้าวร่วมกัน (ทำให้คิดถึงวงทานข้าวแบบนั่งพื้นล้อมวงในวัยเด็กของบ้านครูนก วงใหญ่ พ่อแม่และลูกสี่คน มีคนอื่นสมทบอีกเป็นระยะ) ดังนั้นบรรยากาศการเชิญชวนให้ลองชิมโน้นนี้ไม่ปรากฏผลคือ นายนิ่งมากอยู่เกณฑ์ผอม และมีอาการซีด (ครูนกแอบกระตุ้นให้หัวหน้าห้องและเพื่อนๆ ชวนเขาวิ่งรอบโรงเรียนตอนเย็นๆ)

"มอบตัวเป็นศิษย์คือลูกศิษย์ของครูเสมอ"

          ครูนกบอกจุดประสงค์ของตนเองกับพี่ชายน้องนิ่งมากว่า ครูอยากให้เขามีสังคมมากกว่านี้ แต่ครูไม่ได้คิดว่า จะเปลี่ยนได้ในทันทีเพราะการที่เขาจะเป็นเช่นนี้ก็ใช้เวลามานานพอสมควร ดังนั้นระยะเวลาการแก้ไขก็ต้องนานพอสมควร แต่จะให้ครูไม่ทำอะไรเลยคงทำไม่ได้ เพราะช่วงวัยมัธยมศึกษาตอนปลายเป็นวัยแห่งกระปุกความทรงจำที่ดี คำว่าเพื่อนมีความมากมายในวัยนี้ ครูไม่อยากให้เขาพลาดโอกาส จึงบอกว่าหลังจากนี้จะไปเยี่ยมบ้าน


"ภาพความสุขจากการเยี่ยมบ้านเด็กๆ ปีการศึกษาที่ผ่านมา"
      

          ในคาบเรียนครูนกนายนิ่งมากจะนั่งหน้าชั้นเรียนปีกด้านซ้ายมือของครูนกเสมอ ชวนพูดชวนคุยยังไม่ตอบมีแต่พฤติกรรมที่ลูกศิษย์ทำให้ครูรู้ว่า ครูมีความหวังเพราะเป็นการตอบสนองบทสนทนาเสมอทำให้รู้ว่า ฟังครู คิดตาม และรับทราบความเป็นไปของในห้องเรื่องนี้มีแสงสว่างปลายอุโมงค์ค่ะ

คำสำคัญ (Tags): #ทักษะทางสังคม
หมายเลขบันทึก: 491475เขียนเมื่อ 17 มิถุนายน 2012 10:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 ตุลาคม 2013 20:41 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)

แวะมาขอบคุณค่ะ

ที่แวะไปให้ดอกไม้ในบันทึก

และดีใจที่ได้รู้จักคุณครูเพิ่มอีกคนค่ะ

ดีใจที่ยังมีความหวัง มีแสงสว่างจากปลายอุโมงค์ค่ะครูนก

คอยเป็นกำลังใจให้นะคะทั้งน้องนิ่งมากและคุณครูนะคะ ;)

ขอเป็นกำลังใจให้ครูนก และน้องนิ่งมากนะคะ.. สัมพันธภาพกำลังเริ่มต้นขึ้นอย่างดีทีเดียว.. หวังว่าต่อไปจะได้อ่านบันทึก เล่าเรื่องที่น้องนิ่งมากพูดคุย มีสังคมที่ดีขึ้นนะคะ

  • หากครูหาโอกาสคุยกับเพื่อนของนายนิ่งมาก ที่ชอบคุยด้วยกันเป็นชั่วโมง..อาจได้ข้อมูลดีๆของนายนิ่งมาก เพราะเพื่อนย่อมเข้าใจเพื่อนดีกว่าคนอื่น

  • ขอให้กำลังใจค่ะ..กรณีนี้ไม่น่าเป็นห่วงนัก..

สวัสดีค่ะ คุณคณูBonnie

         ขอบคุณที่แวะมาทักทายค่ะ

ขอบคุณค่ะคุณปริม ครูนกมองเห็นแสงสว่างแม้จะต้องใช้เวลาสักหน่อย

ขอบคุณค่ะ คุณ kunrapee.....ครูนกกำลังเรียนรู้กับโจทย์ใหม่ก็หวังให้ตนเองทำสำเร็จค่ะ จะได้คืนวัยหวานให้กับศิษย์คนนี้

สวัสดีค่ะ ป้าใหญ่ที่เคารพ

         -  เพื่อนของนายนิ่งมาก...ก็เป็นประเภทคุยน้อยเช่นกันค่ะแต่รายนั้นยังคุยกับเพื่อนในห้อง และครู  แต่สำหรับนายนิ่งมาก.......ครูทุกรายวิชาบอกเป็นเสียงเดียวกันค่ะ.....
         -  กราบขอบพระคุณสำหรับกำลังใจ  อยากทำให้เขาได้เห็นมุมมองใหม่ๆ ที่จะเกิดประโยชน์ต่อเขาในเชิงสังคมนะค่ะ 

ขอบคุณแทนนายนิ่งมากสำหรับทุกๆกำลังใจ คุณ kunrapee คุณ ชยันต์ เพชรศรีจันทร์ คุณ ชลัญธร นาง นงนาท สนธิสุวรรณ คุณปริม pirimarj... และคุณครู Bonnie

ครูนกบอกจุดประสงค์ของตนเองกับพี่ชายน้องนิ่งมากว่า ครูอยากให้เขามีสังคมมากกว่านี้ แต่ครูไม่ได้คิดว่า จะเปลี่ยนได้ในทันทีเพราะการที่เขาจะเป็นเช่นนี้ก็ใช้เวลามานานพอสมควร ดังนั้นระยะเวลาการแก้ไขก็ต้องนานพอสมควร แต่จะให้ครูไม่ทำอะไรเลยคงทำไม่ได้ เพราะช่วงวัยมัธยมศึกษาตอนปลายเป็นวัยแห่งกระปุกความทรงจำที่ดี คำว่าเพื่อนมีความมากมายในวัยนี้ ครูไม่อยากให้เขาพลาดโอกาส จึงบอกว่าหลังจากนี้จะไปเยี่ยมบ้าน

..

ผมว่านี่จะเป็นถ้อยคำที่เปลี่ยนแปลงชีวิต เขาเลยทีเดียวครับ

 

รอคอยความหวังและแสงสว่างที่ผ่านอุโมงค์ไปแล้วนะครับ เป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ

สวัสดียามเช้าค่ะ คุณ Nobita

                  ขอบคุณสำหรับลกำลังใจ

สวัสดีค่ะ คุณแผ่นดิน

        ขอบคุณสำหรับกำลังใจอย่างมากค่ะ...ต้องบอกว่า ต้องลองกันสักตั้งค่ะ แต่พี่ชายเขามาส่งข่าวในแนวโน้มทิศทางบวก...ครูก็มีกำลังใจขึ้นค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท