แวด-วง-นางงามสงกรานต์ชุมชน
วันสงกรานต์...ผมและครอบครัว...นอกจากเวลาหลัก ๆ คือ ทำงานแล้ว ตอนเย็น ๆ จะมีกิจกรรมร่วมกัน คือ ตะเวนไปรดน้ำขอพรจากแม่...ญาติผู้ใหญ่...ทำบุญที่วัด…ไปทำบุญให้เตี่ยและญาติผู้ล่วงลับ และพาเด็ก ๆ ไปเล่นน้ำรอบตัวอำเภอบ้าง
และอีกกิจกรรมหนึ่งที่แปลกกว่าปีอื่น คือ...การไปเชียร์นางงามสงกรานต์
อำเภอของผมในเขตเทศบาล จะมีทั้งสิ้น 15 ชุมชน ซึ่งชุมชนของผมเป็นหนึ่งในนั้น...ผู้ใหญ่ในชุมชนจึงมาขอหลานสาวของผมซึ่งเป็นลูกสาวพี่ชาย เพื่อเป็นตัวแทนชุมชนส่งเข้าร่วมการประชุมนางงามสงกรานต์สืบสานวัฒนธรรมชุมชนที่มีอยู่นาน
พี่ชายของผมบ่ายเบี่ยงตั้งแต่วันสงกรานต์-วันลอยกระทง ปีที่ผ่านมา เพราะหลานสาวยังเด็กมาก เพราะกำลังชั้นมัธยมห้า แต่ที่สำคัญพี่ชายและหลานคงไม่อยากเข้าประกวด
แต่ทางผู้ใหญ่บอกว่า หาเด็กที่เป็นเด็กในชุมชนไม่ได้ เพราะลูกหลานบ้านอื่นก็ส่งเขาประกวดหมดแล้ว ด้วยเหตุผลหลายอย่าง และการมีส่วนร่วมของชุมชนทางครอบครัวพี่ชายจึงตกลง
วันประกวด วันที่ 13 เมษายน 2555 เนื่องจากผมลงเวรเกือบห้าโมงเย็น จึงมาถึงงานจนประกวดผ่านรอบแรก คัดเลือกนางงามจาก 15 คน เหลือ 10 คน ซึ่งหลานได้เข้ารอบด้วย และอยู่ในช่วงซื้อพวงมาลัย ถ้านางงามคนไหนได้เยอะ จะได้รับตำแหน่ง “ขวัญใจประชาชน”
พี่ชายมาบอกญาติ ๆ ว่า ไม่ต้องซื้อหรอก เพราะเสียดายตังค์ ซึ่งผมสังเกตแล้ว เห็นด้วยเพราะ นางงามบางท่านได้พวงมาลัย พวงแดง ๆ น่าจะเป็นหลักหลายหมื่น ซึ่งผมบอกหลานว่า จะให้ตังค์ไปซื้อหนังสือเป็นกำลังใจนอกรอบดีกว่า
ทางเวทีก็ประกาศรางวัลขวัญใจประชาชน ซึ่งหลานก็ไม่ได้ตามคาดหมาย และก็ประกาศผู้เข้ารอบสามคนสุดท้าย
หลานสาวก็ได้เข้ารอบสามคนสุดท้าย และได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง ได้ขันน้ำพานรอง สายสะพาย และเงินจำนวน 7,000 บาท ทำให้พวกเราดีใจ เพราะผิดพลาด เพราะหลานสาวไม่ชอบยิ้ม ไม่ชอบพูด ไม่เคยใส่รองเท้าส้นสูงเดิน และผมไม่เคยมองว่า จะเข้าประกวดได้
ลงจากเวทีมีคนมาทาบทามไปประกวด “ธิดาพญาแล” ปลายปี แต่หลานสาวบอกว่า หนูเข็ดแล้ว มันเหนื่อยมาก เพราะสิ่งที่ทำมันไม่ใช่ตัวหนูเลย
เรื่องน่ารู้สำหรับผม...คือ เงิน และพี่เลี้ยงนางงาม
ก่อนวันประกวด ประธานชุมชนจะนำเงินมาให้ 3,000 บาท...ทางพี่สะใภ้จะพาไปร้านเช่าชุด ซึ่งจะมีช่างผม และช่างแต่งหน้าด้วย รวม ๆ คือ พี่เลี้ยงงามนี่เอง...บอกกับพี่สะใภ้ว่า พี่เลี้ยงขอเงินเพียง 2,000 บาท ให้นางงาม 1,000 บาท แต่ถ้าได้รางวัลหารกันคนละครึ่ง
พี่สะใภ้ตกลง เพราะพี่เลี้ยงเขาดูแลให้ทุกอย่าง ตั้งแต่สอนเดิน สอนยิ้ม สอนไหว้ และตอบคำถาม และข้อตกลงการหารรางวัลไม่ได้คิด ขอให้ได้ช่วยชุมชนก็พอ
นี้แค่เพียงเวทีประกวดเล็ก ๆ ระดับอำเภอยังมีผลประโยชน์มากมาย จึงทำให้ผมบางอ้อว่า ทำไมดารา นางงาม จึงมีข่าวไม่กตัญญูกับพี่เลี้ยง และผู้จัดการส่วนตัว
เป็นเรื่องน่ารู้เล็ก ๆ ...ในวันสงกรานต์ครับ
ความเห็น (1)
ตามมาดูนางงามครับคุณหมอ...
สุข สงบเย็น เป็นประโยชน์...สวัสดีปีใหม่ไทยนะครับ