สังคมไทยวันนี้ได้ลงทุนเวลาและอารมณ์ เลือดเนื้อชีวิต เพื่อสร้างความแตกแยกกันไปมากแล้ว ผมไม่อยากเห็น ”การปรองดอง” แบบชุ่ยๆ ขอไปที แต่อยากให้ประเทศชาติได้อะไรมากกว่านี้ โดยเฉพาะ “ความรู้”
ผมอยากให้ออกกฎหมาย คุ้มครองชั่วคราว ให้ทักษิณกลับมาเมืองไทยได้อย่าง เท่ๆ ... แล้วกำหนดว่าเขาต้องมาออกรายการโทรทัศน์ โต้วาทีกับแกนนำพรรคฝ่ายค้าน (อาจเป็นอภิสิทธิ์) โดยกระจายออกในช่วง 1900-2000 น. โดยโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ทุกวันเว้นวัน เป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็ม
การทำเช่นนี้จะทำให้คนไทยได้เรียนรู้จากสองด้าน จะฉลาดขึ้น เป็นความรู้สะสมในการทำให้ชาติเจริญต่อไป
พอโต้วาทีเสร็จ ก็ให้ยุบสภา เลือกตั้งใหม่ โดยต้องมีหลักประกันด้วยว่า ผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งเป็นผู้ที่สนใจเรื่องการเมือง ทั้งนี้โดยการ “สอบวัดความรู้” การวัดความรู้นี้ไม่ได้ชี้ว่าใครถูกใครผิดในการโต้วาที เพียงแต่วัดว่าได้ติดตามดูรายการมาโดยตลอดหรือไม่เท่านั้นเอง (ซึ่งแสดงว่า เป็นผู้สนใจการเมือง มีสิทธิออกเสียงได้ คนสอบตกหมดสิทธิ์ออกเสียง เพราะถ้าให้ออกเสียงก็จะเป็นเสียงนกเสียงกาที่ไม่มีความรู้อะไรในเรื่องปรองดอง)
ถ้าพรรคเพื่อไทยชนะ ก็ให้สามารถออก พรบ. “ปรองดอง” ตามใจปราถนา ได้ (แต่ก็ต้องผ่านสภาอยู่ดีนะ) แต่ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ชนะก็สุดแล้วแต่ทางพรรคจะกำหนดแนวทางปรองดอง
แบบนี้นอกจากจะปรองดอง แล้ว ยังได้ “ความรู้” อีกด้วย ไม่ใช่ปรองดองกันแบบโง่ๆ ทั้งที่ลงทุนสร้างความแตกแยกกันไว้มาก
...คนถางทาง (๒๗ มีนาคม ๒๕๕๕)
หากพุทธธรรมนายเป็นความจริงก็ใกล้เข้าทุกที
เป็นเรื่องยากที่จะให้คนมาลงคะแนนเลือกตั้งได้อย่างยุติธรรม การปรองดองต้องใช้เวลาอีกหลายปี เพราะคนส่วนใหญ่ยังไม่สนใจการเมืองเลย มีแต่สีใครสีมัน ช่องใครช่องมัน เสียงส่วนใหญ่ยังไม่เข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองเลย แล้วอย่างนี้บ้านเมืองเราถึงล้าหลัง มีแต่ทะเลาะกัน ไม่ฟังกันเลย ดูได้จากในสภาฯ เป็นตัวอย่างไม่ดีแก่เด็กๆ เยาวชน เห็นแล้วเบื่อนักการเมืองที่ด้อยคุณภาพ มีแต่เงิน อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง การเมืองจะก้าวหน้าได้ นักการเมืองต้องมีความคิดความเชื่อและประพฤติตนให้สอดคล้องกับวิถีประชาธิปไตย หรือวัฒนธรรมประชาธิปไตย อันได้แก่ 1. มีเหตุผล 2. เคารพตนเคารพท่าน (เคารพซึ่งกันและกัน) 3. อดกลั้นในความแตกต่าง 4. ตกลงกันอย่างสันติวิธี 5. รู้จักมีส่วนร่วมทางการเมือง 6. ไม่ลืมเรื่องสิทธิและหน้าที่ 7. ทำดีเพื่อประโยชน์ส่วนร่วม 8. มีอุดมการณ์ร่วม (คือประชาธิปไตย) แน่วแน่ 9. เห็นแก่ประเทศชาติ (รักชาติ-อย่ารักแต่ปาก) 10. พัฒนาความรู้ความสามารถของตน ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เป็นแนวคิดของท่านวิสุทธิ์ โพธิแท่น กรรมการการเลือกตั้ง