7.5) ดอกคำใต้โมเดล พื้นที่แห่งการบูรณาการ นำเสนอโดย นายสำราญ จันต๊ะวงค์
รองนายกเทศมนตรีตำบลหนองหล่ม อ.ดอกคำใต้
ที่ผ่านมาคนดอกคำใต้อยากจัดเวทีคุยกันเพื่อค้นหาของดีและขยายผล แต่ไม่มีจึงมีโครงการ “ดอกคำใต้โมเดล” โดยจัดเวที “ดอกคำใต้เมืองน่าอยู่” ซึ่งอำเภอดอกคำใต้มีกิจกรรม “ทานทอด” เป็นประเพณีอันดีของชาวเหนือ ซึ่งบางแห่งได้ละเลยไปแล้ว แต่ดอกคำใต้พยายามรักษาเอาไว้ นอกจากนี้ยังมีสภาเด็ก เยาวชนแต่ของดีเหล่านี้อยู่คนละที่ไม่เคยมีการเอามาแลกเปลี่ยนกัน หลังจากที่มีเวทีดอกคำใต้เมืองน่าอยู่ จึงเริ่มมีการเอาของดีมาแลกเปลี่ยนกัน และที่สำคัญคือมีการบูรณาการทำงานระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อร่วมกันพัฒนาดอกคำใต้ร่วมกัน ปัจจุบันมีธนาคารหมู่บ้าน ซึ่งปัจจุบันมีเงินกว่า 50 ล่านบาท จนเกิดเป็นสวัสดิการชุมชนในที่สุด
กิจกรรมที่ประสบผลสำเร็จคือเกิดกระบวนการเรียนรู้ระหว่างกันของชุมชน และวัฒนธรรมประเพณีผสมระหว่างล้านนากับอีสาน เช่น ประเพณีผีหม้อนึ่ง ซึ่งเป็นประเพณีของการรวมจิตใจของชุมชนด้วยกัน
7.6) บ้านมั่นคง ความมั่นคงของชีวิต นำเสนอโดย นายสมศักดิ์ เทพตุ่น เครือข่ายบ้านมั่นคง จ.พะเยา
เป้าหมายของโครงการบ้านมั่นคง เน้นการแก้ไขปัญหาด้านที่อยู่อาศัย โดยจังหวัดพะเยามี 7 โครงการ มี 4 พื้นที่ ซึ่งไม่ได้เน้นแค่ตัวบ้าน แต่เน้นความสำคัญของการจัดการปัญหาร่วมกัน แนวคิดของการพัฒนาโครงการบ้านมั่นคงนั้น เนื่องมาจากชาวบ้านจำนวนมากไม่มีที่อยู่อาศัยที่แน่นอน โดยเฉาพะกลุ่มชุมชนแออัด กลุ่มคนที่บุกที่ธรณีสงฆ์
การทำงานมีขั้นตอนที่สำคัญได้แก่
1) จัดเวทีสร้างความเข้าใจเพื่อให้เกิดความเป็นเจ้าของร่วมกัน
2) จัดตั้งคณะทำงาน 5 ฝ่าย ประกอบด้วย ฝ่ายข้อมูล ออมทรัพย์ ที่ดิน ช่างชุมชน และเลขานุการ
3) สำรวจของมูล ความเดือดร้อน
4) จัดหาที่อยู่ที่เหมาะสม / สร้างบ้านที่มีความมั่นคง โดยใช้เงินออมที่มีอยู่
5) พัฒนาให้มีช่องทางทำกิน
ความสำเร็จที่เกิดขึ้น คือ
1) มีบ้านที่มั่นคงแข็งแรงขึ้น
2) มีสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น
3) มีกระบวนการเรียนรู้เชื่อมกันเป็นเครือข่าย
4) เกิดความร่วมมือระหว่างชุมชน อปท.และรัฐ
5) เกิดสวัสดิการชุมชนทั้งเมือง ช่วยเหลือตั้งแต่ เกิด/ แก่ / เจ็บ / ตาย
ปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 2,000 ราย และ ในปีนี้ทางเทศบาลได้สมทบกว่า 200,000 บาท ที่ผ่านมามี พอช. เป็นหน่วยงานหลักที่ให้การสนับสนุน
7.7) แรงงานนอกระบบกับอาชีวอนามัย นำเสนอโดย นายอดุลย์ เสนาพันธ์ เครือข่ายแรงงานนอกระบบ จังหวัดพะเยา
แรงงานนอกระบบ เป็นคำที่ชุมชนทั่วไปยังไม่เข้าใจนัก ปัจจุบันแรงงานนอกระบบ แบ่งออกเป็นแรงงานภาคเกษตร ภาคผลิต และภาคบริการ ในพื้นที่จังหวัดพะเยานั้นมีแรงงานนอกระบบส่วนใหญ่เป็นภาคเกษตร ซึ่งประสบปัญหาหลายอย่างทั้งเรื่องต้นทุนการผลิตสูง อาชีพและรายได้ ขาดสวัสดิการ และปัญหาด้านความเสี่ยงจากสุขภาพ
การทำงานที่ผ่านมาของเครือข่ายแรงงานนอกระบบ เน้นการสร้างเครือข่ายแรงงานนอกระบบ โดยการรวมกลุ่มอาชีพ หลังจากนั้นเราก็มาดูว่าในกลุ่มอาชีพมีความเสี่ยงเรื่องอะไรบ้าง งานที่ประสบผลสำเร็จคือ การส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงานไว้ในข้อบัญญัติของท้องถิ่น
ข้อเสนอของเครือข่ายแรงงานนอกระบบคือ
1) แรงงานตรวจสุขภาพตามความเสี่ยง
2) จัดให้มีสวัสดิการด้านแรงงานที่เหมาะสม
3) ตั้งกองงานส่งเสริมคุณภาพชีวิต และถ้าจะให้ดีก็จำเป็นระบุภารกิจแต่ละส่วน
4) ทำข้อมูลด้านแรงงานใน อปท. ให้มีความชัดเจน ภารกิจที่ต้องไปต่อไป คือ จะทำอย่างไรให้แรงงานรู้ตัว และมีตัวตนในการทำงานอย่างชัดเจน
7.8) การมีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบสุขภาพ นำเสนอโดย นางนิภากรณ์....... เครือข่ายผุ้ติดเชื้อเอช ไอ วี/ เอดส์ จังหวัดพะเยา
แนวคิดทสำคัญของการมีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบสุขภาพ คือ 1) สุขภาพไม่ใช่เรื่องโรค แต่เป็นเรื่องมิติของชีวิต 2) พลิกบทบาทจากการเป็นผู้รับบริการมาเป็นผู้มีส่วนร่วมในการให้บริการ และ3) ระบบสุขภาพต้องมีคุณภาพและมาตรฐานการรักษาที่เท่าเทียมกัน
การมีส่วนร่วมในการพัฒนามีรูปธรรม คือ
1) มีการพัฒนาศักยภาพ แกนนำเครือข่าย จำนวน 66 กลุ่ม
2) ทำงานกับผู้ได้รับผลกระทบจากการติดเชื้อ
3) เข้าไปมีส่วนร่วมกับกลไกของชุมชนในการกำหนดนโยบายด้านเอดส์
4) รณรงค์ผลักดันประเด็นด้านหลักประกันสุขภาพ เป็นต้นว่า ตั้งกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ ทำให้คนเข้าปนประเด็นเอดส์รู้เร็วรักษาได้ รวบรวมรายขื่อเพื่อเสนอ พรบ. หลักประกันสุขภาพ สิทธิบัตรยา เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงยาที่มีราคาแพงในราคาที่ถูกลง บำนาญชราภาพ
5) มีศูนย์บริการแบบองค์รวม ที่ทำงานร่วมกับหน่วยบริการที่อยู่ใน รพ.ชุมชน โดยมีภารกิจคือการดูแลด้านบริการ จิตบำบัด และการสร้างสิ่งแวดล้อมทางสังคมให้กับผู้ป่วย ซึ่งในจังหวัดพะเยามี 9 โรงพยาบาล ต่อมีเครือข่ายทำงานอยู่ 7 โรงพยาบาล (ยกเว้น โรงพยาบาลพะเยาราม และ โรงพยาบาลค่ายฯ) 6) ผู้ติดเชื้อ 4,945 คน เด็ก 382 คน เข้าถึงการรักษา
7) สมาชิกเครือข่ายทั้งสิ้น 4,863 คน ที่มีความรู้และข้อมูล
8) มีสมาชิกเครือข่ายอย่างน้อย 50% มีส่วนร่วมเป็นกลไกสำคัญในการแก้ไขปัญหาเอดส์
ผลสำเร็จที่เกิดขึ้น คือ
1) เกิดศูนย์บริการแบบองค์ความได้รับการยอมรับจากโรงพยาบาลในการให้ผู้ติดเชื้อ ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการให้บริการดูแล
2) มีส่วนร่วมในระดับจังหวัดที่เกี่ยวข้องกับนโยบายด้านหลักประกันสุขภาพและเอดส์
3) ช่วยแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนที่มีปัญหาด้านการเข้าบริการด้านสิทธิหลักประกัน
ข้อเสนอแนะ คือ
1) ปรับทัศน์คติเรื่องผู้ติดเชื้อ
2) เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดระบบสุขภาพ ใน รพสต.
3) อปท. ควรให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพของประชาชนมากกว่าโครงสร้างพื้นฐาน
7.9) ความเข้มแข็งของ “สถาบันครอบครัว” นำเสนอโดย นายทวีสิน วงศ์เรือง สถาบันครอบครัวเข้มแข็ง จังหวัดพะเยา
ครอบครัวมีความหมายมากกว่าการเป็นสามี – ภรรยา แต่หมายถึงพ่อ แม่ ญาติ ซึ่งคนในปัจจุบันถ้าเจอวิกฤตจึงมักจะลำบากเป็นอย่างมาก ที่ผ่านมาสถาบันครอบครัวจึงมีบทบาทเข้าไปสนับสนุนการพัฒนาในส่วนนี้ แม้กระทั่งการทำกิจกรรมร่วมกันเช่นการพาครอบครัวไปทำบุญในวันสำคัญทางศาสนา งานของสถาบันฯ จึงมี
1) การรณรงค์ให้คนในสังคมเห็นความสำคัญของสถาบันครอบครัว
2) การสื่อสารให้สังคมเห็นความสำคัญ
3) ทำงานด้ายการวิจัยเกี่ยวกับสภาวะครอบครัวที่อยู่ในภาวะยากลำบาก
4) การทำงานผ่านทางวัฒนธรรมท้องถิ่น
กิจกรรมที่ผ่านมา สถาบันได้จัดเวทีสร้างเวทีแลกเปลี่ยนปัญหาของครอบครัว ซึ่งจำเป็นต้องมีการเรียนรู้ทั้ง 4 กระบวนการนี้ ซึ่งพ่อ แม่ ลูก และคนอื่น ๆ ในครอบครัวจำเป็นต้องมีความเข้าใจกัน นอกจากนี้แล้วได้จัดเวทีการลดแอลกอฮอล์ เพื่อเป็นต้นแบบให้กับลูก ๆ ทั้งนี้พบว่าผู้นำชุมชนมักจะมีปัญหาเกี่ยวกับครอบครัว เนื่องจากต้องให้บริการชุมชน แต่ลืมการให้ความสนใจกับครอบครัวตัวเอง
ผลจากการทำงานที่เกิดขึ้น คือ
1) มีปริมาณการบริโภคแอลกอฮอล์ ลดลงในพื้นที่เป้าหมาย
2) มีการจัดสวัสดิการครอบครัว ในพื้นที่ต้นแบบ
3) เยาวชนมีการรวมกลุ่มเพื่อทำกิจกรรมให้กับสาธารณะ “เยาวชนจิตอาสา”
เกณฑ์การพิจารณาครอบครัวเข้มแข็ง ดังนี้
1) ความสัมพันธ์ของครอบครัวเหนียวแน่น
2) หลักคิดคุณธรรมที่เข้มแข็ง
3) มีการเรียนรู้เพื่อเท่าทันการเปลี่ยนแปลงของสังคม
4) การพึ่งพาัตนเองของครอบครัว
5) สามารถสื่อสารภายในครอบครัวระหว่างคนในครอบครัว
6) การแบ่งปันและเกื้อกูลให้กับครอบครัวรอบข้าง
ถ้าครอบครัวใดเข้าหลักเกณฑ์เหล่านี้ก็จะนำไปสู่ครอบครัวเข้มแข็งได้ และจะนำไปสู่ความเข้มแข็งของชุมชนต่อไป
8. สรุปเวที โดยนางมุกดา อินต๊ะสาร ประธานคณะทำงาน
แม้ว่าในการประชุมครั้งนี้จะได้ผลไม่มาก แต่ทุกคนที่เข้ามาร่วมมีข้อมูลที่จะนำไปสานต่อไปในพื้นที่ เพื่อขับเคลื่อนให้เกิดรูปธรรม ส่วนหนึ่งต้องขอขอบคุณ คณะทำงานที่เกิดจากหลายภาคส่วน หน่วยงานต่างๆ พี่น้องทีมงาน พอช. ทีมงานจากมหาวิทยาลัยพะเยา และพี่น้องที่มาเปิดพื้นที่พูดคุยกันในวันนี้ ซึ่งเกิดจาก 3 ภาคส่วนที่สำคัญ คือ ท้องที่ ท้องถิ่น และภาคประชาชน
ประเด็นทั้ง 7 ประเด็นที่เรานำเสนอ ต้องมีการติดตาม และช่วยไปทำงานกันในระดับตำบล พื้นที่ใดที่มีการเชื่อมกับทางตำบลได้ ต้องเปิดโอกาสให้เกิดการทำงานในระดับตำบล โดยเฉพาะปัจจุบันเราต้องเคลื่อนให้เกิดสภาองค์กรชุมชน เพื่อเป็นกลไกการทำงานตำบล
ไม่มีความเห็น