ปี 2555 นี้ กัมพูชาจะรับหน้าที่เป็นประธานอาเซียน นั่นหมายความว่า การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 20 และ 21 รวมทั้งการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน และการประชุมอีกหลายการประชุมจะเกิดขึ้นที่กัมพูชา
วันนี้รีบออกเดินทางจากกรุงเทพฯ มาถึงกรุงพนมเปญประมาณบ่ายสามโมง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาทีถึง 1 ช.ม. เครื่องออกจากสนามบินช้าเพราะมีการจราจรมาก ผู้โดยสารขึ้นเครื่องแล้วแต่ยังต้องรอคิวเพื่อรับสัญญาณจากหอบังคับการให้นำเครื่องขึ้นได้
สนามบินที่กรุงพนมเปญทันสมัย โดยเฉพาะการตรวจคนเข้าเมืองที่เราต้องยื่นพาสปอร์ตให้เจ้าหน้าที่ ต.ม. ประทับตราอนุญาตให้เข้าประเทศได้ มีเครื่องสแกนลายนิ้วมือทั้งสองข้าง แล้วยังถ่ายรูปอีกด้วย เกือบจะเผลอยิ้มให้กล้องด้วยความเคยชินเสียแล้ว
ถนนหนทางโดยเฉพาะเส้นหลักๆ ที่คณะผู้แทนอาเซียนจะใช้เดินทางจากโรงแรมที่พักหลายแห่งมุ่งสู่ Peace Palace ซึ่งจะเป็นสถานที่จัดการประชุมได้รับการซ่อมแซมและทาสีเครื่องหมายจราจรบนพื้น เพื่อเตรียมรับแขก
วันนี้เช็คอินเข้าที่พักที่โรงแรมก่อน ยังไม่ได้เห็นอะไรมาก สอบถามผู้คนทราบว่าโรงแรมที่พักนี้เป็นของบริษัทไทย แต่จ้างเจ้าหน้าที่ระดับบริหารเป็นชาวต่างชาติ โรงแรมสวยงาม อำนวยความสะดวกอย่างดี มองออกไปจากหน้าต่างห้องพัก วิวสวย มีแม่น้ำ
ตอนค่ำได้รับเชิญไปทานอาหารเย็น เป็นร้านอาหารจีน สั่งหมูแดงกับเป็ดย่าง รสออกจะเค็มกว่าบ้านเรา เป็ดย่างก็เนื้อบางกว่า ปลานึ่งซีอิ้วรสชาติใกล้เคียงกัน ของหวานเป็นมันต้มน้ำตาลใส่ขิง ที่ชอบกันมากคือของทานเล่น เป็นถั่วลิสงแกะเปลือกต้มเค็มๆ ใส่ผงพะโล้หน่อย ใช้ตะเกียบคีบทีละเม็ดทานเพลินๆ ไปได้เรื่อยๆ
คนกัมพูชากับคนไทยนอกจากหน้าตาจะคล้ายกันแล้ว กริยามารยาทก็คล้ายกัน สังเกตจากบริกรในร้านอาหาร มีการไหว้เหมือนกัน มีท่วงท่าที่สุภาพอ่อนน้อม เป็นบุคลิกร่วมกัน
กลับมาห้องพัก ได้รับรายงานว่า ดูละครทีวีของไทยได้ด้วย แต่ง่วงเหลือเกิน ขออาบน้ำและนอนเอาแรงไว้ก่อน พรุ่งนี้จะเริ่มงานในส่วนที่เกี่ยวกับฝ่ายกัมพูชา จะหนักหนาหรือเปล่ายังคาดไม่ถูก แต่คงจะได้มีเรื่องมาเล่าให้ฟังกันอีกนะคะ
ไม่มีความเห็น