"Migraine (ไมเกรน)"
>>> คืออาการปวดศีรษะครึ่งซีก(ปวดข้างเดียว)ที่เกิดขึ้นทันทีทันใดและเกิดขึ้นเป็นพักๆ มีลักษณะจำเพาะของการเกิดอาการปวดศีรษะซ้ำๆกัน ซึ่งการปวดศีรษะนั้นมีความแปรปรวนได้มาก ทั้งความรุนแรงของอาการ ความถี่ และระยะเวลาของการปวดศีรษะ
นอกจากนี้ยังมีอาการอาเจียน, กลัวแสง และมักเกิดขึ้นซ้ำบ่อยๆในช่วงเวลาที่แน่นอนสม่ำเสมอ อาการปวดศีรษะเหล่านี้มักจะทุเลา, ถ้าอยู่ในห้องมืดหรือนอนหลับ
สาเหตุของโรค
ประกอบด้วยสมมุติฐานใหญ่ๆ คือ
1.Neuronal hypothesis
เกิดจากความผิดปกติของการทำงานของเซลล์สมองตั้งแต่เริ่มต้น และมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงในหลอดเลือดในที่สุด
2.Vascular hypothesis
เกิดจากการขยายตัวของหลอดเลือดนอกกะโหลกศีรษะ และภายในกะโหลกศีรษะ การคั่งของสารเคมีในหลอดเลือดแดง หรือรอบๆหลอดเลือด
3.Humoral hypothesis
Hormone หรือ neurotransmitters มีการเปลี่ยนแปลง คือ ระดับของ serotonin ในเลือดและเกร็ดเลือดจะลดต่ำลงในขณะที่อาการของโรคไมเกรนกำเริบ ในขณะเดียวกัน ระดับของ biological mine อื่นๆ จะมีค่าสูงขึ้น
4.Platelet hypothesis
-ผนังเกร็ดเลือดมีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงในการลดลงของอุณหภูมิของคนปกติ 3 เท่า
-มีการเกาะรวมตัวกันของเกร็ดเลือดได้รวดเร็วกว่า และมากกว่าคนปกติ
-เกร็ดเลือดมีส่วนประกอบ ADP และ ATP มากกว่าในคนปกติ
-การหลั่งของ serotonin ออกมาจากเกร็ดเลือดผิดปกติ
อาการของโรค
1.Prodrome phase (ระยะอาการนำ)
พบ 50-80 % ของผู้ป่วยทั้งหมด เกิดก่อนอาการปวดราว 3 ชั่วโมง มักเกิดขึ้นทีละน้อยๆ ช้าๆ หรือความผิดปกติของหลอดเลือดที่เกิดขึ้นอย่างทันทีทันใด และอาการนำส่วนใหญ่บอกถึงการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์, บุคลิกภาพ, และการทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติ เช่น เบื่ออาหาร, รู้สึกหนาว, มีอาการคิดช้า เป็นต้น
2. Aura phase (ระยะอาการเตือน) >> อยู่นาน 10 – 30 นาที อาการมีดังนี้
3. Headache phase (ระยะอาการปวดศีรษะ) >> นานราว 2 – 72 ชั่วโมง
ถ้าติดต่อกันนานเกิน 72 ชั่วโมง เรียกว่า status migrainosus
อาจพบอาการอื่นๆแสดงร่วมด้วย ดังนี้
4. Headache termination phase (ระยะหายปวดศีรษะ)
การนอนหลับ, การกินยาแก้ปวด, การกินยาแก้อาเจียนและการอาเจียน เป็นส่วนช่วยให้อาการปวดศีรษะหายไป
ซึ่งการนอนหลับ สำคัญที่สุด โดยปกติการนอนหลับสนิทเพียง 45 ถึง 3 ชั่วโมง ในช่วงเวลาที่ปวด มักจะเพียงพอที่จะทำให้การปวดศีรษะนั้นหายไปได้
5. Postdromes phase (ระยะอาการตาม) >> เกิดได้จาก 2 สาเหตุ คือ
อาการในระยะ postdrome นี้จะมีอาการที่แสดงตรงข้ามกับในระยะ prodrome อย่างชัดเจน ในผู้ป่วยบางราย
วิธีการบำบัดรักษา
-Psychotherapy(จิตบำบัด)
-Physiotherapy: เช่น การนวด, short wave diathermy,การประคบด้วยความร้อน
-การฝังเข็ม(acupuncture)
-Hypnotherapy(สะกดจิตบำบัด)
ไม่มีความเห็น