สถานีความคิด+คิดแบบวงกลม :
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปี เป็น “วันวาเลนไทน์” ซึ่งถือกันว่าเป็น “วันแห่งความรัก” ที่ทั่วโลกต่างพากันรำลึกถึงความรักอันยิ่งใหญ่ที่ "นักบุญวาเลนไทน์" ได้มอบให้แก่ชาวโลกในครั้งอดีตเมื่อหลายร้อยปีก่อน
ก่อหน้านั้น....เมื่อพูดถึง “ความรัก” คนส่วนใหญ่มักจะหมายถึงความรักแบบหนุ่มรักสาว พ่อแม่รักลูก เพื่อนรักเพื่อน ความรักในระหว่างกลุ่มเครือญาติ หรือกลุ่มคนที่มีความคิดเห็นตรงกับตนเอง โดยมองคนกลุ่มอื่นด้วยความคิดที่แตกต่างๆ ทำให้มีการขัดแย้งและเบียดเบียนกันอยู่ตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม ต่อมานักบุญวาเลนไทน์ได้แสดงความรักในทัศนะใหม่ให้ชาวโลกได้ทราบ นั่นคือ ความรักที่ไร้พรมแดน ความรักที่ไร้รั้วกั้น และความรักที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความปรารถนาอยากจะเห็นทุกคนมีความสุขปราศจากความทุกข์อยู่เสมอ โดยไม่จำกัดว่าจะเป็นคนเชื้อชาติใด ภาษาใด หรือเสื้อสีใดก็ตาม
วันวาเลนไทน์จึงเป็นวันที่ทุกคนควรจะมอบดอกไม้และมอบความรักให้กันและกัน โดยที่ไม่ต้องเลือกว่าจะเป็นใครก็ตาม เราสามารถที่จะมอบความรักและความปรารถนาดีต่างๆ ที่มีอยู่ให้กับทุกๆ เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์ความดีงามและความสงบสุขให้เกิดขึ้นกับสังคม
การมอบดอกไม้และมอบความรักให้แก่กันและกันนั้น ในความเป็นจริงแล้ว เราสามารถที่จะมอบให้กันได้ตลอดเวลา ไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นวันวาเลนไทน์เพียงวันเดียวเท่านั้น หากแต่เราสามารถจะมอบดอกไม้แห่งความรักให้กันได้ทุกๆวัน ตามที่ใจปรารถนา และบุคคลที่เราจะมอบความรักให้ ก็ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะคนใดคนหนึ่ง หากแต่เป็นคนทุกคน ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม
อนึ่ง เกี่ยวกับเรื่องความรักนั้น ในทัศนะทางพระพุทธศาสนาได้แบ่งประเภทของความรักออกเป็น 2 แบบ กล่าวคือ:-
1. Sensual Love คือ ความรักขั้นพื้นฐาน ความรักที่เจือปนด้วยกิเลส ความรักที่หวังสิ่งตอบแทน ความรักที่เฉพาะเจาะจงบุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเป็นความรักที่สามารถจะนำความทุกข์มาสู่ชีวิตได้ ถ้าหากไม่ได้รับการตอบสนองหรือผิดหวังขึ้นมา
2. Universal Love คือ ความรักแบบสูงสุด ความรักที่ไร้พรมแดน ไร้รั้วกั้น ไร้ขอบเขต ความรักที่เต็มเปี่ยมไปด้วยการให้ โดยไม่คิดหวังสิ่งใดตอบแทน และไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งเป็นความรักที่สามารถจะนำความสุขและสันติภาพมาสู่สังคมโลกได้ในที่สุด
ความรักทั้ง 2 แบบ ที่กล่าวมาข้างต้น แม้จะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาจากห้วงอารมณ์ที่มีอยู่ในใจของมนุษย์เหมือนกันก็จริง หากแต่กลับมีความแตกต่างกันลิบลับในด้านผลที่เกิดขึ้น กล่าวคือ ความรักแบบแรกจะทำให้คนมีความคิดที่คับแคบ เห็นแก่ตัว และมองไม่เห็นความสำคัญของคนอื่น ส่วนความรักแบบที่สองนั้น จะมีลักษณะที่ตรงกันข้ามกับแบบแรก กล่าวคือ ความรักแบบที่สองจะทำให้คนมีความคิดที่เปิดกว้าง ไม่เห็นแก่ตัว เสียสละ และมองเห็นคนอื่นเป็นคนที่มีความสำคัญ ซึ่งจะเป็นแนวทางในการนำไปสู่การส่งเสริมสันติสุขและสันติภาพให้เกิดขึ้นกับสังคมและโลกในที่สุด
ความรักที่หลายๆ ศาสนาสอนให้คนมอบให้แก่กันและกัน ก็คือ ความรักแบบที่สอง ซึ่งทางพุทธศาสนา เรียกว่า “เมตตา” แปลว่า ความรัก ความปรารถนาดี ปรารถนาอยากให้ผู้อื่นมีความสุข ปราศจากความทุกข์ทั้งปวง ซึ่งเป็นความรักที่ไร้ขีดจำกัดหรือรักที่ไร้พรมแดน
สาเหตุที่ศาสนาทั้งหลายสอนให้คนมีความรักและความเมตตาต่อกันอยู่เสมอ ก็เพราะต่างก็เชื่อมั่นว่าความรักและความเมตตาเท่านั้น ที่จะค้ำจุนโลกให้อยู่รอดได้ โดยที่มนุษย์ไม่ต้องเบียดเบียนแก่งแย่งชิงดีชิงดีกันหรือทำลายล้างกันเอง
นักบุญวาเลนไทน์.....เป็นอีกผู้หนึ่งที่มีความเชื่อมั่นในเรื่องนี้ ดังจะเห็นได้ว่าตลอดชั่วชีวิตของท่าน ไม่ว่าท่านจะเดินทางไปที่ไหนก็ตาม ท่านจะสั่งสอนให้ประชาชนมีความรักความเมตตาต่อกันอยู่ตลอดเวลา ซึ่งถือว่าเป็นความรักในทัศนะใหม่ที่ช่วยจุดประกายให้คนทั้งโลกได้เข้าใจถึงอานุภาพแห่งความรักและความเมตตามากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในยุคสมัยปัจจุบันดูเหมือนว่ามีเพียงคนส่วนน้อยที่จะเข้าใจความนัยและเจตนารมณ์ที่แท้จริงแห่งวันวาเลนไทน์ ได้อย่างถูกต้อง ในขณะที่ผู้คนส่วนใหญ่จะคิดว่าวันวาเลนไทน์ เป็นวันที่หนุ่มสาวจะต้องหาสิ่งของต่างๆ ไปมอบให้แก่กัน โดยไม่ได้สนใจใยดีแก่คนอื่นๆ แต่อย่างใดเลย
วันวาเลนไทน์ในปัจจุบัน จึงเป็นวันที่ดูเหมือนจะมีความสำคัญเฉพาะสำหรับวัยรุ่นหนุ่มสาวมากกว่าวัยอื่นๆ
โลกนี้คงจะมีความสุขและมีสันติภาพมากกว่าที่เป็นอยู่ ถ้าหากคนเราทุกคนพากันดำเนินรอยตามคำสอนที่ศาสดาของตนได้พร่ำสอนอย่าเคร่งครัดและถูกต้อง รวมทั้งเรียนรู้ที่จะรู้จักการแบ่งปันความรักความเมตตาให้กันและกันอยู่เสมอ
14 กุมภา..... วันวาเลนไทน์….ขอให้ดอกไม้แห่งสันติภาพและความเมตตาจงแบ่งบานในใจของทุกๆ คน......นะครับ
เพลง "ความฮัก"
ร้องโดย "ไผ่ พงศธร"
ความรักไร้พรมแดน นำพาสันติสุข และสันติภาพ
ชอบและปรารถนา เป็นความฝันอันสูงสุด ขอบคุณค่ะ
สวัสดีครับ คุณบุษรา
-ขอบคุณมากๆ ครับ ที่กรุณาแวะเข้ามาเยี่ยมและมอบดอกไม้ให้เป็นกำลังใจ
-ขอให้ดอกไม้แห่งความรัก สันติภาพ และความเมตตา จงแบ่งบานในหัวใจของคุณบุษราอยู่ตลอดเวลา......นะครับ
สวัสดีครับ คุณ Poo
-ขอบคุณมากๆ ครับ ที่ยังอยู่เป็นเพื่อนกันเสมอมา
-ความรัก.....เป็นสิ่งที่สวยงาม และสามารถเอาชนะทุกสิ่งได้นะครับ
สวัสดีครับ คุณสามสัก(samsuk)
-ขอบคุณมากๆ ครับ ที่กรุณาแวะมาเยือนและทักทาย
-ขอให้ดอกไม้แห่งความรัก สันติภาพ และความเมตตา จงแบ่งบานในหัวใจของคุณสามสักไปตลอดกาล......นะครับ
สวัสดีวันแห่งความรักนะคะ คุณอักขณิช
มามอบความปราถนาดีต่อกันค่ะ
แวะมาร่วมสวัสดีด้วยคนครับผม
สวัสดีครับ คุณหมอ ทพญ.ธิรัมภา
-ขอบคุณมากๆ ครับ ที่กรุณาแวะมาเยี่ยมและนำดอกไม้แห่งความปรารถนาดีมาฝาก
-ดอกไม้ที่คุณหมอส่งมาให้สวยดีนะครับ....เห็นแล้วทำให้ได้ข้อคิดว่า....การมอบดอกไม้แห่งความรักและความปรารถนาดีให้แก่กันและกันนั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นดอกกุหลาบเพียงอย่างเดียวเท่านั้น หากแต่เป็นดอกอะไรก็ได้ และก็สามารถมอบให้ได้ตลอดเวลา ไม่ใช่เฉพาะเพียงแค่ตอนวันวาเลนไทน์เพียงวันเดียวเท่านั้น
-ขอให้ดอกไม้แห่งความรัก ความปรารถนาดี และความเมตตา จงแบ่งบานในหัวใจของคุณหมอไปตลอดกาล......นะครับ
สวัสดีครับ อาจารย์โสภณ เปียสนิท
-ขอบคุณมากๆ ครับ ที่กรุณาแวะเข้ามาเยี่ยมและให้กำลังใจอย่างสม่ำเสมอ
-ขอให้ดอกไม้แห่งความรัก สันติภาพ ความปรารถนาดี และความเมตตา จงแบ่งบานในหัวใจของอาจารย์ตลอดเวลา......นะครับ