สัจจธรรม..ในมุมมองแห่งตน


สิ่งใดตามมา.เมื่อโลกเป็นพลวัต..

เมื่อโลกก่อกำเนิดขึ้นมา..พร้อมกับชีวิตที่มีลมหายใจหรือเรียกว่าสิ่งมีชีวิต..มนุษย์..เป็นสิ่งมีชีวิตประเภทหนึ่งที่มีสมองใหญ่..กว่าสิ่งมีชีวิตอื่นใด..สมองนำมาซึ่งความชาญฉลาด..ที่ก่อเกิดพัฒนาการสร้างและทำลายล้าง..เมื่อมีชีวิตก็ต้องอยู่เพื่อให้มีชีวิตต่อไป การหาอาหารใส่ปากท้องก็เริ่มขึ้น มนุษย์เป็นนักวิทยาศาสตร์มาตั้งแต่โบราณการด้วยการลองผิด ลองถูก ลองกินในสิ่งที่คิดว่ากินได้..แรกเริ่มก็เรียนรู้ไปเรื่อยๆด้วยการสังเกตๆๆๆ..ลองๆๆๆๆ ข้อมูลเยอะเข้าเริ่มจะจดจำไม่ไหว สมองอันชาญฉลาดเริ่มหาทางถ่ายทอดจดบันทึกโน่น นี่ นั่นไปตามสิ่งที่สามารถจะจดมันลงไปได้..จากสลักบนหินผา หน้าไม้จนกลายมาอยู่บนหน้ากระดาษ คอมพิวเตอร์ ในปัจจุบัน..ตั้งต้นก็เพียงเพื่อมีชีวิตรอดสบายๆ..แต่เมื่อมนุษย์เริ่มมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ..การแบ่งพวก แบ่งฝ่าย แบ่งหมู่ แบ่งเหล่า จึงเริ่มบังเกิดขึ้น ประกอบกับทรัพยากรโลกเริ่มมีขีดจำกัด..รับไม่ไหว..ความคิดเริ่มแตกต่าง หลากหลายการแก่งแย่ง แข่งขัน รบรา ฆ่าฟัน เพียงเพื่อจะครอบครองในสิ่งที่คิดว่าจะทำให้ตน ให้พวกพ้องมีชีวิตอยู่รอดก็เกิดตามมา..ไม่ใช่เพียงแค่ให้มีกิน..แต่ยังกักตุนกลัวจะไม่มีกินในวันหน้าเพิ่มขึ้นอีก..ใครมีแรงใครมีพวกมาก มีอำนาจก็กักตุนได้มาก..พวกไม่มีแรง ไม่มีพวก ไม่มีอำนาจเป็นอันอดไป..มีกินไปวันๆก็บุญโขแล้ว..อยากมีอยากได้ ก็เรียนรู้ในการทำงานด้วยหยาดเหงื่อ สมอง สองมือ สองเท้าเอาไปแลก ไม่ว่าจะเกษตรหลากรูปแบบ อุตสาหกรรม..เรียนรู้ไป พลิกแพลงไป เพราะชีวิตถ้าไม่เรียนรู้ ก็เป็นอันจบชีวิต..เพราะสู้เขาไม่ได้ ไม่มีที่ยืน ที่อยู่ ที่กิน..ต่างกับพวกที่กักตุน เพราะเหลือกินจนล้นปากล้นท้อง..ตั้งแต่ต้นมานี้..เพียงแค่จะบอกว่า..เมื่อโลกเป็นพลวัต เปลี่ยนแปลงไม่มีที่สิ้นสุด มนุษย์ต้องมีการเรียนรู้เพื่อให้มีชีวิตอยู่รอด..อ่านออกเขียนได้ มีทักษะในการดำรงชีวิตพอมี พอกิน พอประมาณ พอเพียง อยู่ร่วม..กับคนอื่นติดต่อสื่อสานพูดคุยได้อย่างมีสันติภาพ เสรีภาพ ไม่แก่งแย่งแข่งขัน และอยู่อย่างมีความหมายด้วยความพึงพอใจในตนเอง มีศักดิ์ศรี ช่วยเหลือเกื้อกูลสังคม..แต่..ถ้าหากมีกิเลส..โลภะ โมหะ โทสะ..มาครอบงำจิตใจมนุษย์ซะแล้ว..ความสงบสุขทั้งต่อตนเอง ผู้อื่นและสังคม คงไม่มี เพราะ..มนษย์จะมีแต่ความเห็นแก่ตัว พวกพ้อง เบียดเบียนทั้งต่อเพื่อนมนุษย์และธรรมชาติสิ่งแวดล้อม รบราฆ่าฟันกันเอง..กับภัยธรรมชาติ..มากมายก่ายกองไปหมด..สุดท้าย..สิ่งใดจะตามมา เมื่อโลกเป็นพลวัต....หยุดคิดด้วยสติ จะนำมาซึ่งปัญญาแห่งตน..

หมายเลขบันทึก: 478037เขียนเมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2012 15:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 กุมภาพันธ์ 2012 02:00 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีครับคุณธนวรรณ

คงจะเข้ากับลักษณะคำกล่าวที่ว่า "ทรัพยากรธรรมชาติในโลกนี้เพียงพอสำหรับมนุษย์ทุกคน แต่...ไม่เพียงพอสำหรับคนที่มีความโลภเพียงคนเดียว" ของคานธีกระมังครับ

เป็นสัจจธรรมเลยทีเดียว..สำหรับคำของคานธี..ทุกวันนี้การแก่งแย่งแข่งขัน เอารัดเอาเปรียบ การเบียดเบียนทั้งมนุษย์ด้วยกันเองและสิ่งแวดล้อม..มาจากกิเลส "โลภ" เลยจริงๆ..แล้วเราจะแก้ปัญหาตรงนี้ยังงัยกันดี..

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท