“โจรปล้น 10 ครั้ง ไม่เท่าไฟไหม้ครั้งเดียว” คำกล่าวนี้ยังคงใช้ได้เสมอไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไร แม้ผู้ที่ประสบมหาอุทกภัยครั้งนี้ จะได้รับความเสียหายมากบ้าง น้อยบ้าง แต่ไม่ถึงกับสูญสิ้นทุกอย่าง เหมือนกับคนที่ไฟไหม้บ้าน ซึ่งไม่เหลือแม้แต่ที่อยู่อาศัยและไม่มีใครสนใจมาเยียวยา
ปู่โคอิ หรือคออิ๊ เป็นหนึ่งในผู้ประสบภัยครั้งนี้ บ้านที่ปู่อาศัยมานานกว่าครึ่งชีวิต ถูกเผาทำลาย ไม่เพียงแต่บ้านที่ปู่ต้องสูญเสีย รวมไปถึงยุ้งข้าวเปลือก ที่เก็บเสบียงสำหรับคนทั้งครอบครัวก็ถูกทำลายหมดสิ้น ปัจจุบันปู่โคอิ หรือคออิ๊ ต้องระเห็ดระเหินมาอาศัยอยู่กับลูกสาว ที่บ้านบางกลอย หมู่ที่ 1 อย่างไม่รู้ว่าจะได้กลับไปอยู่บ้านของตนเมื่อไหร่ ทำได้เพียงคนึงหา
วันที่ 3-5 ธันวาคม 2554 ฉันและพี่ด๋าว-ดรุณี ไพศาลพาณิชย์กุล ในนามสถาบันวิจัยและพัฒนาเพื่อเฝ้าระวังสภาวะไร้รัฐ เดินทางมาพร้อมกับคณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติ ผู้ไร้สัญชาติ แรงงานข้ามชาติ และผู้พลัดถิ่น สภาทนายความ ซึ่งลงพื้นที่หมู่บ้านบางกลอย หมู่ที่ 1 ต.ห้วยแม่เพรียง จ.เพชรบุรี เพื่อเก็บข้อเท็จจริงในกรณีชาวบ้านถูกเจ้าหน้าที่อุทยานเผาบ้าน จุดประสงค์ในการเดินทางครั้งนี้ของฉันเพื่อต้องการสอบถามข้อเท็จจริงจากปู่โคอิ หรือคออิ๊ ในประเด็นเรื่องความดั้งเดิมของชุมชน เพราะปู่เป็นคนที่อายุมากที่สุดในชุมชนและเป็นผู้เสียหายในกรณีถูกเผาบ้านด้วย
พบหน้า พูดคุย....
..อ่านเรื่องทั้งหมด คลิ๊ก บ้านฉันในป่าแก่งกระจาน
ไม่มีความเห็น