เด็กพิเศษมักเป็นผู้เรียนที่ท้าทายความสามารถของครูมาก แต่ในทางตรงกันข้ามการสอนเด็กกลุ่มนี้จะช่วยให้ครูต้องกลับไปทบทวนหลักและเทคนิควิธีการสอน ตลอดจนคิดประดิษฐ์สื่อที่น่าสนใจและช่วยให้เด็กเรียนรู้ ดังนั้นการสอนเด็กพิเศษจึงเป็นเครื่องมือในการพัฒนาวิชาชีพครูของตนอย่างดีเยี่ยม จึงขอเป็นกำลังใจให้แก่คุณครูทุกท่านที่มีเด็กพิเศษในชั้นนะคะ
หลักการสอนเด็กพิเศษโดยทั่วไปรวบรวมจากความรู้ที่เรียนมาบวกกับประสบการณ์ตรงของตนเองมีดังนี้ค่ะ
1) ยอมรับเด็กตามระดับที่เขาเป็นอยู่จริงๆ ไม่ใช่คาดหวังให้เขาทำได้เหมือนเพื่อนๆในชั้นและทำให้เราผิดหวังและโกรธเมื่อเขาไม่สามารถทำได้อย่างที่เราคาดหวัง การเรียนรู้ที่จะยอมรับเด็กตามความเป็นจริงเป็นการพัฒนาตนอย่างสำคัญของครูเพราะครูที่ดีควรรู้จักและทำงานกับนักเรียนของตนได้ตามระดับความสามารถที่แท้จริงของเขาใช่มั้ยคะ
2) ศึกษาเด็กและพิจารณาว่ามีด้านใดของเขาที่ต่างจากเพื่อนๆมากจนเราต้อง
3) ตั้งวัตถุประสงค์ในการเรียนรู้ของเขาให้สมเหตุสมผลพอจะเป็นไปได้ภายในเวลาไม่นานเกินไป
3) ย่อยงาน (ภาษาวิชาการเขาเรียกว่า task analysis) หมายถึงการที่พิจารณาว่าสิ่งที่เราอยากให้เขาทำได้นั้น ประกอบด้วยองค์ประกอบอะไรบ้าง หรือ มีลำดับขั้นของความสามารถอะไรบ้าง ฟังแล้วยากใช่มั้ยคะ ลองอ่านตัวอย่างดูก็จะรู้สึกว่าไม่ยากค่ะ
ลองนึกถึงการสอนบวกเลขก็ได้ค่ะ ถ้าเราอยากให้เด็กบวกเลขสองหลัก
เวลาหมดแล้ว แล้วจะกลับมาเขียนต่อนะคะ
เด็กที่มีลักษณะทางร่างกายที่อยู่นิ่งๆไม่ได้ ขยับไหล่ ขยับปาก โยกศรีษะ ทำเสียงอยูในลำคอเป็นระยะตลอดเวลาบางที่ทำเสียงคล้ายคนสะอึก พูดมากเกิน แต่คัดลายมือได้สวย วาดรูปได้ดี เป็นเด็กผู้ชายอยู่ชั้น ป.๔,ครูนกพอจะมีคำแนะนำในการสอนอย่างไรได้บ้าง
อย่างแรกนะคะ เราคิดว่าเราต้องการให้เด็กของเราคนนี้พัฒนาในเรื่องไหนที่เร่งด่วน แล้วเลือกเพียง 1-2 ข้อ ก่อนนะคะ คุณวิสุทธิ์ลองเลือกมาสัก 1 ด้าน และอธิบายอย่างละเอียดเท่าที่จะทำได้เกี่ยวกับเด็กคนนี้ ขอให้เน้นว่าเขาทำอะไรได้แล้วบ้างและอยากให้เขาทำอะไรได้ สมมุติให้ชื่อ น้องนก ก็ได้ค่ะ จากข้อมูลที่คุณครูให้มา ครูนกจะได้วิเคราะห์และแนะนำว่าควรจะทำอะไรต่อไปค่ะ
อยากสอนบ้างแต่ไม่สามารถ
เมื่อปีที่แล้วมีเด็กพิเศษมาเรียนร่วมด้วย แต่เนี่องจากไม่มีความรู้ด้านนี้มากนักจึงดูแลเขาไปวันๆ...ก็มานึกเสียใจที่เจอพี่นกช้าไปไม่อย่างนั้นก็คงจะได้ช่วยเด็กคนนั้นได้ดีกว่าที่ผ่านมา
เป็นความรู้ท่น่าในใจมาก ๆ