น้ำท่วม


ประสบการณ์ที่ไม่เคยลืม



แม่ต้อยเฝ้าระวังน้ำท่วมมามากกว่าสัปดาห์
แต่ก็คิดว่าสักวันหนึ่งน้ำต้องท่วมแน่นอน แต่ในวินาทีที่น้ำท่วม
มันเป็นประสบการณ์ที่ไม่เคยลืม แม่ต้อยจึงอยากเล่าเรื่องราวให้น้องๆที่ยังไม่มีประสบการณ์ได้รับรู้  อันนี้ยกเว้นน้องๆที่มีประสบการณ์มากกว่านะคะ

บ่ายวันที่๑๙ ตอนกลางวันแม่ต้อยออกไปเสวนากับเพื่อนๆ
ที่เรียนวปอ.ด้วยกัน สมาชิกกลุ่มนี้มีทั้งนักการเมือง ข้าราชการ ทหารและตำรวจ
เวลาแม่ต้อยไปเสวนากับเพื่อนกลุ่มนี้ แม่ต้อยจะฟังมาก และจะพูดน้อย
เพราะแม่ต้อยสังเกตว่าพวกที่พูดมากๆ ไม่ค่อยมีใครฟังสักเท่าไหร่

เรื่องที่คุยก็ไม่หนีเรื่องน้ำท่วม
เรื่องการจัดการระบบน้ำที่ไม่มีประสิทธิภาพ
ที่ตอนนี้ดูเหมือนว่าทุกคนจะกล่าวโทษไปมา บ้างก็ตั้งตัวเองเป็นโหราจารย์
ทำนายทายทักดวงชะตาบ้านเมืองไปถึงไหนต่อไหน

ลูกชาย โทรมาหาว่าแม่อยู่ที่ไหน
ตอนนี้ที่บ้านเขาประกาศว่าน้ำจะท่วมแล้ว 
กลับบ้านด่วน..

แม่ต้อยจึงแยกตัวจากเพื่อนๆ
มีผลให้วงสนทนาแตกกระจายไปด้วย อิอิ

แม่ต้อยให้คนขับรถที่บ้านมารับช่วงต่อจากสมหมาย
เพราะคิดว่าเขาเองคงห่วงบ้านเขาเช่นเดียวกัน 
ระหว่างทางแม่ต้อยเห็นความโกลาหลของผู้คน มีคนขับรถออกจากบ้านมาเต็มถนน
เพื่อนำรถมาจอดในที่ปลอดภัย รถติดยาวเหยียดตลอดเส้นทางที่จะกลับบ้าน

แม่ต้อยเห็นผู้ชายสองคน คนหนึ่งขับรถเก๋ง
คนหนึ่งขับมอเตอร์ไซด์ รถทั้งสองขับมาเฉี่ยวกัน เกิดการทะเลาะกันกลางถนน อีกคน
ถือดาบยาวแกว่งไกว พร้อมกับชี้หน้าต่อว่าผู้ชายอีกคนอย่างรุนแรง
ส่วนผู้ชายอีกคนก็เพียงแต่ยกมือไหว้ประหลกๆ  น่าจะเป็นคนที่ไปชนเขานะ 

แม่ต้อยเห็นแล้วไม่สบายใจมาก
อยากให้เขาอภัยให้กัน ในยามนี้ ทุกคนต่างก็มีความทุกข์พอตัวอยู่แล้ว

แต่สุดท้ายก็เห็นเขาชกกันอุตลุต
ไม่ทราบว่าสุดท้ายจะลงเอยอย่างไร?

มาถึงบ้านน้ำยังไม่มีสักหยด
แต่เห็นคนขนข้าวขนของเตรียมย้ายกันเป็นจำนวนมากแล้ว

ประมาณ หกโมงเย็น
เสียงหวอเตือนภัยดังลั่น แม่ต้อยเห็นน้ำค่อยๆปริ่มขึ้นมาริมถนนเล็กน้อย
เท่านั้นเองยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น จึงนั่งดูข่าวดูว่าจะเป็นอย่างไรกันแน่

สักทุ่มครึ่ง แม่บ้านโทรมาบอกว่า
น้ำไหลเข้าบ้านแล้ว เสียงดังมาก แม่ต้อยรีบลงไปดู ตอนนี้ น้ำท่วมเกินระดับข้อเท้าแม่ต้อยมาแล้วมันเร็วมาก

ปรมินทร์
เคยบอกแม่ต้อยว่าน้ำมันจะเข้าทางท่อน้ำ ทางรอยแตก 
นี่เป็นความจริงทุกอย่าง บรรดากระสอบทราย
ไม้อัดต่างๆนานาที่ไปขวางทางเดินเขานั้น ทำอะไรไม่ได้เลยคะ

น้ำไหลซึมมาทั่วทิศทาง
เป็นความยิ่งใหญ่ของสายน้ำ ที่เรามนุษย์ธรรมดา อย่าได้ไปต่อสู้เลย  อันนี้เป็นความรู้สึกของแม่ต้อย

แม่ต้อยคิดว่าแม้ในสนามหญ้า ในสวน
น้ำก็ผุดออกมาจากกลางดินได้ เราไม่สามารถห้ามความยิ่งใหญ่นี้ได้เลยสิ่งที่ทำตอนนั้นคือ การตัดไฟเพราะเกรงว่าจะเกิดอันตรายเพราะเราไม่ทราบว่าค่ำคืนนี้จะเกิดอะไรขึ้น

แม่ต้อยจัดกระเป๋าให้ยาย ให้ตัวเอง
พร้อมกับเครื่องใช้ที่จำเป็น และคิดว่าพรุ่งนี้เช้าจะย้ายออกแน่นอนคืนนั้น แม่ต้อยนอนหลับ มีอาการเวียนหัวจากโรค และอาจจะมาจากความกังวลด้วย

เพื่อนบ้านครอบครัวหนึ่งหนีไม่ทัน
แม่ต้อยจึงให้เขาพักบนชั้นที่สองของบ้านอีกหลังหนึ่งในคืนนั้น

มีเพื่อนๆหลายคนโทรมาให้กำลังใจ
มีอาจารย์ อนุวัฒน์ อาจารย์ ปัญญา อาจารย์ศุภชัย อาจารย์ สุรชัย ด้วย อาจารย์
ศุภชัยแนะนำว่าให้ย้ายออกคืนนี้แหละไม่ต้องรอเพราะจากข่าวสถานการณ์คงไม่ค่อยดี  แม่ต้อยบอกว่า พอดีมีคุณยายด้วย เกรงว่ายายจะตกใจ ขอรอจนถึงพรุ่งนี้ดีกว่า

แม่ต้อยรู้ว่าคืนนั้น ท่านปรุงและแม่บ้าน
เขาคงไม่ได้นอนกันหรอก มีตำรวจหลายๆคนมาช่วยย้ายของอีกครั้งหนึ่ง  แม้ว่าเราจะเตรียมการณ์มานานกว่าสัปดาห์
แต่แม่ต้อยคิดว่า เรายังประเมินสถานการณ์ผิดอย่างมาก

รุ่งเช้า แม่ต้อยถูกปลุกจากโทรศัพท์ของเพื่อนๆ
ถนนหน้าบ้านกลายเป็นคลองไปแล้ว เหลืออีกนิดเดียวน้ำจะท่วมบ้านหลังใหญ่ที่แม่ต้อยพักอยู่แล้ว
สนามหน้าบ้านน้ำสูงแค่เข่าแล้ว

เรารีบยกกระเป๋าและของที่จำเป็นออกมาเพื่อขึ้นรถที่มารับออกจากบ้าน
กระสอบทรายที่กั้นไว้ถูกน้ำเซาะจนใช้การไม่ได้ จนกลายเป็นสิ่งขวางทางไปซะงั้น

คุณยาย หน้าซึดเผือด ที่เคยบอกว่า “
ไม่ไป ไม่ย้าย “ ตอนนี้ไม่มีแล้ว นั่งสวดมนต์ ตลอดทาง

แม่ต้อย น้องหมู คุณยาย ต้องออกไปก่อน
เราต้องนั่งท้ายรถ เพื่อให้รถเชิดหน้าสูง น้ำจะได้ไม่ท่วมเครื่องยนต์ น้ำกำลังไหลเร็วมาก
จนแม่ต้อยรู้สึกว่าน้ำเข้ามาในรถกะบะ แล้วครึ่งลำ เปียกไปครึ่งตัว

ระหว่างทางเจอชาวบ้านที่ต่างคนต่างก็เร่งรีบ เพื่อป้องกันอันตราย บางคนก็ไปหาอาหารเข้าบ้าน บางคนก็ย้ายออกจากบ้าน ดูน่าโกลาหล ที่ไม่เคยรู้จักกันก็ทักทายกัน

“ ออกไปนะดีแล้ว “
ผู้หญิงคนหนึ่งพยักเพยิดกับแม่ต้อย แล้วรีบเดินลุยน้ำสูงเท่าเอวเข้าบ้านไป

“ แม่กลัวจัง  เราน่าจะออกมาเมื่อคืนนี้”
คุณยายรำพึงกับแม่ต้อยเมื่อรถเราสามารถเคลื่อนออกสู่ถนนใหญ่ได้โดยปลอดภัย

“ อ้าว.. ไหงเป็นงั้น ก็คุณยายว่า
ทำไมต้องตื่น เต้นไม่ใช่หรือ..” แม่ต้อยเริ่มยอกย้อนพอขำๆ

แม่ต้อยพาครอบครัวมาพักที่โรงแรมของสถาบันราชกัฎ
สวนสุนันทา อันเป็นโรงเรียนเก่าของลุกๆแม่ต้อยทั้งสามคน ที่ได้เรียนจบที่นี่

ในขณะที่เขียนเรื่องนี้
แม่บ้านโทรมาบอกแม่ต้อยว่า

“ น้ำขึ้นเร็วมากคะ
ตอนนี้บ้านหลังใหญ่ติดขอบแล้ว “ บ้านหลังนี้มีความสูงเกือบ 

๒ เมตรจากระดับถนน  เคยประมาณไว้ว่า น้ำไม่น่าจะท่วมถึง...

“ น้ำที่ท่วมตอนนี้คือสถานการณ์ปกติ..
ยังต้องรองรับ มวลน้ำใหญ่ที่จะมาจากทางเหนือที่ค่อยๆไหลลงมาอีกในปลายเดือนนี้..และระดับน้ำจะสูงกว่านี้อีก ต้องดูกันอีกครั้ง

แม่ต้อยคงต้อง พักพิงที่นี่อีกนาน

สวัสดีคะ

 





 

คำสำคัญ (Tags): #น้ำท่วม
หมายเลขบันทึก: 470558เขียนเมื่อ 7 ธันวาคม 2011 11:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 พฤษภาคม 2012 13:25 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ขอให้กำลังใจค่ะ..มีประสบการณ์ครั้งแรกที่น้องน้ำมาเยือนท่วมแค่สนามและทางเดินหน้าบ้าน จากบันทึกนี้ค่ะ:

http://www.gotoknow.org/blogs/posts/464458

..ขณะนี้น้องน้ำจรจากไปแห้งสนิท กลับเข้าบ้านแล้วหลังจากอพยพจากบ้านไปสองสัปดาห์..ยังไม่ได้ย้ายของลงมาจากชั้นบน เพราะไม่แน่ใจในสถานการณ์ข้างหน้าค่ะ

 

 

Ico48

สวัสดีคะ

ดีใจคะที่ได้แลกเปลี่ยนความรู้สึกกันคะ และขออภัยคะที่ไม่ค่อยได้เข้ามาคุยต่อคะ สายตาเริ่มไม่ค่อยดีคะ อิอิ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท