"มันเหมือนสายน้ำที่รินไหล
ผ่าน...แล้วก็ผ่านสภาพการณ์ต่าง ๆ
ธรรมชาติยังรู้จักต่อสู้
ตัวกูรูจะถอยไปทำไม"
ตั้งแต่ก่อนน้ำท่วมบ้าน ผมสังเกตพบว่า คนที่โทรมาหาเราในยามลำบาก คือญาติสนิทมิตรสหายจริง ๆ เพื่อเก่าสมัยก่อนบอกกลับมาอยู่บ้านเราเถอะ พ่อซึ่งไม่ค่อยได้ติดต่อโทรมาบ่อย และหลายคนที่โทรมา (อันนี้เป็นสัจธรรม...คบได้) ภายหลังสถาปนาตัวเป็นผู้อพยพ ผมว่างก็เอารถไปติดแก๊ส (ใช้รถมาก และคิดว่ารัฐคงไม่กล้าลอยตัวในระยะเวลาอันใกล้) ที่สำคัญหนทางที่เข้าสู่ที่ทำงานในกรุงเทพ ฯ อ้อม (อ้อมใหญ่)และก็วกวน ไม่เข้าใจว่าไฟการจราจรบนถนนสายหลักโดยเฉพาะเพชรเกษม (ซึ่งใช้การไม่ได้) จึงยาวนานเหมือนเดิม ทั้งที่คนวิ่งทางลัดติดหลายกิโล และทำไมรัฐถึงไปกู้ 340 ซึ่งโดยโลจิสติกส์แล้วลงใต้จะอ้อมมาก และยังทะเลาะกับชาวบ้านอีก
ผ่านไป 2 สัปดาห์ อยากเข้าไปบ้านให้เห็นกับตา ก็นั่งแท๊กซี่มาขึ้นรถใหญ่ที่สะพานบางไผ่ บริเวณป้ายรถเมล์มีปลากระดี่ที่ไม่เห็นนานเต็มไปหมด รถเมล์เครื่องดับ ต่อรถทหาร (GMC) เป็นประสบการณ์ที่เท่มาก คนแน่น วิ่งไปสักพักชักเมื่อย จะเรียกว่ารถคลานไปก็ได้ มิฉนั้นประตูบ้านข้างๆ พัง เพราะคลื่นและน้ำจะล้นกระสอบทราย ผ่าน The Mall บางแค น้ำเป็นหน้าอก ผมลงตรงแยกคลองทวีวัฒนา ต่อรถขยะขนคนงานของเขต ต้องใช้การทรงตัวเพราะไม่มีราวจับ แอบบอกคนข้าง ๆ ว่าถ้าเซไปชนก็ขออภัยด้วย ระหว่างเส้นเลียบคลอง พระเจ้านี่หรือกรุงเทพ (เป็นทะเลไปเสียงแล้ว) มีตลาดน้ำเป็นแห่ง ๆ คนกางเต้นท์บนสะพาน
ผมลงเดินต่อประมาณ 300 เมตร ต้องดูแนวต้นไม้กลัวตกถนน 2 ข้างทางเคยเป็นสวนกล้วยไม้ตัดดอก หายหมด กลัวจรเข้ (เมื่อก่อนกลัวหมา แต่น้ำท่วมไม่เห็นซักตัว) ถึงหน้าหมู่บ้านเห็นกรรมการพายเรือแจกข้าว ก็ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน (ไม่อมของบริจาค.ฮา) ถึงหน้าบ้าน โอ้ลืมเอากุญแจมา ตัดสินใจเอาบันไดปีนขึ้นชั้น 2 มีคัดเตอร์ติมาด้วยแงะลูกบิดออก เข้าไปเอาเสื้อผ้าลูกเพิ่ม และยาแม่ โชคดีมากครับตัวบ้านผมสูงน้ำไม่เข้า แถบอื่นเข้าหมด ต้นไม้ตายเรียบ ไม่มีสรยุทธมาทำข่าว และไม่มีโจรโขมย อันนี้มีเทคนิคอย่างหนึ่งคือ จากการที่ยามบริษัทหนี ก็อาศัยเจ้าที่ซึ่งเป็นชาวบ้านเก่าแก่ติดหมู่บ้านซึ่งดุแล้วเหมือนโจรมากกว่าจ้างเป็นยามเสียเลยปรากฏของไม่หายครับ
ขากลับโหนรถขยะต้องเลือกหันหน้าโต้ลมน้ำเสียดีกว่า ถึงมืดที่เดียวต่อรถพว่งที่เรียกว่า รถไฟ ของบริษัทสามมิตร ผ่านThe Mall มืดสนิท เห็นคนขับเรือหางยาวตีโค้งมาอย่างมืออาชีพ (นี่ถนนเพชรเกษมหรือนี่) ผมเห็นภาพประทับใจภาพหนึ่งท่ามกลางความมืด คือภาพคัดเอ้าท์ขนาดใหญ่ของสมเด็จพระเทพฯ ที่สว่าง และเขียนประโยคเกี่ยวกับน้ำพระทัย เกี่ยวกับ ดวงตา นี่แหละ เพชรเกษมเป้นถนนเก่าจึงไม่สูงกว่าคลอง การระบายน้ำลงภาษีเจริญ และถูสูบต่อไป 2 ด้าน คือ แม่น้ำท่าจีนที่กระทุ่มแบน แต่แม่น้ำท่าจีนมีระดับน้ำสูง ส่วนใหญ่จึงถูกสูบมาลงแม่น้ำเจ้าพระยา (สถานีสูบน้ำใหญ่ ๆ อยู่ใกล้เจ้าพระยา) น้องน้ำจึงวิ่งอ้อมไกล เลยไหลช้าเต็มที และผมก็เบื่อน้ำท่วมเต็มที ขอเลิกเท่านี้ก็แล้วกันครับ อ้อวันที่ย้ายเข้าบ้านรื้อกระสบทรายเจอทั้งไส้เดือนเป็นกอง ลูกงูสามเหลี่ม ตะขาบ และจิ้งจกอีกมากมาย (จบไม่สวย) และอะดรีนาลีนตอนขนของลงก็ไม่เหลือเลยครับ
ขอขอบคูณกองทัพเรือ กทม.ที่อนุเคราะห์ยานพาหนะ และขอขอบคุณน้องน้ำที่พาเรื่องราวต่าง ๆ มาเล่าสู่กันฟัง