"เมื่อเราให้ความสำคัญกับ "การคิด"
มากกว่า "การรู้สึก" เราก็จะเข้าใจ
ปัญหาและตีโจทย์ให้แตกได้เร็วขึ้น"
จากหนังสือคิดอย่างไรให้ปัญหาเล็กลง
ผู้แต่ง เฌอมาณย์ รัตนพงศ์ตระกูล พ.ศ. ๒๕๕๔ หน้า ๑๒๒
ในบางช่วงวัยของชีวิตเราอาจให้ความสำคัญต่อการรู้สึกอย่างมากมาย แต่เมื่อช่วงวัยผ่านประสบการณ์และวันเวลาจะทำให้การมองปัญหาในลักษณะเดิมเปลี่ยนไป เราจะให้ความสำคัญกับการคิด โดยเฉพาะการพยายามหาสาเหตุของปัญหา และวิธีการแก้ไขที่เหมาะสมกับผู้เกี่ยวข้อง เรื่องราว สถานที่ ทรัพยากร เป็นต้น
ในที่สุดพบว่าการใช้ความคิดเป็นหลักในการดำเนินชีวิต จะทำให้เกิดประสิทธิภาพทำให้การแก้ปัญหาหรือการกระจ่างชัดในเรื่องราวที่เกิดขึ้นทำได้รวดเร็วขึ้น
กรณีตัวอย่างเช่น เหตุการณ์น้ำท่วมหากเราแก้ปัญหาโดยใช้ความรู้สึกเป็นหลัก จะประสบผลสำเร็จในการแก้ปัญหาได้น้อยกว่าการใช้ความคิดในรูปแบบต่างๆ เพื่อทำให้การดำเนินชีวิตเป็นไปอย่างมีความสุข
ถึง ณ ตอนนี้คงบอกว่า เมื่อคิดแล้วก็จงทำให้ได้อย่างที่คิด และเข้าใจความรู้สึกของตนอย่างมีเหตุผล
เมื่อคิดแล้วก็จงทำให้ได้อย่างที่คิด และเข้าใจความรู้สึกของตนอย่างมีเหตุผล...
ขอบคุณค่ะ ที่สะท้อนแล้วสรุปบทเรียนประสบการณ์อีกมุมมองหนึ่ง..
สำหรับตนเอง เรียนรู้ว่า การทำอะไรให้สำเร็จ เกิดจาก ปฎิสัมพันธ์กับผู้อื่น เป็นส่วนสำคัญ ด้วยค่ะ
...
สมองคิดหัวใจสั่งให้เขียน
มันวกเวียนวุ่นวายในสมอง
ยังมึนงงต่อไปใจเว้าวอน
เอ ! วันนี้จะสอนอะไรหว่า ;)...
...
สบายดีนะครับ คุณครูนก ;)...
จาก : วิไล แพงศรี. (2552). การพัฒาทักษะการคิด. อุบลฯ : มหาวิทยาลัยราชภัฏ
อุบลราชธานี. หน้า 11.
ขอบคุณค่ะอาจารย์ ป. ที่แวะมาเติมเต็มความคิดให้ครูนกทะเล...เรื่องต่างๆที่ครูนกต้องนำมานั่งกลั่น นั่งกรอง นั่งตกผลึก ต้องขอบคุณลูกศิษย์ค่ะที่ทำให้ชีวิตครูมีสีสันทุกวัน
สวัสดีค่ะ อาจารย์ Deeman
ขอบคุณค่ะสำหรับบทกลอนโดนใจ...ต้องร้องว่า ใช่เลย บางวันครูนกก็จะวุ่นวายสับสนโดยเฉพาะเวลาจะสอนจริยธรรมนร. ใจวุ่นวายว่าจะพูดอย่างไรไม่ให้ทำเกิดผลเชิงลบต่อใคร
...
สมองคิดหัวใจสั่งให้เขียน
มันวกเวียนวุ่นวายในสมอง
ยังมึนงงต่อไปใจเว้าวอน
เอ ! วันนี้จะสอนอะไรหว่า ;)...
ขอบคุณค่ะท่านอาจารย์วิไล ในหลักการทำงานของสมองทั้งซีกซ้ายและซีกขวา
ขอบคุณค่ะน้อง Bluestar สำหรับดอกไม้ สบายดีนะค่ะ
-ภาพที่เห็น.....สวยงามมากนะครับ เป็นการสร้างสรรค์โดยธรรมชาติ(น้ำ)แท้ๆ คิคิคิ
-อย่างนี้เรียกว่า "อุทกอุโบสถ" หรือ "อุโบสถกลางน้ำ" ก็ว่าได้นะครับ คิคิคิ
มาดูวิหารกลางน้ำ
สวัสดีค่ะ คุณ อักขณิช
ต้องขอบคุณเจ้าของภาพถ่ายที่มีนำโพสต์ในอินเตอร์เน็ตนะค่ะ ที่ช่างมีมุมที่แสนสวยงาม (ในยามประสบภัยก็ยังมีมุมสวยงามเพื่อสร้างจิตใจเชิงบวกให้กับผู้คน) ขอบคุณค่ะคำว่า อุโบสถน้ำ ดูจะเหมาะเจาะลงตัว
ขอบคุณท่านอาจารย์โสภณ
ที่นำบทกลอนเกี่ยวกับน้องน้ำมาฝาก
ตอนนี้ผู้ประสบภัยทุกข์ใจกับป้ารา และ น้องทรายอีกแล้ว