รายงานการสำรวจ วิเคราะห์และสังเคราะห์คำร้องของบุคคลที่มีปัญหาสิทธิในสถานะบุคคล
ซึ่งร้องเรียนมายังคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2553 – วันที่ 10 ม.ค.2554
ภายใต้ความรับผิดชอบ
คณะอนุกรรมการเฉพาะกิจด้านสิทธิและสถานะบุคคลของผู้ไร้สัญชาติ
ไทยพลัดถิ่น ผู้อพยพ และชนพื้นเมือง ในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ความเป็นมา
เนื่องด้วยคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจด้านสิทธิและสถานะบุคคลของผู้ไร้สัญชาติ ไทยพลัดถิ่น ผู้อพยพ และชนพื้นเมือง คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ มีภารกิจที่จะต้องดำเนินการจัดการปัญหาและให้ความช่วยเหลือกับกรณีร้องเรียนของผู้ถูกละเมิดสิทธิในสถานะบุคคล และถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนอื่นๆ อันเป็นผลที่สืบเนื่องจากปัญหาสถานะบุคคลตามกฎหมาย โดยกรณีร้องเรียนเหล่านี้ได้ร้องเรียนเข้ามายังคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนและยังไม่ได้ดำเนินการจนเสร็จสิ้น
ดังนั้นเพื่อให้ภารกิจดังกล่าวบรรลุผลสำเร็จ คณะอนุกรรมการเฉพาะกิจฯ จึงได้ประชุมหารือและมีมติเห็นพ้องในคราวประชุมครั้งที่ 21 เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 ให้พิจารณาและสำรวจกรณีร้องเรียนซึ่งอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจฯ เพื่อให้ทราบถึงจำนวนที่แน่นอนของกรณีร้องเรียน สภาพปัญหา เพื่อจำแนกประเภทสิทธิที่ถูกร้องเรียน และนำไปสู่การทำงานเพื่อให้ความช่วยเหลือและแก้ปัญหาในขั้นตอนต่อไป
ในวันที่ 22-25 พฤศจิกายน พ.ศ.2553 น.ส.บงกช นภาอัมพร และน.ส.พวงรัตน์ ปฐมสิริรักษ์ คณะทำงานฯ ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการสำรวจแฟ้มคำร้องของผู้ที่มีปัญหาสิทธิในสถานะบุคคล ตามที่ปรากฏแฟ้มคำร้องอยู่จริง และวันที่ 13 มกราคม พ.ศ.2554 พบแฟ้มคำร้องอีก 8 แฟ้มคำร้อง
ผลจากการการสำรวจ วิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อเท็จจริงตามแฟ้มคำร้องดังกล่าวได้นำมาจัดทำขึ้นเป็นรายงานการสำรวจและสังเคราะห์คำร้องของบุคคลที่มีปัญหาสิทธิในสถานะบุคคล ซึ่งร้องเรียนมายังคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดยแบ่งผลการสำรวจ วิเคราะห์และสังเคราะห์เป็นระยะ คือ รายงานการสำรวจและสังเคราะห์คำร้องของบุคคลที่มีปัญหาสิทธิในสถานะบุคคล ซึ่งร้องเรียนมายังคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ก่อน ปี พ.ศ. 2553 และ รายงานการสำรวจและสังเคราะห์คำร้องของบุคคลที่มีปัญหาสิทธิในสถานะบุคคล ซึ่งร้องเรียนมายังคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2553 – วันที่ 10 ม.ค.2554
โดยรายงานฉบับนี้ เป็นรายงานการสำรวจ วิเคราะห์และสังเคราะห์คำร้องของบุคคลที่มีปัญหาสิทธิในสถานะบุคคลซึ่งร้องเรียนมายังคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2553 – วันที่ 10 ม.ค.2554
ขอบเขตการดำเนินการสำรวจ วิเคราะห์และสังเคราะห์คำร้องของบุคคลที่มีปัญหาสิทธิในสถานะบุคคล
ขอบเขตด้านเนื้อหา - เป็นการสำรวจ วิเคราะห์และสังเคราะห์คำร้องซึ่งเป็นกรณีร้องเรียนของบุคคลที่มีปัญหาสิทธิในสถานะบุคคลตามกฎหมายและกรณีร้องเรียนเรื่องสิทธิมนุษยชนอื่นๆ อันเป็นผลที่สืบเนื่องจากปัญหาสถานะบุคคลตามกฎหมาย โดยเป็นคำร้องที่ปรากฏคำร้อง ตัวเอกสารอยู่จริง ไม่ว่าจะมีเลขคำร้องที่แน่นอนหรือไม่
ทั้งนี้เป็นคำร้องที่ปรากฏแฟ้มคำร้องอยู่จริงในวันที่ 10 มกราคม พ.ศ.2554 และเป็นคำร้องที่ร้องเรียนมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2553-วันที่ 10 มกราคม พ.ศ.2554
ขอบเขตด้านระยะเวลา - การดำเนินการสำรวจ วิเคราะห์และสังเคราะห์กรณีร้องเรียนดำเนินการใน วันที่ 22-25 พฤศจิกายน พ.ศ.2554 และระหว่างวันที่ 13-31 มกราคม พ.ศ.2554
ขอบเขตด้านวิธีการ - การสำรวจ วิเคราะห์และสังเคราะห์นั้น คณะทำงานฯ ได้ดำเนินการตามลำดับขั้นตอน ดังนี้
ขั้นตอนแรก คือ สำรวจปัญหา โดยการพิจารณาแฟ้มคำร้อง คำร้องที่ไม่ได้จัดเข้าแฟ้ม คำร้องที่ยังไม่มีเลขคำร้องโดยสมบูรณ์ รวมถึงเอกสารอื่น ๆ เพื่อประกอบการทำความเข้าใจข้อมูลในคำร้อง โดยเริ่มต้นจากการสำรวจประวัติของผู้ร้อง สำรวจข้อเท็จจริงที่ผู้ร้องกล่าวอ้างพร้อมทั้งเอกสารประกอบข้อกล่าวอ้าง สำรวจปัญหาที่ผู้ร้องประสงค์จะร้องเรียน รวมถึงคณะทำงานฯ ต้องดำเนินการพิจารณาสภาพปัญหา การต้องการความช่วยเหลือของผู้ร้อง และสรุปผลออกมา โดยอาศัยข้อมูลจากข้อเท็จจริงในแฟ้มคำร้องเป็นหลัก อย่างไรก็ตามมีกรณีที่ผู้ร้องเรียนบางรายไม่สามารถสื่อความถึงสภาพปัญหาของตนเองได้ชัดเจนถูกต้อง และไม่เข้าใจถึงสถานะบุคคลตามกฎหมายของตนเอง
ขั้นตอนที่สอง จากขั้นตอนการสำรวจปัญหาเสร็จสิ้นลง ข้อมูลที่ได้นำไปสู่การวิเคราะห์ปัญหาในการจัดการกรณีร้องเรียนของผู้มีปัญหาสิทธิในสถานะบุคคล ถึงสาเหตุที่ส่งผลให้ไม่สามารถดำเนินการจัดการให้สำเร็จลุ่ล่วงได้
ขั้นตอนที่สาม คือ สังเคราะห์กรณีร้องเรียน โดยแยกแยะกรณีร้องเรียนต่างๆ ลงในรายละเอียดว่ามีปัญหา และข้อเสนอะแนะใหการจัดการลำดับต่อไปอย่างไร
เมื่อได้ประมวลผลแฟ้มคำร้องดังกล่าวซึ่งประกอบไปด้วยคำร้องที่อยู่ในแฟ้มคำร้องและมีเลขคำร้อง คำร้องที่อยู่ในแฟ้มคำร้องแต่ไม่มีเลขคำร้อง และคำร้องที่ไม่ได้จัดเข้าแฟ้ม เอกสารความเห็นทางกฎหมาย ที่มีลักษณะของเอกสารปะปนกันและต้องคัดกรองใหม่ จึงดำเนินการแบ่งคำร้องเป็นกลุ่มต่าง ๆ ตามแนวทางในการดำเนินงานตามขั้นตอนต่อไปดังนี้
มีปัญหาออกเป็นกลุ่มย่อย 5 กลุ่ม ได้แก่
1.1 คนไร้เอกสารพิสูจน์ทราบตัวบุคคล หรือ คนไร้สถานะทางทะเบียน
1.2 คนที่มีข้อเท็จจริงเป็นคนสัญชาติไทยแต่ถูกบันทึกเป็นคนต่างด้าวในทะเบียนราษฏรไทย
1.3 คนต่างด้าวที่เกิดในประเทศไทยและถูกบันทึกในทะเบียนราษฎรไทย
1.4 คนต่างด้าวที่เกิดนอกประเทศไทยและถูกบันทึกในทะเบียนราษฎรไทย
1.5 คนต่างด้าวที่มีจุดเกาะเกี่ยวเข้มข้นกับรัฐต่างประเทศ
และกรณีร้องเรียนที่ไม่สามารถจำแนกได้
และกรณีร้องเรียนที่ข้อเท็จจริงไม่เพียงพอต่อการแบ่งประเภท
หลังจากนั้นคณะทำงานได้บันทึกรายละเอียดการสำรวจ วิเคราะห์และสังเคราะห์กรณีร้องเรียนแต่ละรายใน
รูปแบบตารางสรุปการสำรวจและสังเคราะห์คำร้อง แล้วจึงนำมาจัดทำเป็นรายงานการสำรวจ วิเคราะห์และสังเคราะห์คำร้องของบุคคลที่มีปัญหาสิทธิในสถานะบุคคลซึ่งร้องเรียนมายังคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2553 – วันที่ 10 ม.ค.2554 ฉบับนี้
การสำรวจและจำแนกคำร้องของบุคคลที่มีปัญหาสิทธิในสถานะบุคคลและสิทธิด้านอื่น ๆ
ณ วันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ.2553 หลังการสำรวจคำร้องของผู้มีปัญหาสถานะบุคคลซึ่งยื่นคำร้องมายังคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติตั้งแต่ปี พ.ศ.2553 – วันที่ 10 ม.ค.2554 และอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจด้านสิทธิและสถานะบุคคลของผู้ไร้สัญชาติ ไทยพลัดถิ่น ผู้อพยพ และชนพื้นเมือง พบคำร้องที่ปรากฎแฟ้มคำร้องจำนวนทั้งสิ้น 27 แฟ้มคำร้อง โดยแบ่งเป็นผู้ที่มีปัญหาสถานะบุคคลจำนวนทั้งสิ้น 56 ราย ซึ่งในแฟ้มคำร้องจำนวนนี้นั้น เป็นแฟ้มคำร้องที่มีเลขคำร้องแล้วจำนวน 21 แฟ้มคำร้อง ส่วนแฟ้มคำร้องอีกจำนวน 6 แฟ้มนั้นยังไม่มีเลขคำร้อง
วิเคราะห์ลักษณะของกรณีร้องเรียน ปัญหาที่พบ และจำนวนกรณีร้องเรียนของบุคคลที่มีปัญหาสิทธิในสถานะบุคคล ซึ่งยื่นคำร้องเข้ามายังคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2553 – วันที่ 10 ม.ค.2554
จากการสำรวจกรณีร้องเรียนของผู้มีปัญหาสิทธิในสถานะบุคคล ซึ่งร้องเรียนมายังคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553-วันที่ 10 มกราคม 2554 สามารถนำไปสู่การวิเคราะห์ถึงสภาพปัญหาในการจัดการกรณีร้องเรียนได้ดังต่อไปนี้
สภาพปัญหา
1. จากการสำรวจแฟ้มคำร้องของผู้ประสบปัญหาสิทธิในสถานะบุคคล พบแฟ้มคำร้องในลักษณะดังกล่าวต่อไปนี้
2. จากการสำรวจแฟ้มคำร้อง และวิเคราะห์ลักษณะที่ปรากฏ ทำให้พบข้อด้อยในภาพรวมเกี่ยวกับข้อมูลในแฟ้ม
คำร้องอันส่งผลประการสำคัญต่อการจัดการแก้ปัญหากรณีร้องเรียน
สาเหตุแห่งปัญหา
จากการสำรวจและวิเคราะห์แฟ้มคำร้อง กรณีร้องเรียนของผู้มีปัญหาสิทธิในสถานะบุคคลตามกฎหมายนั้น
พบว่าประเด็นอันเป็นสาระสำคัญที่ทำให้การจัดการกรณีร้องเรียนตั้งแต่ปี พ.ศ.2553 ไม่สามารถลุล่วงไปได้นั้น
ประการแรก เพราะขาดข้อเท็จจริงของผู้ประสบปัญหา ทำให้ไม่สามารถกำหนดปัญหาที่ชัดเจน และไม่สามารถแก้ปัญหาได้
ประการที่สอง เมื่อต้องการแสวงหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมกลับไม่สามารถติดต่อผู้ประสบปัญหาตามที่อยู่ในแฟ้มคำร้องได้
ประการที่สาม คำร้องบางคำร้องได้รับการแก้ปัญหาแล้ว แต่เมื่อขาดการติดตามผลทำให้คณะกรรมการสิทธิฯ ไม่สามารถทราบได้ว่าคำร้องดังกล่าวได้รับการแก้ปัญหาแล้ว จึงไม่ได้จัดทำรายงานเพื่อปิดคำร้องดังกล่าว ทำให้กลายเป็นคำร้องที่ค้างอยู่ ส่งผลให้การจัดการกรณีร้องเรียนจึงค้างคาอยู่เช่นนั้น
อย่างไรก็ตามสาเหตุทั้งสามประการ ส่วนหนึ่งมาจากผลของกระบวนการจัดการกรณีร้องเรียนที่ยังมีปัญหา โดย
เริ่มต้นตั้งแต่ขั้นตอนการรับคำร้องของผู้ประสบปัญหา อันเป็นขั้นตอนแรกของกระบวนการจัดการกรณีร้องเรียน ซึ่งพบว่าขาดการสอบถาม ตรวจสอบถึงข้อเท็จจริงอันเป็นจุดเกาะเกี่ยวที่นำไปสู่การแก้ปัญหา ถัดมาในขั้นตอนการจัดเก็บคำร้องอาจจะยังไม่รอบคอบรัดกุมเพียงพอ พิจารณาได้จากว่า คำร้องบางคำร้องไม่ถูกจัดเข้าแฟ้ม บางคำร้องไม่ระบุเลขคำร้อง และในส่วนของการติดตามความคืบหน้าของกรณีปัญหานั้นก็อาจจะไม่ได้ดำเนินการอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ไม่ทราบว่าแต่ละคำร้องแก้ปัญหาอยู่ในขั้นตอนใด
รายละเอียดลักษณะและปัญหาของกรณีร้องเรียนในแต่ละประเภทกลุ่มคน
สำหรับกรณีร้องเรียนตั้งแต่ปี พ.ศ.2553 ถึง วันที่ 10 ม.ค.2554 ที่พบแฟ้มคำร้องจำนวน 27 คำร้องหรือผู้ประสบปัญหาจำนวน 56 รายนี้ สามารถสรุปผลการสำรวจและนำไปสู่การวิเคราะห์ลักษณะ และสภาพปัญหาของกรณีร้องเรียนในรายละเอียดของแต่ละกลุ่มคนที่มีปัญหา ทำให้ทราบถึงเหตุผลที่กรณีร้องเรียนค้างเก่ายังไม่สามารถดำเนินการจนเสร็จสิ้นได้ โดยกรณีร้องรียนมีลักษณะและปัญหาที่พบในรายละเอียดดังต่อไปนี้
1.กรณีร้องเรียนเรื่องสิทธิในสถานะบุคคล จำนวน 48 ราย โดยแบ่งเป็น
1.1 กรณีร้องเรียนประเภทคนไร้เอกสารพิสูจน์ทราบตัวบุคคลหรือ คนไร้สถานะทางทะเบียน จำนวน 6 ราย
ลักษณะของกรณีร้องเรียนและปัญหาที่พบ
1. กรณีร้องเรียนจำนวน 2 กรณีที่ร้องเรียนว่าไปขอรับการสำรวจเพื่อเพิ่มชื่อในทะเบียนราษฎรแต่ได้รับการปฏิเสธ เมื่ออุทธรณ์คำสั่งก็ไม่ได้รับการพิจารณา
2. กรณีร้องเรียนเรื่องถูกจำหน่ายรายการบุคคล จำนวน 2 กรณี ซึ่งอาจจะมีลักษณะของการสวมตัว
3. ผู้ประสบปัญหาความไร้รัฐ หรือไร้สถานะทางทะเบียนราษฎร ได้รับผลกระทบเรื่องสิทธิในการรักษาพยาบาล เนื่องจากไม่ได้รับสิทธิในหลักประกันสุขภาพ
4. ผู้ประสบปัญหาความไร้รัฐ หรือไร้สถานะทางทะเบียนราษฎร ได้รับผลกระทบเรื่องสิทธิทางการศึกษา และสิทธิในการประกอบอาชีพ
1.2 กรณีร้องเรียนประเภทคนที่มีข้อเท็จจริงเป็นคนสัญชาติไทยแต่ถูกบันทึกเป็นคนต่างด้าวในทะเบียน
ราษฏรไทย จำนวน 26 ราย
ลักษณะของกรณีร้องเรียนและปัญหาที่พบ
1. ตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นจากแฟ้มคำร้อง พบว่าทุกกรณีร้องเรียนอ้างข้อเท็จจริงอันแสดงถึงจุดเกาะเกี่ยวว่าเป็นคนสัญชาติไทยตาม ม.23 พรบ.สัญชาติ(ฉบับ4)พ.ศ.2551
2. พบกรณีร้องเรียนที่อ้างว่าเกิดในประเทศไทย แต่ขาดเอกสารรับรองการเกิด
3. พบกรณีร้องเรียนที่ระบุว่าได้ยื่นคำร้องขอลงรายการสัญชาติไทยมาเป็นเวลานานเกินกว่ากำหนดพิจารณา 90 วันแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับการดำเนินการจนเสร็จสิ้น
4. พบกรณีร้องเรียนของผู้ที่ถูกระงับการเคลื่อนไหวทางทะเบียนราษฎรจึงยังมิได้ดำเนินการยื่นคำขอลงรายการสัญชาติไทย
1.3 กรณีร้องเรียนประเภทคนต่างด้าวเกิดในประเทศไทยและถูกบันทึกในทะเบียนราษฎรไทย จำนวน 6 ราย
ลักษณะของกรณีร้องเรียนและปัญหาที่พบ
1.พบกรณีร้องเรียนของผู้ทื่ยื่นคำขอสัญชาติไทย ตาม ม.7 ทวิ แต่ไม่ได้รับการดำเนินการโดยปัจจุบันเรื่องอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของกระทรวงมหาดไทย
2. พบกรณีร้องเรียนของบุตรแรงงานต่างด้าว
1.4 กรณีร้องเรียนประเภทคนต่างด้าวเกิดนอกประเทศไทยและถูกบันทึกในทะเบียนราษฎรไทย จำนวน 6 ราย
ลักษณะของกรณีร้องเรียนและปัญหาที่พบ
1. กรณีร้องเรียนบางรายได้ยื่นคำขอสถานะต่างด้าวนานแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการพิจารณา
2. กรณีร้องเรียนบางรายขาดข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพื่อนำไปสู่การพัฒนาสถานะบุคคลตามกฎหมาย
1.5 กรณีร้องเรียนประเภทคนต่างด้าวที่มีจุดเกาะเกี่ยวเข้มข้นกับรัฐต่างประเทศ จำนวน 3 ราย
ลักษณะของกรณีร้องเรียนและปัญหาที่พบ
เป็นกรณีร้องเรียนเกี่ยวกับสิทธิของแรงงานต่างด้าวทั้งเรื่องสิทธิในสถานะบุคคลและสิทธิขั้นพื้นฐานประการอื่นๆ ระหว่างรอการเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สัญชาติกับประเทศต้นทาง
1.6 กรณีร้องเรียนเรื่องสิทธิในสถานะบุคคลที่ไม่สามารถจำแนกกลุ่มได้ จำนวน 1 ราย
ลักษณะของกรณีร้องเรียนและปัญหาที่พบ
เป็นกรณีร้องเรียนของชาวบ้านอำเภอแม่อายที่ประสบปัญหาสิทธิในสถานะบุคคล ซึ่งร้องเรียนมาเป็นกลุ่ม
2. กรณีร้องเรียนเรื่องสิทธิขั้นพื้นฐาน จำนวน 8 ราย
ลักษณะของกรณีร้องเรียนและปัญหาที่พบ
สรุปได้ว่าเป็นกรณีร้องเรียนในเรื่องสิทธิในเอกสารพิสูจน์ทราบตัวบุคคล สิทธิในการก่อตั้งครอบครัวของผู้มีปัญหาสถานะบุคคล และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของกลุ่มชาวเขา
ข้อเสนอแนะสำหรับการติดตามความคืบหน้ากรณีร้องเรียนในลำดับต่อไป
ข้อเสนอแนะการสร้างระบบการจัดการ
การสร้างระบบการจัดการกรณีร้องเรียนของผู้มีปัญหาสิทธิในสถานะบุคคลนั้น ควรพิจารณาให้ตลอดทั้งกระบวนการตั้งแต่เริ่มต้นโดยการรับคำร้องเรียน จนกระทั่งสรุปผลการติดตามกรณีร้องเรียนเพื่อปิดกรณีร้องเรียน ว่ามีแต่ละขั้นตอน อย่างไร โดยขอเสนอประเด็นพิจารณาดังต่อไปนี้
1. การเริ่มต้นกระบวนการโดยการรับคำร้องเรียน
2. สาระสำคัญซึ่งจำต้องสอบถาม ตรวจสอบจากผู้ร้องในเบื้องต้น
3. การจัดเก็บกรณีร้องเรียนเข้าสู่สารระบบคำร้องของคณะกรรมการสิทธิฯ
4. การนำคำร้องเพื่อเสนอที่ประชุมคณะอนุกรรมการฯ พิจารณาแก้ปัญหา ดำเนินการโดยใครเป็นผู้รับผิดชอบ
ดำเนินการเมื่อไร อย่างไร
5. การดำเนินการแก้ปัญหากรณีร้องเรียน
6. การติดตามความคืบหน้าของการดำเนินการแก้ปัญหา ควรบันทึกการติดตามเคสทุกครั้งหลังการดำเนินการเพื่อให้ผู้มารับผิดชอบต่อทราบได้ว่าเรื่องอยู่ในขั้นตอนใด และการบันทึการติดตามเคสควรอยู่ในรูปแบบใดจึงจะมีประสิทธิภาพ และส่งผลให้เกิดความต่อเนื่องของงาน
7. การสรุปผลการดำเนินการแก้ปัญหากรณีร้องเรียน เมื่อกรณีร้องเรียนนั้นได้รับการแก้ปัญหาเสร็จสิ้น
ข้อเสนอแนะเพื่อการติดตามความคืบหน้ากรณีร้องเรียนแต่ละกรณีในลำดับต่อไป
ข้อเสนอแนะเพื่อการติดตามกรณีร้องเรียนเหล่านี้นั้น เป็นข้อเสนอแนะที่มาจากขอบเขตข้อเท็จจริงจากคำร้องที่ส่วนใหญ่ยังขาดข้อเท็จจริงสำหรับการวินิจฉัยแก้ปัญหา และพัฒนาสถานะบุคคลตามกฎหมาย ดังนั้นจึงควรจะต้องติดต่อหาตัวผู้ประสบปัญหาเพื่อการแสวงหาข้อเท็จจริงในลำดับต่อไปก่อน ด้วยเหตุดังกล่าวในเบื้องต้นของการติดต่อผู้ประสบปัญหานั้นมีข้อเสนอแนะ 2 ประการ คือ 1) ติดต่อตัวผู้ประสบปัญหาโดยตรง ด้วยการโทรศัพท์และทางจดหมายเป็นลายลักษณ์อักษร หรือตามวิธีการอื่นใดตามที่วิธีปฏิบัติของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน 2) ตามหาตัวผู้ประสบปัญหาโดยประสานความร่วมมือไปยังหน่วยงานในพื้นที่อำเภอ จังหวัด ในพื้นที่อันเป็นภูมิลำเนาของผู้ประสบปัญหาเพื่อให้ช่วยตรวจสอบรายการบุคคลของผู้ประสบปัญหาในฐานข้อมูลทางทะเบียนราษฎร์ ทั้งนี้เพราะหลายกรณีร้องเรียนได้ร้องเรียนเข้ามายังคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเป็นเวลานานแล้ว ข้อมูลสถานที่ติดต่อในคำร้องอาจจะเปลี่ยนแปลงไป การติดต่อผู้ประสบปัญหาโดยตรงอาจจะไม่ประสบความสำเร็จ
สำหรับกรณีที่สามารถติดต่อผู้ประสบปัญหา หรือผู้ร้องเรียนแทนได้แล้วนั้น ได้ทำข้อเสนอแนะสำหรับการติดตามกรณีร้องเรียนมาเป็นรายๆ ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ขั้นตอนการดำเนินการพัฒนาสถานะบุคคลตามกฎหมายในปัจจุบัน และปัญหาในการพัฒนาสถานะบุคคล
ไม่มีความเห็น