พิษณุโลก ขับเคลื่อนพัฒนาแห่งสี่แยกอินโดจีน ชูเศรษฐกิจเชื่อมต่อระหว่างประเทศในกลุ่มอนุภาคลุ่มน้ำโขง

            นายยงยศ เมฆอรุณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เผยว่า จังหวัดพิษณุโลก ได้จัดงานมหกรรมสินค้านานาชาติและการท่องเที่ยวสี่แยกอินโดจีนเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนและการท่องเที่ยว พร้อมทั้งจัดการประชุมสัมมนาทางวิชาการในประเด็นหัวข้อ “ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน : รุกหรือรับมืออย่างไร เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2554  ณ ห้องประชุม  มหาวิทยาลัยพิษณุโลก (ส่วนสี่แยกอินโดนจีน) โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมสัมมนาครั้งนี้ประกอบด้วย หัวหน้าส่วนราชการ/หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ผู้ประกอบการ ภาคธุรกิจเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและนักวิชาการ จำนวน 400 คน  จากการที่อาเซียนได้ตั้งเป้าหมายการรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจภายในปี 2558 เพื่อสร้างตลาดและฐานการผลิตเดียวกัน และมีการเคลื่อนย้ายสินค้า บริการ การลงทุน และแรงงานฝีมืออย่างเสรี และการเคลื่อนย้ายเงินทุนที่เสรีมากขึ้น ดังนั้นจังพิษณุโลก มีอัตราการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วในทุกด้าน และได้รับการสนับสนุนจากนโยบายรัฐบาลให้เป็นเมืองศูนย์กลางแห่งภาคเหนือตอนเหนือ ยุทธศาสตร์ที่ตั้งของจังหวัดพิษณุโลกได้รับการกล่าวขานในพัฒนาจังหวัดพิษณุโลกและกลุ่มจังหวัดใกล้เคียง เป็นพื้นที่พัฒนาแห่งสี่แยกอินโดจีน ส่งผลให้เป็นเมืองสำคัญ เชื่อมต่อระหว่างประเทศในกลุ่มอนุภาคลุ่มน้ำโขง

            นางอัญชนา วิทยาธรรมธัช ผู้ตรวจราชการกระทรวงพานิชย์  กล่าวต่อว่า การจัดงานครั้งนี้ จะมีการนำสินค้าจากประเทศต่างๆในกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง  สินค้าตามแนวชายแดน และสินค้าตามตลาดอื่นๆ ที่มีชื่อเสียงในประเทศมาจำหน่าย พร้อมทั้งมีการจัดประชุมสัมมนาทางวิชาการ  มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาการด้านเศรษฐกิจที่สำคัญของอาเซียนต่อจากนี้ คือ การวางรากฐานเพื่อนำไปสู่การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจที่ลึกซึ้งและกว้างขวางมากขึ้น หรือการก้าวไปสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน  ภายในปี พ.ศ. 2558   เพื่อดำเนินการไปสู้เป้าหมายดังกล่าว อาเซียนได้จัดทำพิมพ์เขียวเพื่อเร่งรัดการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน   ซึ่งจะเป็นแผนงานบูรณาการเศรษฐกิจในภาพรวมเพื่อไปสู่เป้าหมายในปี 2558 เพื่อสร้างตลาดและฐานการผลิตเดียวกัน และมีการเคลื่อนย้ายสินค้า บริการ การลงทุน และแรงงานฝีมืออย่างเสรี รวมทั้งมีการเคลื่อนย้ายเงินทุนที่เสรีมากยิ่งขึ้น

 ข้อความหลัก " ป้องกันล่วงหน้าก่อนเสี่ยง  ควบคุมฉับไวก่อนระบาด ”

กรมควบคุมโรค  ห่วงใย  อยากเห็นคนไทยมีสุขภาพดี

ที่มา http://dpc9.ddc.moph.go.th/crd/news/print/2554_09_11_indo.html