คนรวยผู้น่าสงสาร
“คนจน” มีนิยามว่าไร...ใครรู้บ้าง?
ถ้ายังไม่รู้แล้วจะไปแก้ปัญหาความยากจนก็น่าเป็นห่วง
แก้ไปแก้มาจะกลายเป็นว่า ทำให้เขามีรายได้เพิ่มขึ้น
แต่กลับจนลงกว่าเดิม!!
ก็ไปนิยามกันว่าคนจนคือ ”คนที่มีรายได้น้อย” (กว่าฉัน)
ซึ่งเป็นคำนิยามแบบยะโสโอหังที่ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง
หรืออาจเป็นนิยามที่ลอกเอามาจากขี้ปากของพวกองค์การระดับโลกของฝรั่ง
ในความเห็นผม..มาตรวัดความกินดีอยู่ดี(หรือความรวย)ที่สำคัญที่สุดน่าจะมีเพียงสามประการคือ
หนึ่ง การมีความพอเพียงของปัจจัยสี่
สอง ความไม่เหลื่อมล้ำต่ำต้อยกว่าสังคมรอบกายมากนัก
สาม การมีเวลาพักผ่อนและเสพความสุขตามรสนิยม
หากเอาเกณฑ์สามเกณฑ์นี้มาใช้วัดจะเห็นว่า
คนที่เราว่าจนตามคำนิยามปัจจุบันนั้นแท้จริงแล้วอาจคือคนรวย
ส่วนเราและคนที่เราคิดว่ารวยแล้วนั้นอาจกลายเป็นคนจน
เศรษฐีพันล้านในท่ามกลางเศรษฐีหมื่นล้าน
ก็คือคนจนโดยการเปรียบเทียบกับสังคมรอบกาย(กฎข้อสอง)
แถมยังไม่มีเวลาเสพความสุขอีกด้วย(กฎข้อสาม)
เพราะต้องเอาเวลาไปสร้างความร่ำรวยเพื่อเทียบชั้นกับพวกหมื่นล้านให้ได้สักวัน
เท่ากับว่าจนถึง 2 ใน 3 เกณฑ์เข้าไปแล้ว
ทั้งที่มีเงินตั้งพันล้าน
ส่วนชาวนาบ้านนอก อาจกลายเป็นคนรวย
เพราะมีปัจจัยสี่ในการดำรงชีวิตที่พอเพียง
มีฐานะพอๆกันกับคนในละแวกบ้าน...ไม่แตกต่างกันมากนัก
ทำให้ไม่เกิดปมด้อยหรือปมเด่นมากเกินไป...ก็ไมต้องทุกข์ใจ
ที่สำคัญคือมีเวลาว่างที่จะเสพความสุขตามรสนิยมของตนได้มาก
ใครกันแน่ที่จนแล้วยังไม่เจียม
ตัวเองเอาให้รอดเสียก่อนเถอะ
ก่อนที่จะไปแก้ปัญหาความยากจนให้คนอื่นเขา
แล้ววันนี้กินยาแก้ปวดหัวสองเม็ดเป็นประจำตามที่หมอสั่งหรือยัง?
...คนถางทาง (๒๕๔๗)
ไม่มีความเห็น