จะดี-จะชั่ว อยู่ที่ตัวทำ ตอนจบ


ชนะใจ ลบคำดูถูก

ต่อจากตอนที่แล้ว....

    เมื่อพวกเราทั้ง 6 คน รู้ว่า หญิงวัยกลางคนที่เพื่อนทั้ง 2 คน ไปเจอในห้องน้ำนั้นเป็นอาจารย์ ซึ่งเหตุดังกล่าวก็เกิดขึ้นจากความไม่รู้ว่าใครเป็นใคร จึงทำให้เราถูกอาจารย์ท่านนั้นมองพวกเราว่าเป็น "เด็กไม่มีสัมมาคารวะ ไปไม่ลามาไม่ไหว"  จึงทำให้ทุกๆครั้งที่อาจารย์ท่านเจอพวกเรา ท่านเลยไม่ได้สนใจใยดี แม้ว่าเราจะไหว้ทุกครั้งที่เจอ แสดงอาการนอบน้อมแค่ไหนก็ตาม  (แต่ฉันว่า อาจารย์ท่าน,,คงแอบมองพฤติกรรมพวกเราทุกครั้งอยู่นั้นแหละ) 

    และที่ซ้ำร้ายไปกว่านั้นพวกเรา ได้รับการต้อนรับจากเพื่อนๆ(บางกลุ่ม) ที่นั้นไม่ค่อยดีนัก อาจเนื่องจากพวกเรามากันเองไม่มีอาจารย์มาคอยดูแล หลายๆคนจึงอาจไม่มั่นใจในศักยภาพและความสามารถของพวกเรานัก  แม้ว่าอาจารย์ที่ปรึกษาของเราจะเป็นบุคคลที่เก่ง  มีความสามารถมากก็ตาม

  ซึ่งการไปทำวิจัยของพวกเราในครั้งนี้  พวกเราต้องคิดวางแผนการทำงานของเราเอง ว่าจะเริ่มเมื่อไรจะทำอย่างไรให้มันเสร็จทันตามเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด แล้วต้องจัดสรรการใช้เครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆอย่างไร  เนื่องจากอุปกรณ์นั้นมีจำกัด และทุกคนต่างต้องใช้มัน

  แต่การที่เราไม่มีอาจารย์ที่ปรึกษามาค่อยดูแล ประคบประหมบ (แต่อาจารย์ดูแลแบบให้รู้จักช่วยเหลือตนเอง ให้รู้จักแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า) มันกลับทำให้เราดูดีขึ้นมาในสายตาของอาจารย์ผู้หญิงท่านดังกล่าว ,,,

  ฉันและเพื่อนเคยแอบได้ยินอาจารย์ท่านบนกับเพื่อนๆที่นั้น ....ถึงการวางแผนงานและความมีวินัยในตนเองของเพื่อน    "ดูเพื่อนเขาสิ  ...เขาไม่เห็นจะต้องมีอาจารย์มาบอกให้ทำนู้นทำนี้เลย,,,เขาไม่มีอาจารย์มาคอยดูแลอย่างพวกเธอแต่เพื่อนเขาก็ยังทำงานของเขาต่อไปได้   จนงานเขาจะเสร็จกันอยู่แล้ว  แต่่พวกเธอกลับต้องให้อาจารย์บอกว่าต้องทำอะไรบ้าง  วันนี้จะทำหรือไม่ทำก็ต้องขึ้นอยู่กับอาจารย์ "          

    ประโยคดังกล่าวนี้  มันทำให้พวกเรารุ้สึกภูมิใจเป็นอย่างมาก  หลังจากนั้นมาประมาณเกือบเดือนท่าทีของอาจารย์ท่านก็เริ่มเปลี่ยนไป  เริ่มมีพยักหน้ารับไหว้ ยิ้มบ้างในบางครั้ง  แต่ที่ทำให้ฉันงงสุด!!!!  

 คือ วันนี้  ฉันและเพื่อนรีบมาทำแลปกัน ตั้งแต่เช้า ...ประมาณ 6 โมงเช้า (เนื่องจากห้องแลป...คิวแน่นมากมีคิวจองตั้งแต่ 9 โมงเป็นต้นไป..) หวังจะทำแลปให้เสร็จ ก่อนที่เพื่อนที่จองห้องไว้จะมา  แต่มันก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด  เมื่อเซลล์เพาะเลี้ยงที่จะใช้นั้นมีการปนเปื้อน  แต่ฉันเองก็ไม่มั้่นใจนักว่าเซลล์มันจะปนเปื้อนจริงรึป่าว  ,,,ประสบการณ์ด้านเซลล์เพาะเลี้ยงยังมีเพียงน้อยนิดค่ะ  เลยไปขอความอนุเคราะห์จากอาจารย์ผู้หญิงคนนั้น ให้มาช่วยดูให้  ...และคำตอบที่ได้คือ เซลล์เพาะเลี้ยงนั้นปนเปื้อนจริงๆ   ฉันเองก็เริ่มถอดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น  เพราะเซลล์เพาะเลี้ยงที่ปนเปื้อนนั้นไม่ได้มีเฉพาะของฉันเท่านั้น  แต่เซลล์เพาะเลี้ยงของห้องแลปก็มีปัญหาเช่นกัน  

     อาจารย์ท่านคงเห็นสีหน้าของฉันที่แสดงออกมาถึงความกังวล  ท่านเลยถามถึงระยะเวลาที่เหลือว่าต้องทำอะไรอีกบ้าง  แล้วมันจะเสร็จทันมั้ย ?? 

   ฉันเลยอธิบายถึงรายละเอียดของงานให้ฟัง  หลังจากที่ฟังฉันพูดจบ  ,,อาจารย์ท่านพูดว่า " เอางี้มั้ย...เซลล์เพาะเลี้ยงชนิดนี้ ของพี่มีอยู่,,,หนูเอาไปใช้ก่อนละกันนะ  แต่พี่ไม่แน่ใจว่ามันจะพอรึป่าว..." ฉันได้ยินประโยคนี้ฉันอึ้งมากจนไม่รู้จะพูดอไรไม่ถูก ฉันเลยถามกลับไปว่า "แล้วอาจารย์ไม่ใช่เหรอค่ะ หนูรอเซลล์จากห้องแลปก็ได้??? คือ หนูเกรงใจอาจารย์ค่ะ"

    "ไม่เป็นไรหนูเอาไปเถอะ  วันนี้เด็กของพี่..พี่ก็จะให้เค้างดแลปไปก่อน หนูเอาไปทำก่อนเลย   ถ้าไม่พอยังไงก็บอกพี่นะ  พี่ยังมีเหลืออีก flash หนึ่ง แต่ก็ไม่เยอะ"

    เมื่อได้ยินดังนั้น  ฉันดีใจมากถึงมากที่สุด และแอบคิดในใจว่าอาจารย์ท่านนี้คงลบภาพที่ไม่ดีในครั้งแรกที่เจอกับพวกเราออกจากใจไปแล้ว  ในใจอาจารย์ตอนนี้คงมีแต่ภาพเด็กน้อยน่ารักทั้ง 6 คน  ที่แสนอึดและทน มีความมุ่งมานะ ,,

       และหลังจากเหตุการณ์วันนั้น  ,,,ฉันก็กลายเป็นคนที่อาจารย์ท่านมักเรียกหาเป็นประจำ (ที่ผ่านมาโดนดุบ่อยสุด,,อาจารย์จึงจำได้)  ทุกครั้งที่ต้องการถามเกี่ยวกับตารางการวางแผนงานของพวกเรา เนื่องจากในการทำแลป  เพื่อนบางคนเขาจะ fix เวลา ฉะนั้นจะต้องเช็คเวลาเพื่อนที่ใช้เครื่องมือก่อนหน้าเสมอ  แต่ถ้าเป็นเมื่อก่อน หากได้ยินเสียงอาจารย์ท่านนี้ เราจะเริ่มมองหน้ากันและคิดว่าจะวันนี้จะโดนอะไร,,,,

    จากวันนั้นถึงวันนี้ ...สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นมันยังคงจารึกอยู่ในใจฉันและเพื่อนๆ แม้ว่าเรานั้นไม่ได้รับการยอมรับจากคนที่นั้นต้องแต่แรกเจอ   แต่ก่อนที่เราจะจากลาที่นั้นมา   เราได้พิสูจน์ให้เขาเห็นแล้วว่า เด็กมหาลัยเปิดใหม่ ก็ไม่ได้ด้อยศักยภาพและการกระทำของเราสามารถที่จะเอาชนะใจลบภาพลักษณ์ที่ไม่ดีออกไปได้  ^T T^

      summer นี้  พวกเราทุกคน ขอขอบพระคุณอาจารย์ทุกท่าน ตลอดทั้งพี่ๆ เพื่อนๆ ต่างสถาบัน ที่ให้บทเรียนในการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น ที่สอนให้พวกเรามีความอดทน  และ บุคคลที่สำคัญที่สุด  คือ คุณพ่อ ผู้แสนน่ารัก (อาจารย์ที่ปรึกษา)  ที่คอยเลี้ยงดูลูกๆ ทั้ง 6 คน ให้เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ให้รู้จักคิด รู้จักใช้สติปัญญาในการแก้ปัญหาต่างๆด้วยตนเอง ไปพร้อมกับภารกิจที่ได้รับมอบหมาย

   

                                        :--- The End

คำสำคัญ (Tags): #ชนะใจ ลบคำดูถูก
หมายเลขบันทึก: 458484เขียนเมื่อ 4 กันยายน 2011 22:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 มิถุนายน 2012 15:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

คนเราเลือกเกิดไม่ได้แต่เเราสามารถเลือกที่จะเป็นได้ ...^__^

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท