ครั้งหนึ่ง...ของการเป็นเด็กในมหาวิทยาลัย


เมื่อช่วงชีวิตหนึ่งได้ก้าวเข้าสู่....รั้วของมหาวิทยาลัย

ย้อนกลับไปเมื่อ 4 ปีที่เเล้ว

      ดิฉันยังกำลังศึกษาอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6\1 ของโรงเรียนประจำจังหวัดแห่งหนึ่ง ดิฉันมีชื่อว่า ด.ญ. ปรางทราย โพธิพิทักษ์ (ทราย) เป็นเด็กกะโปโลตัวดำๆคนหนึ่ง ซึ่งมีเพื่อนสนิท อยู่ 3 คนนั้นคือ แป้ง นุ้ย และพลอย  พวกเราทั้ง 4 คนเปนเพื่อนสนิทกันไปไหนมาไหนด้วยกัน เล่นด้วยกัน ลอกการบ้านกัน เป็นประจำ(อันนี้อย่าเลียนแบบนะค่ะมันสิ่งไม่ดี คิคิ)

ได้ใช้ชีวิตของเด็กมัธยมอย่างคุ้มค่า คือ เรียน เล่น เที่ยว ไปวันๆ โดยหารู้ไม่ว่าอีกไม่นานเราจะได้จากกันแยกย้ายกันไปเรียนคนล่ะที่ล่ะทาง จนวันหนึ่งซึ่งเราต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัย ตอนนั้นดิฉันยังไม่ค่อยเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับคำว่า มหาวิทยาลัย สักเท่าไหร่ เเค่รู้ว่าเป็นเหมือนโรงเรียนแห่งใหม่ที่เราจะเข้าไปเรียนอีกสี่ปี เพื่อให้ได้ปริญญาแล้วก้อมีงานทำในอนาคตแค่ก็เท่านั้น ตอนนั้นดิฉันกับเพื่อนๆ ยังไม่ค่อยรู้สึกอะไร สอบก็สอบ หนังสือไม่ค่อยอ่าน(อ่านบ้างนิดหน่อย)ดิฉันจำได้ว่าจะมีรุ่นพี่(ศิษย์เก่า)จะมาจากมหาวิทยาลัยต่างๆ มาคอยเเนะนำว่าให้ไปเรียนที่นี้นะ ดีอย่างนั้นอย่างนี้ (รึป่าว) ดิฉันก็ฟังแล้วเอาไปเล่าให้เเม่ฟัง เพื่อให้แม่ช่วยตัดสินใจเพราะฉันอยากไปหลายที่แต่แม่บอกว่า ลูกอยากไปเรียนที่ไหนก็ไปเถอะ(เอ๊ะยังไง!!อยากไปที่ไหนก็ไป 55+) และแล้วมหาวิทยาลัยเเรก ที่ทางโรงเรียนจัดสอบอย่างยิ่งใหญ่คือทุกอำเภอจะมาสอบที่โรงเรียนของดิฉัน(รอบรับตรง) นั้นก็คือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งถ้าหากลูกหลานใครสอบติดมหาวิทยาลัยนี้จะเป็นชื่อเสียงแก่วงส์ตระกูลมากกกก(มันเป็นค่านิยมแถวบ้านของดิฉันเองที่สืบทอดกันมานาน) คุณครูบอกว่า เอ้า!!นักเรียน ใครอยากเป็นอะไร อยากจะประกอบอาชีพอะไรในอนาคต ชอบเกี่ยวกับอะไร ก้อลงเลือกคณะนั้น นะ ซึ่งมันมีหลากหลายคณะ ดิฉันก้อถามตัวเองว่าชอบอะไรฉันก็ชอบทุกอย่างนะ ยกเว้น คณิตศาสตร์กับฟิสิกส์(ไม่ชอบคำนวณอะค่ะ เมาหัว) ฉันเลยคิดว่าดิฉันอยากเป็นหมอ(มั้ง) ประกอบกับคุณเเม่ปลูกฝังมาแต่เด็กคืออยากให้ดิฉันเป็นหมอเพราะข้างบ้านดิฉันมีลูกเป็นหมอ (55+) แต่ในใจก้ออยากเป็นแอร์ เป็นผู้พิพากษา เป็นดารา(55+)  สรุปแล้วดิฉันเลือกสอบเข้าใน คณะทัตเเพทย์ศาตร์(เมื่อบอกอยากเป็นหมอนี้ก็หมอ หมอฟัน คิคิ) อันดับหนึ่ง ส่วนอันดับสองเลือกคณะเทคนิคการเเพทย์ มันเลือกได้เพียงสองคณะ เเล้วดิฉันกับเพื่อนๆก้อไปสอบ(ถามว่าอ่านหนังสือมั้ยขอสาระภาพเลยนะค่ะว่าอ่านไปแต่ไม่รู้อ่านยังไงถึงทำข้อสอบไม่ได้) สอบเสดเเล้วก็ยังคงใช้ชีวิตเหมือนเดิม คือ เรียน เล่น เที่ยว และแล้วในที่สุดผลการสอบก้อออกมาสรุปแล้วคือ ดิฉันและเพื่อนดิฉันอีกสามคน สอบไม่ติด!!! ถ้าหากถามว่าตอนนั้นเสียใจมั้ยก้อนิดหน่อยนะค่ะ (แต่ก้อไม่เปนไรเพราะเพื่อนฉันก้อไม่ติด 55+) จากนั้นดิฉันก้อเริ่มสมัครสอบที่นู้น ที่นี้ ที่นั้น เริ่มอ่านหนังสืออย่างจริงจัง  ในที่สุดดิฉันก็ได้เลือกมาเรียนที่ ณ มหาวิทยาลัยเเห่งนี้ แถ่น ถะ ถะเเถมแถ่มแถ้มมม "มหาวิทยาลัยพะเยา" ในสาขาวิชาเทคนิคการแพทย์ คณะสหเวชศาสตร์ และเพื่อนของดิฉันอีกหนึ่งคนเรียนคณะเภสัชศาสตร์และอีกสองคนได้เรียนที่มหาวิยาลัยเเม่ฟ้าหลวง ในที่สุดดิฉันและเพื่อนของดิฉันก้อมีที่เรียนแต่ล่ะคนก้อเลือกไปตามความฝันของตนเอง ในวันปัจฉิม ดิฉันจำได้เพื่อนทุกคนกอดกัน  ร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร(เหมือนจะไม่ได้เจอกันอีก) บรรยายกาศวันนั้นมันเศร้ามากดิฉันร้องไห้เเบบเต็มสตีม กลัวนู้น นี้ กลัวว่าดิฉันจากเพื่อนสนิทไปแล้ว

 ถ้าเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยจะมีเพื่อนสนิทแบบนี้ได้อีกรึป่าว เพื่อนที่มหาลัยจะเข้ากับดิฉันได้ไหม เพื่อนที่มหาลัยจะเข้าใจฉันเหมือนเพื่อนที่โรงเรียนเก่ารึป่าว และอีกต่างๆๆนานาตามความคิดของเด็ก และแล้ววันนั้นก้อมาถึง วันที่ดิฉันต้องจากเพื่อนที่รัก จากการใช้ชีวิตเเบบเดิมๆจากบ้านของฉัน จากแม่ที่รักยิ่ง มาใช้ชีวิตอยู่ในรั้วของมหาวิทยาลัย  ทำให้ดิฉันเข้าใจว่าดิฉันต้องโตขึ้นอีกระดับหนึ่ง เป็นผู้ใหญ่ขึ้นอีกระดับหนึ่ง ต้องดูแลตัวเองได้ ไม่มีเเม่คอยบ่น คอยปลุกให้ไปโรงเรียน คอยทำกับข้าวให้กินก่อนไปโรงเรียน  ทำนู้นนี้นั้นอีกมากมายให้ ดิฉันต้องเปลี่ยนจากเด็กหญิง มาเป็นนางสาว อย่างเต็มตัว!!ทำให้ดิฉันรู้ซึ้งเลยว่าคำว่ามหาลัยนั้นหมายถึงอะไร นอกจากคำว่า มหาวิทยาลัย ที่หมายถึง สถานศึกษาที่จัดการศึกษาระดับอุดมศึกษา ในด้านวิชาการและวิชาชีพชั้นสูงหลากหลายสาขาวิชา เพื่อให้ประกาศนียบัตร อนุปริญญา หรือปริญญา แก่ผู้สำเร็จการศึกษาในหลายระดับรวมถึง ปริญญาตรี ปริญญาโท และ ปริญญาเอก รวมทั้งการทำการวิจัยและให้บริการทางวิชาการแก่สังคม(เอามาจาก วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี) และในความคิดของดิฉันยังหมายถึง  มหาวิทยาลัยชีวิตของดิฉันเอง เพราะดิฉันได้เรียนรู้ได้ประสบการณ์ทั้งการเรียน เพื่อน สังคม และการใช้ชีวิตในรูปแบบที่เเตกต่างกันไป...

โปรดติดตามตอนต่อไปในเรื่อง... เด็กปีหนึ่ง__เคยเป็นไหม

บันทึกวันที่ 2 กันยายน 2554 เวลา 15.00 น

ปล.บันทึกนี้เป็นบันทึกเเรกที่ดิฉันเองที่ได้เขียนอย่างจริงจังและออกสู่สาธารณะหากใช้คำที่ผิดไปประการใดขอภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะค่ะ

หมายเลขบันทึก: 457759เขียนเมื่อ 2 กันยายน 2011 15:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 พฤษภาคม 2012 21:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)

เอาไปเลยหนึ่งดอก สำหรับความเวิ่นเว้อ ของเธอ....ดญ.ตัวดำๆ

คิดถึงสมัยที่ยังเป็นสาวผมสั้น อิอิ

รู้สึกว่าจะสวยตั้งแต่เด็กๆๆนะ

เพื่อนเธอน่ะ อิอิ

ส่วนเธอเป็นยังไงก็ยังงั้นหละ 55555

นายเเซมจะโดนมิช่ายน้อยยยยยย

สวัสดีครับ

พี่เป็นกำลังใจให้นะครับ...มีอะไรช่วยได้

บอกนะครับ

สมัยยัง เด็ก ๆๆ อิอิ น่ารักดี

สมัยสาวๆเธอดูดีนะ อิอิ

สมัยตอนนี้ก้อดูดี นะจ๊ะ คุนเพื่อน คิคิ

มีแต่คนชมเพื่อนอ่ะ สมัยสาวๆๆน่ารักเนอะ ว่าแต่ตอนนี้อ่ะ อิอิ

อย่ามาาาาาาา ตอนนี้ก้อสวยนะจ๊ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท