เครื่องมือและวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล
ก่อนการใช้เครื่องมือและวิธีการใดก็ตามเพื่อการเก็บรวบรวมข้อมูลนั้น สิ่งแรกที่นักวิจัยต้องพิจารณาบอกกับตนเองให้ได้นั่ก็คือ ข้อมูลที่จะเก็บนั้นมีลักษณะเป็นอย่างไร เพราะถ้าข้อมูลต่างกันต้องใช้เครื่องมือและวิธีการต่างกันเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลในงานวิจัยนั้นอาจแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ได้แก่
ข้อมูลเชิงคุณภาพ (Qualitative data) ข้อมูลประเภทนี้ได้แก่ เหตุการณ์ เรื่องราว ขนบธรรมเนียม ประเพณี วิถีชีวิต ความงาม และความสุนทรีย์ เป็นต้น หรืออาจเรียกรวมๆกันเป็นข้อมูลเกี่ยวกับปรากฎการณ์ทางสังคม
ข้อมูลเชิงปริมาณ (Quatitative data) ข้อมูลประเภทนี้ได้แก่ จำนวนหรือตัวเลข ที่กำหนดขึ้นแทนค่าของตัวแปร เช่น ส่วนสูง น้ำหนัก รายได้ จำนวนประชากร อุณหภูมิ และสติปัญญา
นอกจากจะแบ่งข้อมูล เชิงคุณภาพและเชิงปริมาณแล้ว ข้อมูลยังแบ่งเป็นข้อมูลทางกายภาพ(Physical data) และข้อมูลทางจิตภาพ(Phychological data)อีกด้วย
ข้อมูลทางกายภาพ(Physical data) หมายถึงข้อมูลที่แสดถึงคุณสมบัติของสรรพสิ่งที่มีอยู่ในธรรมชาติ และที่มนุษย์สร้างขึ้น ซึ่งข้อมูลดังกล่าวมีลักษณะเป็นรูปธรรม สามรถสัมผัสรับรู้ได้ด้วยประสาททั้ง 5 เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับ จำนวนคน สัตว์ สิ่งของ ปริมาณของวัตถุ แสง สี เสียง และอุณหภูมิ
ข้อมูลทางจิตภาพ(Phychological data) หมายถึง ข้อมูลที่แสดงถึงลักษณะ(Trait) ของบุคคลที่อยู่ภายใน โดยที่คุณลักษณะดังกล่าวนี้สร้างขึ้นโดยทฤษฎี เพื่อช่วยอธิบายลักษณะนั้นมีอยู่ในตัวของมนุษย์ ข้อมูลจิตภาพไม่สามารถสัมผัสรับรู้ได้โดยตรง แต่จะสัมผัสได้โดยอ้อม โดยอาศัยการสร้างคำนิยามเชิงปฏิบัติการ (Operational difinition) แล้วทำการสร้างเครื่องมือวัดคุณลักษณะต่างๆตามคำนิยามนั้นๆ เรียกกันว่า การวัดภาวะสันนิษฐาน (Inference measurement) ตัวอย่างของข้อมูลเชิงจิตภาพ ได้แก่ สติปัญญา ความคิดสร้างสรรค์ ความวิตกกังวล ความถนัดทางการเรียนรู้ แรงจูงใจ และเจตคติ
ลักษณะของข้อมูลเหล่านี้นักวิจัยต้องจำแนกให้ได้ว่า ในการดำเนินการวิจัยของตนเองนั้นต้องการเก็บข้อมูลใด เมื่อจำแนกได้ก็จะนำไปสู่การตัดสินใจเลือกใช้เครื่องมือและวิธีการเก็บรวบรวมได้เหมาะสมกับข้อมูลที่ต้องการ
ไม่มีความเห็น