จิตอาสาเพื่อนเบาหวาน มิตรภาพบำบัด เพื่อนช่วยเพื่อนด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์


คนไท....ใจดีเนอะ

งานจิตอาสาเพื่อนเบาหวานมิตรภาพบำบัด ขยายขอบเขตการทำงานให้การช่วยเหลือ

กว้างออกไปโดยไม่มีใครมากำหนดขีดเส้นได้

ไม่อยากคิดว่าฟ้าลิขิต หากแต่จิตเท่านั้นที่เป็นตัวกำหนดให้อยากทำ 

อยากช่วยเพื่อนให้เข้าถึงคำว่า"บรรเทา" เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพ

เกิดผลดีต่อวงการเบาหวานสุขแบบไม่หวาน และเกิดความสุขทั้งผู้รับและผู้ให้

ในฐานะเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน การทำงานไม่ใช่ทำไปงั้นๆเอง  จะเสียเวลาเปล่า..

และเป็นการลงทุนที่ล้มเหลวได้ ดังนั้นทุกครั้งที่ลงมือทำ

จึงมีทั้งประสบความสำเร็จที่ได้ทำ กับทำๆ และทำไม่สำเร็จ เกิดขึ้นในกลุ่มจิตอาสา..

หากความอดทนของเพื่อนจิตอาสาก็ยังนำพาให้พวกเขาใฝ่คว้าโอกาส

ที่จะช่วยเพื่อนผู้ป่วยด้วยกัน จึงไม่อาจหลีกเลี่ยงการให้การเสริมแรง

 และเติมเต็มความรู้เพื่อให้การทำงานนั้นง่ายและไม่ต้องใช้เวลามาก 

อีกทั้งยังเป็นกำลังใจแบบดับเบิ้ลๆให้กับเหล่าจิตอาสา

เป็นลำดับขั้นของความรู้สึกยินดีที่ได้ช่วยเหลือกันและกัน  

จนก้าวไปถึงการเป็นผู้ให้ที่แท้จริง

บันไดขั้นที่หนึ่งคือความยินดี  นับเป็นขั้นแรกคือความรู้สึกมีพลังใจอันเกิดจากการได้ทำในสิ่งที่คิดว่าทำได้ดีแล้ว เป็นบุญ เกิดสุข มีความสุข ความรู้สึกอิ่มใจน้อยๆ ที่เผยตัวออกมา

บันไดที่สองคือเมื่อเกิดความสุข มีพลังใจที่เข้มแข็งมากขึ้นเพราะการทำความดีนั้นทำให้เกิดความปิติ จึงหมั่นทบทวน เสาะหาความรู้ ยิ่งได้รับการเห็นชอบจากทั้งผู้ป่วย ญาติผู้ป่วย ฝ่ายการเจ้าหน้าที่ด้วยแล้วมันยิ่งก่อให้เกิดผลด้านจิตใจแบบดับเบิ้ลๆ ก็ยิ่งยินดีร่วมมือพัฒนาตนเอง

บันไดที่สามคือคำสัญญา เมื่อเกิดการพัฒนาตนเองก็มีสัญญาใจขึ้นด้วยตัวเองว่าต้องทำตัวเองให้อยู่ดีเสมอๆอยู่กับเบาหวานอย่างมีความสุข มีความเข้าใจมากขึ้น รู้ทันมากขึ้น รักษาสุขภาพตัวเองให้ดีเป็นแบบอย่างและเป็นกำลังใจให้เพื่อนผู้ป่วยได้อย่างไม่เขินอาย..อย่างนี้เป็นกำลังใจแบบลึกๆที่กลายเป็นพลังมหัศจรรย์ยืดอายุตัวเองได้

บันได้ที่สี่แสดงศักยภาพในตัวออกมา เหล่าจิตอาสาผู้ป่วยเบาหวานแต่ละคนล้วนเป็นผู้ผ่านประสบการณ์ในการอุบัติของโรค และมีหลากหลาย  ดังนั้น การเปิดโอกาส หรือหาเวทีให้ได้แสดงออกในด้านต่างๆเช่นทำการฝีมือ เย็บปักถักร้อย งานประดิษฐ์ งานจักสาน งานเกษตร งานอื่นๆๆๆ ที่เคยทำมาล้วนมีคุณค่าที่จะถ่ายทอดประสบการณ์แลกเปลี่ยนกันและกัน เสริมแรง เสริมพลัง ก่อให้เกิดชุมชนคนเบาหวานคุณภาพชั้น 1 ได้ 

            (ขั้น 1 คือดูแลตนเองได้ ทั้งด้านอาหาร การออกกำลังกาย และอารมณ์ที่เบิกบาน)

เป็นผู้ให้ยิ่งสุขกว่า   สมาชิกผู้ป่วยเบาหวานทั้งเก่าและใหม่ สามารถพัฒนาจิตอาสาของตนเองให้เป็นจิตอาสาคุณภาพได้อย่างไร เป็นเรื่องที่พวกเขารู้ดี และเข้าใจยิ่งกว่าใคร จึงเป็นจังหวะที่ดีที่ผู้เกี่ยวข้อง หรือผู้ที่มองเห็นคุณค่าของเพื่อนมนุษย์ จักได้ยื่นมือเข้ามาสนับสนุน และต่อยอดให้เกิดการพัฒนา และเกิดประโยชน์ต่อชุมชน สังคมได้ไม่น้อยไปกว่าคนปกติก็เป็นได้ ด้วยผู้ป่วยเบาหวานส่วนใหญ่คืออดีตคนทำงาน และเป็นนักปฏิบัติมืออาชีพมาก่อน

การเรียนรู้การทำงาน โดยใช้ประสบการณ์ของการคลุกคลี และเข้าถึงเพื่อนผู้ป่วยเบาหวานที่มาจาก หลายอาชีพ มารวมตัวกันในเวทีแลกเปลี่ยน เบาหวาน  จึงต่างยอมรับในมหัตภัยเงียบที่คุกคาม คุณภาพชีวิตผู้คน ที่หลงเพลิดเพลินในรสชาติของอาหารที่บริโภคเข้าไป   ไม่เคยออกกำลังกาย  ไม่เคยหันมาดูแลจิตใจ ไม่สนใจอารมณ์ที่แปรปรวนจากภาวะโรค  หรืออารมณ์ที่ถูกกระทบจากผลการทำงาน และการมีชีวิตอยู่ลำพังก็ย่อมรู้สึกทดถอย  ท้อแท้ มองไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง  อย่างกรณีตัวอย่างที่ได้เจอเป็นครั้งแรกในเช้าวันนี้ ตรงบริเวณทางเดินไปห้องอาหารของโรงพยาบาล

เจ๊เวียน(นามสมมติ) เพิ่งรู้ว่าเป็นเบาหวานเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว

ท่าทางท้อแท้ มาพบหมอตามนัด เพื่อมารับยาแล้วกลับบ้าน

เธอพูดว่า"กินยาแล้วน้ำตาลขึ้นๆลงๆเหมือนกระโดดเชือก"

รู้สึกท้อ "ฉันจะหายไหม" เป็นคำถามแรกที่พูดจากใจจริง

ในสภาวะเช่นนี้..ที่เธอท้อแท้ หมดอาลัย และพูดต่อว่า"ฉันอยากตาย"

ไอ้หยา!........คิดได้ไงนี่...

แล้วฉันจะตอบอย่างไรดี...................ฉันตอบไปแล้วว่าฉันก็เป็นนะ ใครๆก็มีโอกาสเป็นเบาหวานได้ทั้งนั้น  ฉันเองเป็นเบาหวาน

ทั้งนี้ทั้งนั้นเมื่อพิจารณาเราจึงรู็ว่ามันเกิดขึ้นจากชีวิตประจำวันเราเองตั้งแต่เรื่องอาหาร การออกกำลังกาย และการเป็นผู้มีความสุขทางจิตใจ  อารมณ์ที่เบิกบานจะช่วยให้ความทุกข์ทุเลาลง
อีกรายเป็นแม่ชีที่เพิ่งสูญเสียอวัยวะขา  เป็นแผลเหวอะที่ขาเป็นผลจากน้ำตาลในเลือดสูงมานาน

อีกทั้งแผลนั้น   ก็ติดเชื้อด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์

และรู้ไม่ทันโรคเบาหวานของแม่ชีเอง

กว่าจะรู้ตัวว่าเป็นเบาหวาน....ก็ถูกตัดขาเพื่อสกัดการลุกลาม ของแผลเสียแล้ว

แต่ยังไม่สายที่จะใช้ชีวิตที่เหลือกับการสร้างบุญกุศลมิใช่หรือ ฉันบอกแม่ชีว่า

"อย่าเสียใจไปเลย...แม่ชียังโชคดี ตัดเพียงขา อย่างอื่นยังอยู่ครบ

แม่ชียังปฏิบัติธรรมได้ รีบเร่งภาวนาเถอะ ผู้คนหลายหมื่นคน

ต้องจากไปโดยไม่มีโอกาสเรียนรู้ธรรมะ สร้างบุญ สร้างกุศล"

แม่ชีร้องเออจริง.....แล้วคร่ำครวญต่อว่า"ทำไมต้องตัดขา..

ตัดขาแล้วฉันจะปฏิบัติธรรมได้อย่างไร" รายนี้ได้ติดตามไปสานต่อความคิด ก่อนจะถูกส่งตัวไปอยู่บ้านพักของทางราชการ เพื่อให้ได้รับการดูแลที่ดี จนกว่าชีวิตจะหาไม่ เว้นเสียแต่มีญาติมารับไปดูแลต่อ ซึ่งทางศูนย์พึ่งได้ และหน่วยราชการที่รับผิดชอบได้ใช้ความพยายามติดตามญาตอยู่

รายที่สามชื่อเก๋...มะเว้อน สาวน้อยจากดินแดนทิศตะวันตกของแผ่นดินไทย

เธอมาตรวจครรภ์และขอรับยาต้านไวรัส เพิ่งรู้ว่าสามีมอบความรักและฝากHIV

ให้เธอและลูกน้อยในครรภ์  เธอเพิ่งรู้ว่าสามีของเธอเป็นผู้ป่วยกลุ่ม HM

มะเว้อน ไม่ได้คร่ำครวญหรือเสียใจ แต่กลับพูดว่า"ม่ายเปงลาย เปงล่วยกัง"

(เธอคงยินดี หรือปลอบใจตนเองว่าเป็ฯด้วยกันทั้งครอบครัว) และไม่ยอมเชื่อคำแนะนำ

ของเจ้าหน้าที่ ที่พยายามแนะนำวิธีป้องกัน และ

การป้องกันการแพร่เชื้อ แต่ดูเธอจะไม่เข้าใจภาษาที่สื่อสารมากนัก  เพราะเธอพูดว่า

"ม่ายเปงลาย...ม่ายส่าย ก่ล่าย ส่ายไม่เปง ไม่เคยส่าย

ม่ายเอาหร็อกเดี๋ยติเชื้อ"(ไม่ใส่ ใส่ไม่เป็น ไม่เคยใส่ ไม่เอาหรอกเดี๋ยวติดเชื้อ)

 เออแนะ...เธอโต้ตอบแปลก แต่จริง

เจ้าหน้าที่ยังคงอดทนให้ข้อเท็จจริงและความรู้กับเธอด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

เธอพูดกับเจ้าหน้าที่ต่อว่า"ตายก็กาบ..กาบพาม่า"(ตายก็กลับพม่า)

เจ้าหน้าที่ร้องลั่น"อ้าวแล้วลูกอีกสองคนจะทำอย่างไร ไม่สงสารลูกเหรอ

นี่เป็นเบาหวานด้วยนะ แล้วลูกยังเล็ก ไม่สงสารลูกเหรอ"

เธอกลับยิ้มสดใสและพูดว่า"ทิ้งว้ายที่นี่ เขาดูแลดี คนไท....ใจดีเนอะ" !!

หมายเลขบันทึก: 456872เขียนเมื่อ 29 สิงหาคม 2011 23:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 พฤศจิกายน 2012 11:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

สวัสดีค่ะพี่ต้อย

มาส่งกำลังใจ สู้ภัยเบาหวาน

ด้วยความคิดถึง เช่นเคยค่ะ

มาให้กำลังใจพี่ให้มีความสุขกับการทำงานครับ....

สุขกับการทำงานอย่างเต็มกำลังเต็มความสามารถตั้งแต่สิ้นเดือนนี้เป็นต้นไปนะคะ

เอาใจช่วยเสมอค่ะ  อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยนะคะ..

*** ในงานหนักก็มีเรื่องราวให้ได้ช่วยคิดเพื่อสังคมเยอะเลยนะคะ

*** ชื่นชมหัวใจคนทำงานจริงๆค่ะ

พี่ต้อยครับ เป็นอย่างไรบ้าง งานยุ่งไหมครับ...

ชื่นชมมิตรภาพที่มีพลังชีวิตครบถ้วนของครูต้อยครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท