ชีวิตนี้รักเหลือ(เกิน)ล้น


ชีวิตนี้เกิดเพราะความรัก และจะดับได้ถ้าดับความรัก

ความที่อยากทำอะไร อะไร เหมือนโยมบ้างแต่ก็ติดขัดเรื่องของกฏบัญญัติ ศีลธรรมอันดีงาม มันจึงเป็นอะไรที่ยากมากสำหรับการทำตามให้อยู่ในกฏกติกาเปะเหมือนบางท่านอยากให้เป็น ขนาดเรื่องเรียนในบางสาขาบางกิจกรรมยังต้องเว้นวรรคไว้สำหรับพระเลย ทั้งๆที่เราส่วนมากคิดว่าการจะให้คนๆหนึ่งเป็นคนดีโดยส่วนเดียวนั้นหายากมั๊กกกก (กูไม่เชื่อว่ามึงดีกว่า) หรือพระที่ดีพอที่จะให้นับถือนั้นคงหายาก สังคมส่วนใหญ่คิดดังนี้ใช่หรือไม่


ก็ถูกต้องแล้วครับก็ตามที่เราเห็นไม่ว่าคนๆนั้นจะทำหน้าที่อะไรก็ตาม เป็นพระ ครู ตำรวจ ทหาร ข้าราชการ หรือแม้กระทั่งนายกก็เห็นมีคนไม่เชื่ออยู่มากหลาย ขนาดเขียนด่ากันในโลกออนไลน์เลยขอรับ มีทั้งเปิดเผยและหลบซ่อน(ปลอดภัยไว้ก่อน) สรุปก็คือทั้งๆที่คิดอย่างนั้นก็ยังด่า เหมือนคิดว่าคนๆนี้ต้องล้มอยู่แล้วแทนที่จะช่วยพยุงให้ลุกขึ้นเดิน แต่ไม่อย่างนั้นกลับกระทืบซ้ำ (มึงอย่าล้มถ้าล้มก็ซ้ำ)

โลกมนุษย์โสกสลุตเอียงเอนเป็นดั่งน้ำ

สุขและซ้ำคือทุกข์หมองบ้างร้องหัว

แต่ทั้งรู้ก็ยังอยาก-ไหลไปตามใจตัว

ไหลไปทั่วตามลาดลุ่มซุ่มใจคน


คือทั้งๆที่คิดไว้แล้วว่า "สักวันหนึ่งตัองเป็นวันของมึง" นึกว่าจะเข้าใจชีวิตของเขาเปรียบเหมือนของตัวก็เช่นเดียว ไม่อย่างนั้นนะสิพระคุณท่าน ไอ้ที่บอกอย่างนั้นไม่ใช่เข้าใจลึกซึ้ง หรือปลงตก อนิจจัง ทุกขัง อนัตตาอะไรแบบนี้ดอก แต่มีไว้สำหรับความหมายนี้ต่างหาก "ทีใครทีมัน"

 

สะหลูปก็คือ "ก็รู้นะแต่มันทำไม่ได้" 

ประเด็นไม่ได้อยู่ที่รู้หรือไม่ แต่อยู่ตรงที่ทำไม่ได้ต่างหากที่เป็นตัณหา อุ้ยยยย! มันเป็นปัญหาซึ่งจะว่าไปก็เหมือนงูกินหางอีกน่านแหละ มันเป็นปัญหาซึ่ง "ก็รู้ดีนะ" เหมือนเดิมนะแหละ

สารุปซ้ำสองก็คือ รู้ทั้งต้นเหตุของปัญหาและปลาย แต่แก้ไม่ได้ สำนวนนี้ก็คือ (รู้ดี,สุ่รู้,รู้ทั้งรู้,จับต้นชนปลายฯ) แต่คำว่ารู้มากมายเหล่านี้ ไม่ว่าจะรู้จากสำนักไหน อาจารย์ใดก็ดีไม่ใช่ "ผู้รู้แจ้ง" ในพระศาสนา(พุทธนี้)ซึ่งท่านให้คำเรียกอีกอย่างว่า "อเสกข" ผู้รู้แล้วไม่มีสิ่งใดทีควรจะรู้ยิ่งกว่านี้อีก และมีคำตรงกันข้ามอีกอย่างว่า "เสกข" ผู้ยังต้องรู้อีก (อเสกข,เสกข=แปลโดยผู้เขียนเอง)

เขียนไปๆๆมาๆๆๆมาจบตรงนี้ได้ไงก็ไม่รู้ท่านที่รัก แต่สาเหตุที่เขียนบันทึกนี้เรื่องหนึ่งก็คือเรื่องธรรมด๊า ธรรมดาสามัญนี่เอง "ความรัก" เป็นเหตุ เป็นอุทาหะระณะสำหรับผู้ที่คิดว่าตัวเองรู้จัก "ความรัก"ดี (ไม่เชื่อคำเตื่อนของคนอื่นที่รักแท้(แอบอยู่ใกล้ๆ)


ง่ายก็คือพระสงสารคนอกหักดังเปราะ เห็นมีอยู่เกลื่อนในโลกออนไลน์ทั้งที่เปิดเผยและไม่เปิด(รู้แล้วแต่ผม-ฉันรักเขางะ) ทั้งอกหักจากความรัก แอบรักแอบคิดถึง อกหักจากพระ(อ้าฮ้าาาาามีด้วยหรือ?) จากครู ตำรวจ ทหาร ข้าราชการต่างๆ หรือแม้แต่จากท่านนายกตอนเลือกตั้ง ให้ท่านทั้งหลายเหล่านี้ได้ระลึกถึงคำคนที่อยู่ใกล้ๆ(แอบ)อย่างคุณพ่อ-แม่ พี่น้อง ครูอาจารย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำคำอันเป็นที่ระลึกของครูผู้ประเสริฐสุดกล่าวคือพระพุทธองค์ของเราท่าน หวังว่าคงแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์จะกลับมาปรากฏให้ท่านเห็นอีกครั้ง ท่านจะได้รู้แจ้งเสียที อมิตาภะ


หมายเลขบันทึก: 456865เขียนเมื่อ 29 สิงหาคม 2011 23:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 8 มิถุนายน 2012 14:12 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท