ก๋วยเตี๋ยวหร่อยสะอาดปราศโรคา (อาหารอุบาทว์ รสชาติก็กร่อย ๓.๒)
ปฏิรูปก๋วยเตี๋ยวไทยให้หร่อยสะอาดปราศโรคา (อาหารอุบาทว์ รสชาติก็กร่อย ๓.๒)
ในตอน ๓.๑ ผมว่าเรื่องก๋วยเตี๋ยวไปแล้ว ว่ามันสกป. ปานใด ทั้งที่เป็นอาหารประจำชาติที่คนไทยทุกคนกินกันปีละเป็นร้อยชามโดยเฉลี่ย ส่วนพวกนักการเมืองส่วนใหญ่พวกท่านคงกินแต่อาหารฝรั่งในโรงแรมหรู เลยไม่คิดหาทางแก้ปัญหาแต่ประการใด เพราะมันไม่เกี่ยวกับวงจรชีวิตของพวกเขา ( พระเขายังง่าวคิดไม่ออก ในแง่บวก คิดกันได้แต่หาวิธีซื้อเสียงเชิงลบเท่านั้นเอง ธ่อ..จะอาวอะไรหนักหนากะพวกง่าวพวกนี้ อิอิ)
เรื่องการทำให้สะอาดขึ้นที่เกี่ยวกับวัตถุดิบนั้นก็คงต้องฝาก อย. และนักการเมือง ให้ทำหน้าที่ของท่านให้ดี ส่วนเรื่องที่พวกท่านคิดไม่ถึงบางประการจะขอนำมาบอกเล่าในหน้ากระดานนี้
ที่สำคัญคือ น้ำลวก ที่ข้นคลั่กตอนบ่ายๆ ดังที่อธิบายไว้แล้วในกระดานก่อน รวมทั้งน้ำซุป ที่พอบ่ายๆ ลูกค้าน้อย คนขายก็มักหรี่ไฟ จนทำให้น้ำไม่ร้อน ก็ไม่เลยไม่อร่อย และ ไม่ฆ่าเชื้อโรคเท่าที่ควรด้วย
ผมมาได้แนวคิดว่าสามารถปรับวิกฤตเป็นโอกาสได้แบบชนะชนะทั้งสองฝ่าย คือ ปิดไฟหม้อต้มก๋วยเตี๋ยวโดยสิ้นเชิง แล้วให้ใช้เตาแก๊สเล็กๆ สามเตาแทน (ยิ่งวันนี้มีเตาไฟฟ้าแบบ induction แบบเสียบปลั๊กแล้วยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ สะอาดประหยัด คุ้มทุนกว่าอีกสามเท่า)
เริ่มตอนเช้า ก็เอาโครงไก่ (หรือเนื้อ) มาต้มให้เปื่อย..เตรียมน้ำซุปด้วยไฟอ่อน แล้วปิดไฟ หรือถ้าทำเจ ก็เอาข้าวโพดมาต้มกับหัวผักกาด และ ผักอื่นๆ ให้น้ำหอมหวาน (มะละกอก็หวานมากนะสิบอกไห่ ใบหม่อนก็เป็นผงชูรสธรรมชาติที่ดี ไม่รู้ว่ามีสารอะไร เป็นพิษต่อร่างกายหรือไม่ เพียงใด ..น่าวิจัย)
พอมีลูกค้ามาสั่งก๋วยเตี๋ยว ก็เอาหม้อเล็กไปตั้งไฟ ตักน้ำซุบลงไปต้ม ระหว่างรอน้ำซุปเดือด ก็เตรียมเส้น เตรียมผัก ลูกชิ้น เครื่องปรุง ผสมกันให้ดี แล้วโยนลงไปในหม้อ เอาฝาปิด เขย่าหม้อสองที ให้เครื่องผสมกัน ให้ดี (หรือจะมีสูตรเด็ดเฉพาะตนก็ว่ากันไป) ทั้งหมดนี้ใช้เวลาเพียง 1 นาที (ถ้าเป็นกรณีเตาไฟฟ้าแบบอินดัคชั่น) เป็นการลวกและต้มพร้อมกันไปในตัว
แบบนี้น้ำก๋วยเตี๋ยวที่ได้จะสะอาดเท่าเทียมกันแต่หัววันจรดท้ายวัน ไม่ต้องลวกน้ำข้นคลั่ก อีกทั้งไม่ต้องเสียเวลา แรงงาน ในการลวก แถมรวดเร็ว (1 นาที) อร่อย (น้ำร้อนเสมอ) สะอาด (น้ำเดือดฆ่าเชื้อโรคทุกชาม) ประหยัดพลังงาน (เพราะไม่ต้องเสียค่าไฟอุ่นน้ำซุป น้ำลวกให้ร้อน ในยามไม่มีลูกค้า..หรือแม้ในยามีลูกค้าก็ตาม..ว่าทำไมเราต้องอุ่นน้ำทั้งหม้อเบ้อเร่อทั้งวันเพื่อคนเพียงชั่วครู่ขณะเวลา ทำไมเราไม่ต้มตามเท่าที่มีออเดอร์เข้ามา ??)
อีกทั้งพอมีลูกค้ามากๆ ในช่วงเร่งด่วน ก็ยังสามารถทำแบบคู่ขนานเรียงเตา สอง สาม สี่ ห้า ได้ ก็ยิ่งทำให้เร็วขึ้น ลูกค้าไม่ต้องรอนาน เหมือนดังการทำแบบต่ออนุกรมแบบเดิมๆ ที่มีตะกร้อรวกอันเดียว ที่ต้องรอคิวกัน
แบบนี้เร็วขึ้น กินปุ๊บออกจากร้านไวขึ้น (รอน้อยลง) ก็ได้ลูกค้าหน้าใหม่มากขึ้น กำไรมากกว่าเดิม ..มันได้หลายต่อมาก ต่อทุกฝ่าย
ใครหัวใส เอาไปทำเป็นชุด (แพคเกจ) ขาย รวยตายเลย ผมว่า ได้บุญด้วย เพราะช่วยให้ก๋วยเตี๋ยวสะอาดขึ้น ..(อ้อ อย่าลืมกำไรสุทธิสัก 20% เอาไปทำบุญด้วยนะ )
ช่วยประหยัดเวลาคนกินด้วยนะ เวลาที่เหลือเอามาทำงานสร้างชาติ ชาติก็ยิ่งเจริญ (แต่ถ้าเอาไปนินทานาย ก็ยิ่งไปใหญ่)
...คนกินริมทาง (๒๓ สิงหาคม ๒๕๕๔)
ปล. ผมเคยคิดค้นเครื่อง ANM (Automatic Noodle Machine) ไว้นานแล้ว คิดว่าน่าทำได้ ไม่ใช่เรื่องเหลือวิสัย แต่ต้องการงบวิจัยมากสักหน่อย เอาเหรียญหยอด แล้วมีปุ่มให้กดเลือก จะเอาเส้นอะไร ใหญ่ เล็ก หมี่ แห้งหรือน้ำ ใส่ผักอะไรหรือไม่ เลือกลูกชิ้นปลา หมู เนื้อได้หมด แถมชอบ เค็ม เปรี้ยว เผ็ดก็เลือกได้ พอครบหมดแล้ว ก็กดปุ่ม หุ่นยนต์หลังตู้จะจัดการผสมให้เสร็จสิ้น ...เรื่องแบบนี้เครื่องทำกาแฟ ของมะกันเขาทำมานานตั้งแต่สมัยผมเป็นนักเรียนแล้ว กดกาแฟกินมันถามหมดว่าเอาหวานเอามันขนาดไหน มันผสมให้ได้เสมอ ...สุดท้ายต้องมีปุ่มว่า จะเอาผงชูรสไหม ถ้าเอา เอามาก กลาง หรือ ต่ำ แล้วต้องเติมเงินเพิ่มด้วยนะ )
ความเห็น (5)
Nopparat's ANM ชามละ 60 บาท พิเศษ 70
ผิดนะครับคุณหลาน Nopparat
ANM ที่ว่ามานี้ผมคำนวณไว้แล้วว่า จะสะอาด ถูกหลักอนามัย ราคาถูกกว่าท้องตลาด 20% เพราะว่าไม่เสียค่าเช่า ไม่เสียค่าพนักงานเสริฟที่ส่วนใหญ่นั่งว่างเฉยๆทั้งวัน
คนเพียงสองคน สามารถบริหารตู้ ANM ได้ 100 ตู้ (เท่ากับร้าน 100 ร้านที่ต้องใช้คน 300 คน)
ที่ต้องเสียคือ ไอ้ "ถูกหลักอนามัย" นี่แหละ ว่า หลักไหน และราคาเท่าไหร่ อิอิ
เอ้า ลืมอ่านไปว่า มี adjective ว่า Noparat's 555 เลยคิดแบบธรรมดาว่าราคาถูก
(ลืมบริบทการแซวไปเสียสิ้น ๕5ห้า)
สงสัยก๋วยเตี๋ยวเนื้อ "หนูแก้ว "
(นพ นว แปลว่า แก้ว ส่วน rat แปลว่าหนู)
ดังนั้นราคา 60 ก็สมควรอยู่ หิหิ
แต่พิเศษ 70 นี่สิ
สงสัยแถม "เห็ดหูหนู" ด้วย ชิมิ อิอิ
Automatic Noodle Maker?
I would leave more people in solutions for cleaner food.
People need 'right' work to keep their 'right' place in society.
The world of manufacturing is heading toward automation (using robots instead of people).
Many (most) vocational students will find themselves going back to schools for retraining to maintain their families.
When we have robots in restaurants, farms, transports, (more in) banks and ...
what are people to do for their living?
Personal service professions are not for every one.
I beg for people-oriented solutions in this transition period -- till we have governments of people, by people, for people.
;-)
ท่าน sr ครับ คนก็ไปทำงานในโรงงานผลิตเครื่องสิครับ :-) นักวิจัย วิศวกร คนงาน พนักงานขาย สร้างงานที่มีรายได้สูงอีกมากครับ เป็นการยกระดับฝีมือแรงงานขึ้นไป ส่งออกไปขายเมืองนอกก็ได้อีกด้วย
ผจก. ธนาคาร รายงานผมว่า การใช้ atm นั้น ธนาคารไม่ได้ลดจำนวนพนักงานเลย เพราะต้องมีคนไปตามเก็บ คอยซ่อม บริการเพิ่มขึ้น