ป้าน้อย วันนี้อาการหอบกำเริบเป็นค่อนข้างเยอะหมอว่านอนโรงพยาบาลดีกว่าอย่ากลับบ้านเลยนะ
“ นอนไม่ได้หรอกจ้ะหมอ ป้าไม่สะดวก ” เพราะที่บ้านป้ามีหมาหลายตัวป้าบอกถ้าฉันไม่อยู่มันจะอดข้าว แล้วป้าก็อยู่บ้านคนเดียว ป้าห่วงบ้านและยังไม่ได้ล็อกกุญแจกลัวว่าข้าวของจะหาย ไม่ว่าทั้งหมอพยาบาลจะอธิบายอย่างไรป้าก็ไม่ยอมนอนโรงพยาบาล บอกไม่เป็นไรทุเลาแล้วขอกลับไปก่อนถ้าเป็นอีกจะกลับมานอน รพ.ใหม่
“ ฉันถามว่าป้ามีลูกไหม ” ป้าบอกมีจ้ะ ฉันเลยหาทางออกว่าป้าบอกให้ลูกไปช่วยปิดประตูบ้านให้ได้ไหมให้ดูแลหมาแทนป้า ป้าจะได้ไม่ต้องกลับไป หมอเขากลัวว่าป้าจะเป็นหนักแล้วมาไม่ทัน
“ ป้าเกรงใจเขา เขาต้องทำงานไม่อยากรบกวนลูก ” เราบอกว่าไม่ต้องมีคนเฝ้าก็ได้พยาบาลดูแลให้แค่ญาติคอยมาดูหน่อยก็พอ ส่วนชายคนที่มาด้วยเป็นคนขับสามล้อเครื่องที่ช่วยรับส่งป้าไปไหนต่อไหนเป็นขาประจำกันมานาน ยังเฝ้ารอรับป้าอยู่เงียบๆไม่พูดอะไร สักครู่ก็มีหญิงวัยกลางคนแต่งกายดีเดินเข้ามาพร้อมพูดว่า
“ แม่ จะนอนรพ. เหรอ จะนอนได้ยังไงใครจะเฝ้างานฉันเยอะจะตายมาเฝ้าไม่ได้หรอกนะ ”
“ หยูกยานะ กินถูก กินตรงเวลาบ้างไหมถึงได้เป็นหนักอย่างนี้เหนื่อยใจจริงๆเลย ”
เราก็ได้แต่อธิบายเหตุผลที่ต้องให้นอน รพ. เธอก็ได้แต่พยักหน้าปากก็พูดไม่หยุดดูแล้วสงสารป้าน้อยจริงๆ ส่วนชายคนขับสามล้อก็เอ่ยขึ้นมาว่า
“ เอาอย่างนี้ผมเฝ้าให้เองแล้วกันคุณจะได้ไม่ต้องห่วงผมเป็นธุระให้เอง ”
สุดท้ายป้าน้อยก็ยอมนอน รพ.โดยมีชายขับสามล้อรับหน้าที่เป็นผู้ดูแลส่งข้าวส่งน้ำ
โดย อรพรรณ มันตะรักษ์
น่าจะให้คนขับสามล้อเป็นลูกด้วยคน
อึม..ชีวิตก็เป็นแบบนี้แหละเจ๊