โสกราติส เพลโต อริสโตเติ้ล ไอน์สไตน์ เดอร์คาร์ต นิวตัน ฟูกูโอกะ พุทธทาสภิกขุ อาจารย์ชา
ท่านเหล่านี้ไม่เคยทำอะไรมากนัก นอกจากคิด ๆ ๆ เพราะท่านไม่มีเวลาเหลือไปทำอื่น ได้แต่เอาเวลามา " คิด" แล "วิปัสสนา" (นั่งเพ่งลมเฉยๆอีกต่างหาก)
ความคิดของท่านเหล่านี้หาได้ถูกเสมอไปหรอก แต่อย่างน้อยก็ถูกสัก 80% ..ส่วนการทำโดยไม่คิด หรือคิดได้แต่ตามผู้อื่น มันก็มักผิดเสีย 80% ผลต่างประสิทธิผลคือ 16 เท่า
ความคิดของท่านนักคิดเหล่านี้ สำคัญที่สุด เพราะมันทำให้เราไม่ต้องเหนื่อย เสียเวลา คลำทางกันอีก 100 เท่า พันทวี ทุ่นเวลามหาศาล ..อีกทั้ง กาลิเลโอก็คิดว่า โลกหมุนตามดวงอาทิตย์ and not the other way around แต่ก็เกือบถูกเผาทั้งเป็นตามอำนาจและอารมณ์โฉดเขลาของผู้ที่มั่นใจในแนวคิดแห่งตนเสียเหลือเกิน
ตัวผมคิดมานานอย่างพอควร จนตะกอนความคิดตกลงว่า... "การคิดที่ดี คือการทำ ที่ยากที่สุด" แต่วันนี้คนส่วนใหญ่เขาคิดว่า ต้อง "ทำ" ให้ประจักษ์อย่างข้าพเจ้านิสิ ถึงจะ "เจ๋ง" ดูถูกการคิดว่า "ไร้น้ำยา"
นี่มันอนิจจาวัฎฎสังขารแท้ๆ ....วงกลมเดิมๆ
พระพุทธเจ้าท่านคิดเสีย 99% ส่วนที่ทำ นั่งหลับตาใต้ต้นโพธิ์ ประมาณ 1% ของที่คิด
โลกเราพัฒนา จนมีอินเตอร์เน็ต มือถือ ไฟฟ้า ทุกวันนี้ ตระหนักกันบ้างไหมว่า มันเป็นการ _คิด_ เสีย ๙๙% ที่เหลือคือการเอาความคิดไปลอง _ทำ_ ลองผิดลองถูกเสีย 1% เท่านั้น
คนเราเกิดมา ทำหน้าที่ต่างระดับกัน แต่ก็ต้องเคารพซึ่งกันและกัน
เช่นปราชญ์ให้แนวคิด กษัตริย์ปกครอง พ่อค้านำสู่การปฏิบัติ โดยการลงแรงของชนชั้นแรงงาน
สุดท้ายเราทั้งหลายก็เท่ากัน ไม่ต้องดูถูก หยิ่งผยอง ว่าใครเหนือกว่าใคร
เพราะต่างก็ต้องตาย ดายไป เหมือนกัน แหละเพื่อนเอย ไม่ว่าคิดหรือทำ ดีหรือระยำอย่างไรก็ตามที
ลองคิดดูสิ กว่าท่านผู้ฉลาดเหล่านี้ท่านจะกลั่นความคิดให้เป็นยอด จนท่านกล้าเสี่ยงเอาชื่อเสียงแห่งตนเข้าประกาศความคิดเหล่านั้น เปรียบกับเรา สมองเมล็ดถั่ว แต่ไปมั่วด่าท่าน ละลาบล้วงจ้วงจาบด้วยวาจาสามหาวในโต่งหนึ่ง กับอีกโต่งหนึ่งก็กราบกรานบูชาอันจะแตะต้องมิได้
อันผู้มีปัญญา ย่อมแสวงหาข้อสรุปด้วยตนเอง ..มันเป็นเช่นนั้นเอง
...คนถางทาง ...๒๓ สค . ๕๔
(
(เช่นปราชญ์ให้แนวคิด กษัตริย์ปกครอง พ่อค้านำสู่การปฏิบัติ โดยการลงแรงของชนชั้นแรงงาน)
ใช่เลยครับเหมือนที่ว่า
พระนอนสี่
ผู้ดีนอนหก
ยาจกนอนแปด
ความแรดนอนสิบสอง
ท่ายวอญ่าครับ ...ผมเคยได้ยินว่า ...ปราชญ์สี่ เศรษฐีหก ยาจกแปด
การนอนสี่ชม. นี้ผมเคยฝึก ทำได้ครับ แต่ต้องหลับให้สนิท ไม่มีฝันดีหรือร้าย ตื่นมาสดชื่นกว่านอนนานๆ แล้วฝันไปมา พลิกตัวไปมา จะทำได้คือ ต้องนอนสมาธิ ให้กายหลับไปพร้อมสมาธิเลยน่ะครับ
ผมเคยทำสมาธิ (ด้วยการนั่งและการนอน) จนสว่าง ไม่ได้ "หลับ"ทั้งคืน แต่วันรุ่งขึ้นไม่รู้สึกง่วงเลยครับ เป็นแบบนี้สัก 5 ครั้งเห็นจะได้ ทุกครั้งอาการเหมือนกัน ซึ่งตอกย้ำแสดงว่า การทำสมาธิที่"นิ่ง"นั้นอาจเป็นการพักผ่อนที่ดีกว่าการนอน "ฝันร้าย" เสียอีก
โสภณ นอนแปดพอครับ นอนน้อยกว่านั้นพอได้ นอนมากกว่านั้นเยี่ยมครับ อิอิ
สวัสดีค่ะ 'การทำนาแบบคิดโดยไม่ต้องทำ' รีบเปิดอ่านเพราะคิดว่าเป็นเรื่องราวทางการเกษตรที่ทันสมัย...แต่ก็พอได้ข้อสรุป...แต่ขอเสนอข้อคิดว่า...การนอนไม่ใช่ลักษณะที่แสดงออกให้คนทั่วไปเห็นได้อย่างเปิดเผย...ว่าใครนอนกี่ชั่วโมง...จึงน่าจะใช้คำพังเพยที่กล่าวว่า...สำเนียงส่อภาษา...กิริยาส่อสกุล...น่าจะเหมาะกว่าค่ะ...