ระบบสนับสนุนการตัดสินใจระดับองค์กร (Enterprise Decision Support Systems:EDSS)
เป็นระบบ DSS ที่ใช้สำหรับสนับสนุนการตัดสินใจ การทำงานของทั้งองค์กร ซึ่งระบบนี้จะถูกใช้โดยผู้บริหาร (Executives) ผู้ตัดสินใจอาจจะตัดสินใจต่างสถานที่กัน ระบบ ERP ((Enterprise Resource Planning systems) ที่ใช้สำหรับวางแผนการใช้ทรัพยากรขององค์กร ก็จัดเป็นระบบ EDSS ระบบหนึ่ง
Enterprise Systems
Enterprise Systems เป็นระบบสารสนเทศที่สนับสนุนการทำงานขององค์กร ได้แก่ ระบบดังต่อไปนี้
1. ระบบสารสนเทศสำหรับผู้บริหาร (Executive information systems: EIS)
2. ระบบสนับสนุนการทำงานของผู้บริหาร (Executive support systems: ESS)
3. ระบบสารสนเทศสำหรับองค์กร (Enterprise information systems: EIS)
วิวัฒนาการของระบบ EIS (Evolution of Executive and Enterprise Information Systems)
ระบบ EIS ไพ้ถูกพัฒนามาจากระบบ DSS และ ODSS โดยในปี ค.ศ 1980 ได้พัฒนาระบบสารสนเทศสำหรับผู้บริหาร (Executive Information Systems: EIS) จากนั้นตั้งแต่ปี ค.ศ 1995 ก็มีการพัฒนาเป็นระบบ Enterprise Systems
ระบบสารสนเทศสำหรับผู้บริหาร (Executive Information System : EIS)
เป็นระบบที่ทำงานบนพื้นฐานของคอมพิวเตอร์ ให้บริการข้อมูลและข่าวสารที่จำเป็นต่อผู้บริหารที่จะใช้ในการทำงาน โดยสามารถเข้าถึงข้อมูล ข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว ทุกที่และทุกเวลา ผู้บริหารสามารถเข้าจัดการรายงาน ได้โดยตรง ง่ายต่อการใช้งานและแสดงผลในรูปแบบกราฟฟิก นอกจากนี้ยังสามารถ ออกรายงานพิเศษได้ และเพิ่มความสามารถแบบ drill-down (เจาะลึกข้อมูลเฉพาะส่วนที่ต้องการดูได้) และเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ง่ายกล่าวได้ว่า ระบบ EIS เป็นระบบสารสนเทศที่ทำงานด้วยคอมพิวเตอร์ ประมวลผล เก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล และนำเสนอข้อมูลข่าวสารนั้นต่อผู้บริหารระดับสูง เพื่อผู้บริหารจะได้นำข่าวสารนั้นใช้ในการวางแผนนโยบายการทำงานขององค์กร
ระบบสนับสนุนการทำงานของผู้บริหาร (Executive Support System : ESS)
เป็นระบบที่ใช้สนับสนุนการทำงานของผู้บริหาร เช่น ให้ผู้บริหารสามารถใช้งาน Internet หรือสามารถใช้ Vedio Conference ได้ ซึ่งระบบ ESS จะต้องมีความสามารถในการสนับสนุน (Support) ในเรื่องการสื่อสาร (Communications) การจัดการระบบสำนักงานอัตโนมัติ (Office automation) สนับสนุนการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงสถิติ (Analysis support) และตัวเลข หรือเป็นระบบอัจฉริยะ (Intelligence)
ระบบสารสนเทศสำหรับองค์กร (Enterprise Information System EIS)
เป็นข่าวสารโดยรวมของบริษัท ที่มีไว้เพื่อสนับสนุนการทำงานของกลุ่มคนทุกระดับขององค์กร เป็นระบบที่ถูกสร้างมาจากมุมมองของบริษัท ซึ่งระบบนี้จัดเป็นส่วนประกอบหนึ่งของระบบ ERP (Enterprise resource planning systems) ใช้สำหรับตัดสินใจเพื่อความได้เพื่อในเชิงธุรกิจ (Business intelligence)ระบบ EIS นี้จะนำไปสู่การพัฒนาระบบการเชื่อมโยงข่าวสารในองค์กร (Enterprise information portals) และระบบจัดการองค์ความรู้ (Knowledge management systems)กล่าวได้ว่า EIS เป็นระบบสารสนเทศขององค์กร ซึ่งจะต้องมีการรวบรวมข่าวสารของทุกแผนก ของทุกส่วนงาน เพื่อเอาใช้สนับสนุนผู้ใช้ในทุกระดับการทำงาน
คุณลักษณะของระบบ EIS (Characteristics of EIS )
1. การเจาะลึกข้อมูล (Drill down) สามารถดูข้อมูลโดยเจาะลึกเฉพาะส่วนที่ต้องการได้
2. ปัจจัยวิกฤตสำเร็จ (Critical success Factors : CSF) เป็นการติดตามข่าวสารในองค์กรที่คิดว่าสามารถเป็นจุดวิกฤตขององค์กร (เช่น ยอดขายที่ตกต่ำ) และสามารถนำจุดวิกฤตนั้นมาทำให้ประสบความสำเร็จ (เช่น การใช้ Software ตั้งราคาขายสินค้าให้สอดคล้องกับฤดูกาล) อาจเก็บข้อมูลข่าวสารได้จาก 3 แหล่ง ได้แก่ ข้อมูลระหว่างการดำเนินงาน ข้อมูลการผลิต และข้อมูลสภาวะแวดล้อม เพื่อช่วยกำหนดเป้าหมายขององค์กร ในการวางแผนกลยุทธ์ แผนควบคุมการทำงานภายในองค์กรได้
3. สถานะการเข้าถึงข้อมูล (Status access) สามารถเข้าข่าวสารถึงผ่านเครือข่ายได้ทุกที่ทุกเวลา
4. การวิเคราะห์ข้อมูล (Analysis) ข้อมูลในอดีตและปัจจุบันจะต้องสามารถนำมาวิเคราะห์ในลักษณะต่าง ๆ ได้ เพื่อนำผลการวิเคราะห์ไปใช้สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน
5. การสร้างรายงานพิเศษ (Exception reporting) เช่น รายงานที่ได้จากการวิเคราะห์ หรือรายงานที่ผู้บริหารต้องการให้จัดทำขึ้นเฉพาะ ดังนั้นรายงานจะต้องมีความยืดหยุ่น เช่น รายงานแสดงแนวโน้มการที่จะสูญเสียลูกค้าของบริษัท ในอีก 6 เดือนข้างหน้า รายงานแผนกที่มีการขาดทุนสะสมติดต่อกันเป็นเวลา 2 ปี เป็นต้น
6. ความสามารถในการใช้สีและเสียง (Colors and audio) ระบบ EIS จะเน้นในเรื่องของรายงาน
(Report) เพราะการนำเสนอข้อมูลต่อผู้บริหารนั้น รูปแบบของข้อมูลจะสรุปไว้แล้ว แต่ผู้บริหารจะต้อง Drill down ได้เช่นกัน ดังนั้นรายงานที่จัดทำควรมีการเน้นสีและใช้ระบบเสียงเข้ามาช่วย
7. มีระบบนำร่องข่าวสารหรือปุ่มชี้ (Navigation of information) จะใช้ย่นระยะเวลาในการใช้งาน
ทำให้ผู้บริหารไม่สับสนในการใช้งาน
8. การสื่อสาร (Communication) ต้องมีการติดต่อสื่อสารที่รวดเร็วทันใจ สะดวก เช่นระบบไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) ระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Data interchange : EDI) หรืออินเตอร์เน็ต (Internet) เป็นต้น
ประโยชน์ของ EIS (Benefits of EIS)
1. ด้านคุณภาพของข่าวสาร
2. มีระบบการโต้ตอบกับผู้ใช้
3. จัดเตรียมเทคนิคที่มีประสิทธิภาพสำหรับจัดการกับข่าวสาร
4. เอื้อประโยชน์ต่อการทำงานขององค์กรในด้านต่าง ๆ
ซอฟต์แวร์ระบบ EIS ในอดีต (Traditional EIS Software)
จากผู้จำหน่าย Software EIS ทางการค้า ได้แก่ บริษัท Comshare Inc. (www.comshare.com) และ
บริษัท Pilot Software Inc. (www.pilotsw.com) นอกจากนี้ยังมีซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นเอง (Application Development Tools) เช่น In-house components ,Comshare Commander tools, Pilot Software’s Command Center Plus และ Pilot Decision Support Suite เป็นต้น
ข้อมูลที่ใช้จัดทำระบบ EIS
ระบบ EIS นอกจากจะนำข้อมูลมาจากฐานข้อมูลหรือคลังข้อมูล เพื่อนำมาทำการวิเคราะห์แล้ว ข้อมูลประเภท Soft information ก็เป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งที่สามารถนำมาพิจารณาสำหรับจัดทำระบบ EIS ด้วย
Soft Information in EIS
Soft information คือ ข้อมูลที่คลุมเครือ ข้อมูลไม่เป็นทางการ ข้อมูลที่มาจากความรู้สึกหรือสัญชาตญาณ ข้อมูลที่อยู่ภายในใจ ข้อมูลที่ไม่ความชัดเจน ข้อมูลที่มีความหมายเป็นนัย
ข้อมูลประเภท Soft Information จะถูกนำมาใช้มากที่สุดในระบบ EIS แสดงให้เห็นสัดส่วนการนำมาใช้งาน ดังนี้
1. การพยากรณ์ การคาดการณ์ การทำนาย และการประเมินทางธุรกิจ(78.1%)
2. ข้อมูลการวางแผน การประเมิน การชี้แจง (65.6%)
3. รายงานข่าว แนวโน้มอุตสาหกรรม การสำรวจข้อมูลจากแหล่งภายนอกองค์กร(62.5%)
4. ข้อมูลตารางการทำงานและแผนงานอย่างเป็นทางการ(50.0%)
5. ข้อคิดเห็นของบุคลากร ความรู้สึก และแนวคิดของพวกเขา (15.6%)
6. ข่าวลือ เรื่องบอกเล่าหรือได้ยินได้ฟังมา ข้อมูลการซุบซิบนินทา (9.4%)
กล่าวได้ว่า Soft Information จะเป็นข้อมูลที่ยกระดับและเพิ่มมูลค่าให้กับระบบ EIS ซึ่งข้อมูลประเภทนี้นักวิเคราะห์ไม่ควรเพิกเฉยหรือมองข้าม
บทบาทของผู้บริหารและข่าวสารที่ต้องการ (Executives’ Role and Their Information Needs)
หน้าที่หลักของผู้บริหาร (Executive) คือ การตัดสินใจแก้ไขปัญหา ซึ่งกระบวนการตัดสินใจของผู้บริหารจะต้องใช้ข่าวสารทั้งภายในและภายนอกองค์กร ดังนั้นพอสรุปบทบาทของผู้บริหารได้ ดังนี้
1. บทบาทผู้บริหารทางด้านการตัดสินใจ มี 2 ด้านคือ 1) การระบุปัญหาและโอกาสในการแก้ไข 2) การตัดสินใจแก้ไขปัญหา และพิจารณาว่ามีปัจจัยอะไรที่เกี่ยวข้องในปัญหานั้น
2. กระบวนการใช้สารสนเทศเพื่อตัดสินใจ มีขั้นตอนดังนี้
1. เก็บรวบรวมข่าวสารทั้งจากภายในและภายนอกองค์กร
2. จำแนก แยกแยะ และประเมินประเภทของข่าวสาร
3. นำข่าวสารไปวิเคราะห์เชิงคุณภาพและปริมาณ
4. นำข่าวสารเข้าตรวจสอบเงื่อนไขว่าข่าวสารนั้นสามารถใช้แก้ปัญหาได้หรือไม่ (หากใช้ไม่ได้ให้ย้อนกลับไปทำในขั้นตอนที่ 1 ใหม่อีกครั้ง) หากใช้ได้ให้ไปทำขั้นตอนที่ 5
5. ป้อนข่าวสารนั้นเข้าสู่ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ (DSS)
Note : ขั้นตอนที่ 1-4 เป็นขั้นตอนของระบบ EIS ซึ่ง EIS จะเป็นตัวกรอง (Filter) ข่าวสารสำหรับผู้บริหาร ให้ข่าวสารนั้นมีประสิทธิภาพ ผลลัพธ์(Output) ของระบบ EIS จะกลายเป็นข้อมูลนำเข้า ( Input) ของระบบ DSS
http://www.no-poor.com/dssandos/Chapter11-dss.htm
ไม่มีความเห็น