mini workshop


มือใหม่

               หลังกลับมาจาก  saluto..ที่เชียงใหม่มีเพื่อนคนนึงมาชวนให้ไปพูดคุยเล่าประสบการณ์ให้คนในหน่วยงานเล็กๆแห่งหนึ่งฟังเพื่อนบอกว่าตอนแรกเพื่อนกำลังเครียด (เรื่องคน+งาน) พอไปฟังเราเล่าเรื่อง "ทำอย่างไรให้รู้สึกว่าตื่นขึ้นมาเราพร้อมที่จะทำงาน  มีความสุขกับงานที่ทำ และไม่ต้องพยายามคิดบวกหรือมองในแง่บวกแต่ให้เรียนรู้ที่จะคิดบวก " เพื่อนบอกว่าเออเขาเลยคิดได้ปล่อยวางมันไปบ้างก็ดีจะเก็บมาทุกข์ทำไมแต่ในฐานะหัวหน้างานเพื่อนเราเลยอยากแบ่งปันไปให้ลูกน้องที่หน่วยงานตัวเองได้ฟังด้วยเพราะวันนั้นฉันไปเล่าในที่ประชุมหัวหน้างาน(ฉันแค่คนไปเล่านะไม่ใช่หัวหน้ากับเขาหรอก)  ฉันก็ตกปากรับคำเขาไปอย่างน้อยเพื่อนร่วมงานที่ไม่มีโอกาสไปก็ยังได้รู้ว่าจะหาความสุขจริงๆได้ที่ไหนเพราะเราเองขนาดว่าได้รู้ก็ยังต้องคอยบอกคอยเตือนตัวเองอยู่ทุกวันว่าเราจะมองมัน(ความทุกข์+ปัญหา)ในแง่ไหน

               เจ้าลูกชายก็เป็นตัวช่วยอย่างดีหาเพลงเอามาประกอบการทำmini work shop ให้ส่วนฉันก็พยายามย่อส่วน work shop ของอาจารย์เอาเฉพาะหัวข้อที่เกี่ยวกับการเข้าใจตัวเองและเราวางความสุขความทุกข์ของเราไว้ที่ไหนเพราะมีเวลาจำกัดฉันไม่ลืมดินสอกับกระดาษให้คนละชุดให้เขาเขียนสิ่งที่เป็นความสุขและสิ่งที่ทำให้เป็นทุกข์ของตัวเองโดยไม่ต้องให้ใครเป็นคนบอกเมื่อเขียนแล้วให้เขาอ่านของเขาเองจะได้ทบทวนและรับรู้ว่าตัวเองมองตัวเองเป็นอย่างไรและฉันอยากให้เขาเหล่านั้นได้มีโอกาสเยียวยาตัวเอง

               ต่อมาก็ให้ก้อนหินไปถือคนละก้อนบอกความรู้สึกขณะที่มันวางอยู่บนมือเฉยๆกับความรู้สึกตอนที่ค่อยๆกำมือและออกแรงบีบก้อนหิน "ช่วงนี้ให้นั่งหลับตานะแล้วเปิดเพลง ก้อนหินก้อนนั้น  ของโรสให้ฟัง" พอเพลงจบค่อยๆลืมตาฉันสังเกตเห็นว่ามีบางคนร้องไห้น้ำตาซึมสุดท้ายได้พูดถึงการมีโอกาสได้บอกขอบคุณกับสิ่งต่างๆที่อยู่รอบๆตัวเราเเม้เพียงสิ่งเล็กน้อยกับใครบางคนที่เคยได้ให้สิ่งดีดีแก่เราหรือคนที่ทำให้เราเป็นเราทุกวันนี้รวมถึงความรู้สึกดีดีกับเพื่อนร่วมงาน

                  สุดท้ายฉันเปิดเพลง " ด้วยความคิดถึงจึงมาหานำรักมาให้ " ของนัดดา  วิยะการณ์ ให้เขาฟัง   ก่อนจากกันตัวแทนเจ้าหน้าที่( คนที่นั่งน้ำตาไหล) ได้กล่าวขอบคุณและแกบอกกับฉันว่าหลายประโยคที่คุณพูดมันโดนใจพี่เหลือเกินทุกวันพี่ทุกข์ใจเพราะอะไรพี่ไม่มีความสุขเพราะอะไรเพราะใจพี่เองใช่ไหม แล้วพี่เขาก็ระบายความทุกข์ในชีวิตแกให้ฟังสุดท้ายแกก็พูดว่าตอนนี้พี่จะไม่เก็บมันมาคิดให้ทุกข์เพราะพี่มีเรื่องน่าภูมิใจของพี่ตั้งหลายเรื่อง   ฉันเองก็ดีใจที่อย่างน้อยพี่เขาก็หามันเจอ"ความสุข"    พอฉันจะลุกเดินออกมามีลุงที่เป็นคนงานคนนึงแกหันไปมองเพื่อนที่วัยเดียวกันนั่งอยู่ติดกันน่ะแหละแกกอดเพื่อนแล้วพูดว่า "เพื่อนข้ารักเอ็งว่ะขอกอดทีนะ"หลายคนในที่นั้นเลยฮากันใหญ่.

            มิตรภาพ  สิ่งดีดีในโลกยังมีมากมายเพียงแต่เราจะเปิดตาเปิดใจรับมันไว้หรือเปล่าหรือเราจะรับเอาแต่สิ่งไม่ดีของคนอื่นมาให้ทุกข์และขุ่นเคืองหัวใจนี่เป็นสิ่งที่ฉันต้องคอยบอกกับตัวเองเวลาที่ใจ..มันเริ่มทุกข์และฉันต้องพยายามวางมันลงความทุกข์ใจ

หมายเลขบันทึก: 453425เขียนเมื่อ 11 สิงหาคม 2011 17:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 มิถุนายน 2012 15:11 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

เพียงเปิดใจก็เห็นทาง
เห็นความต่างที่งดงาม
เพียงเปิดใจต่อโมงยาม
ใจย่อมฝ่าข้ามความหม่นไหม้

...

ขอบคุณครับ




แวะมาให้กำลังใจครับ

น้องจ๊อบ ^^"

สนใจเป็นอาสาสมัครทำหนังสือเสียง ติดตามได้ที่

http://www.gotoknow.org/blog/youthwebmaster

@นายแผ่นดินขอบคุณที่มาเยี่ยมเยียนค่ะ

บางทีการเป็นแค่จิกซอตัวเล็กๆตัวนีง

มันก็ทำให้เราสุขใจไม่น้อยเลย

สวัสดีค่ะ คุณ Oraphan

  • ชอบจัง
  • อ่านแล้วรู้สึกถึงบรรยากาศ...เคล้าเพลงไพเราะ
  • เห็นรายละเอียดกิจกรรม
  • แค่มีช่วงขณะทบทวนตัวเอง...ได้เยียวยาแล้ว
  • รู้วิธีมองหาความสุขเล็ก ๆ...ง่ายนิดเดียว
  • ยิ่งมีมิตรภาพเป็นตัวเชื่อม...โลกน่าอยู่ขึ้นมากทีเดียว
  • เขียนอีก ๆ ๆ ๆ ๆ....รออ่านนะคะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท