486 คนรุ่นใหม่ของอินเดียคิดอย่างไร

ทำให้ดีขึ้นทุกวัน

"ฝน"

(ภาพสีน้ำมัน 2008โดยพลเดช)

คนรุ่นใหม่ของอินดียคิดอะไร

ผมมีโอกาสได้พบกับคนอินเดียในหลายโอกาสซึ่งเป็นคนมาจากหลากหลายวรรณะ และทุกครั้งก็จะไม่ลืมที่จะสนทนาสอบถามแง่มุมแนวคิดเกี่ยวกับชีวิต การทำงาน อุดมการณ์ของคนเหล่านั้นเพื่อที่เวลาจะคิดถึงคนอินเดีย (หรือ ”แขก” สำหรับคนไทย ) จะได้นำมาประมวลและวิเคราะห์ให้ถูกต้องให้มากที่สุด หนึ่งในคนที่ผมสนทนาด้วยและได้แนวคิดก็คือผู้บริหารโรงแรมระดับ 5 ดาวของอินเดียท่านหนึ่ง เป็นหนุ่มหน้าตาดี ลูกอดีตนายทหารของอินเดียสมัยก่อนได้รับเอกราช หลังจากจบการศึกษาระดับมัธยมที่เมืองปูเน่ ก็เข้าศึกษาในโรงเรียนการโรงแรมที่มีชื่อเสียงที่สุดของอินเดียคือโรงเรียนการโรงแรมโอเบอรอย จากนั้นก็เข้าทำจากนั้นก็เข้าทำงานที่โรงแรมโอเบอรอยและอีกหลายโรงแรมจนมาเป็นผู้ช่วยผู้จัดการโรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่งใจกลางเมือง

อภิเษกคือชื่อของเขา ตามพจนานุกรมไทย อ.เปลี้อง ณ นคร อภิเษกได้แปลคำนี้ว่า......

(สก. อภิเษก; มค. อภิเสก) ก. รดน้ำ, แต่งตั้งโดย การทำพิธีรดน้ำ เช่น พิธีขึ้นเสวยราชย์ของพระเจ้าแผ่นดิน; ได้บรรลุ, ได้เป็น, เช่น พุทธาภิเษก คือ การได้เป็นพระพุทธเจ้า; แต่งตั้งตำแหน่งชั้นสูง เช่น อภิเษกมเหสี คือ ทำพิธีตั้งพระมเหสี; แต่งตั้งโดยการทำพิธีรดน้ำมี ๙ อย่าง คือ ๑. ปราบดาภิเษก เป็นพระเจ้าแผ่นดินโดยรบชนะ ๒. ราชาภิเษก เป็นพระเจ้าแผ่นดินโดยสืบสันตติวงศ์ ๓. โภคาภิเษก เป็นพระเจ้าแผ่นดินโดย มีทรัพย์มาก ๔. อินทราภิเษก เป็นพระเจ้าแผ่นดิน โดยเสี่ยงทาย เช่น ราชรถไปเกย ๕. รัชมังคลา-ภิเษก งานเฉลิมพระเกียติพระเจ้าแผ่นดิน เนื่องในงานเสวยราชสมบัติครบรอบ ๔๐ ปี เช่น สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ครั้งกรุงศรีอยุธยา ๖. ทวิธาภิเษก งานเฉลิมปีรัชกาลที่พระเจ้าแผ่นดินเสวยราชสมบัติได้ ๒ เท่าของพระเจ้าแผ่นดินองค์ก่อนที่ครองราชย์สมบัติมาแล้ว ๗. รัชดาภิเษก ทำเมื่อเสวยราชย์ได้ ๒๕ ปี ๘. สุวรรณาภิเษก ทำเมื่อเสวยราชย์ได้ ๕๐ ปี ๙. วชิราภิเษก ทำเมื่อเสวยราชย์ได้ ๗๕ ปี เช่น พระนางวิคตอเรียของประเทศอังกฤษ……………………….

ชื่ออภิเษกเป็นชื่อเด็กผู้ชาย เป็นที่นิยมของชาวอินเดียในการตั้งชื่อลูกที่เป็นเพศชาย เจอะเจอใครก็เห็นชื่ออภิเษกหลายต่อหลายคน ภาษาสันสกฤตเป็นสิ่งหนึ่งที่ไทยได้รับอิทธิพลจากอินเดียโดยตรง ไม่นับพุทธศาสนาแสดงถึงความเชื่อมโยงกันทางด้านวัฒนธรรมอันลึกซึ้งและยาวนานของคนของทั้งสองประเทศได้อย่างชัดเจน เช่นอภิเษกนี้พอทราบว่าชื่อของเขาก็เป็นคำในภาษาไทยด้วยก็รู้สึกดีใจ จากนั้นเขาก็บอกว่าชื่นชมประเทศไทย อยากไปเที่ยวประเทศไทยมาก ตรงนี้นับเป็นเรื่องหายากเพราะเป็นคนอินเดียไม่กี่รายที่ผมพบแล้วในช่วงเวลา 4 ปีที่อยู่ในอินเดียที่บอกว่ายังไม่เคยไปประเทศไทย อภิเษกบอกว่ามีลูกสาว 1 คนยังเล็กอยู่ เลยยังไม่ได้วางแผนจะเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ แต่ยืนยันว่าจะต้องพาครอบครัวไปเที่ยวเมืองไทยแน่นอน

บิดาของอภิเษกเป็นนายทหารระดับนายพัน ต้องย้ายไปตามค่างทหารหลายแห่งในประเทศ นั่นหมายความว่าทำให้อภิเษกต้องย้ายบ้านและโรงเรียนตามไปด้วย ผมบอกเขาว่าคล้ายกับครอบครัวของนักการทูตเหมือนกันที่เด็กๆ ต้องย้ายโรงเรียนและจากเพื่อนๆ จนทำให้แทบไม่มีเพื่อน เขาบอกว่าการย้ายที่เรียนบ่อยก็มีส่วนดีคือทำให้เห็นโลกกว้างกว่าเด็กทั่วไป ทำให้ผมอดคิดในใจว่าหนุ่มคนนี้ช่างมองโลกในแง่ดีเหลือเกิน

เมื่อถามว่าความฝันในชีวิตคืออะไร เขาตอบว่าต้องการที่จะเป็นผู้จัดการใหญ่ของโรงแรมที่ดีที่สุดของอินเดียให้ได้ในชีวิตนี้ ชัดเจนมากและเป็นเป้าหมายที่เขาบอกว่าเขาไม่ได้วิตกกับเป้าหมายของชีวิตดังกล่าวและขอเพียงทำหน้าที่ที่มีอยู่ให้ดีที่สุดในปัจจุบัน สักวันหนึ่งก็ต้องถึงจุดหมาย

อภิเษกเล่าให้ฟังว่าเขาได้แรงบันดาลใจมากจากผู้จัดการใหญ่โรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่งของอินเดียที่ประสบความสำเร็จในชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อย ทั้งนี้ความฝันในวัยเด็กของบุคคลคนนั้นคือต้องการเพียงอยู่ในห้องแอร์ ด้วยความต้องการเพียงเท่านี้ ทำให้กลายมาเป็นผู้บริหารโรงแรมที่ประสบความสำเร็จสูงคนหนึ่งในอินเดีย

เมื่อถามถึงความเป็นฮินดูในชีวิต อภิเษกตอบว่าได้มาจากในครอบครัวโดยมารดาเป็นผู้ให้และผู้สร้างชีวิต รวมทั้งอุดมการณ์และความฝันในชีวิต ในขณะที่พ่อจะเป็นผู้นำครอบครัวและเป็นตัวอย่างให้ลูกซึมซับสิ่งดีงามต่างๆ โดยไม่มีการบังคับ

พูดถึงตรงนี้ เขาสารภาพว่าไม่ว่าจะโตแค่ไหน มีงานมีการทำ มีเงินเดือนสูง พอกลับมาอยู่ในบ้าน ก็เหมือนเป็นเด็กเล็กๆ ของแม่

คนอินเดียรุ่นใหม่เห็นว่ามีงานที่มีเกียรติมีอยู่มากมายในยุคนี้ เช่นงานโรงแรม งานขาย เป็นงานที่ดีซึ่งสมัยก่อนจะไม่มองกันเพราะถือว่าเป็นงานบริการ คนสมัยเก่าจะนิยมยกย่องงานราชการ หรือทหาร แต่ปัจจุบันคนชั้นกลางรุ่นใหม่มีเสรีที่จะเลือกงานที่ตนถนัดและชอบได้แล้ว รวมทั้งผู้หญิงที่นับวันจะสร้างอนาคตให้ตัวเองได้ จึงจางจากความเคร่งฮินดูไปมาก

คติประจำใจของอภิเษกก็คือในทุกวันต้องทำให้ดีกว่าเมื่อวาน และต้องไม่อยู่กับอดีต

เขาอธิบายต่อไปว่า ต้องไม่ยึดกรอบหรือแผนการชีวิตในอนาคตให้มากนัก เพราะหากไปยึดแล้วทำไม่ได้ ไม่เป็นไปตามนั้นจะกดดันและจะทุกข์ เช่นเขาฝันที่จะเป็นผู้จัดการใหญ่ ก็ฝันไป ตั้งใจทำงานให้ดีที่สุดโดยไม่ต้องวิตกว่าอายุเท่าไหร่ควรเป็นอะไรหรือเมื่อไหร่จะได้เป็นผู้จัดการใหญ่ ต้องทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งต้องใช้ความคิดมาก แต่หากคิดได้แล้วก็จะสบายในภายหลัง เขาสรุปในที่สุด

เมื่อถามเรื่องครอบครัวคนอินเดียนิยมมีบุตรมากไหม เขาตอบว่าครอบครัวสมัยใหม่นิยมแยกออกมาจากครอบครัวใหญ่ที่อยู่รวมกันของคน 3 รุ่นหลากหลายวัย แต่ครอบครัวคนรุ่นใหม่นิยมมีลูก 1-2 คน ก็ถือว่าเหมาะสมแล้ว แต่ถึงจะแยกออกไปอยู่ข้างนอก ก็กลับมาหาครอบครัวพ่อแม่เสมอๆ ในทุกวันเทศกาลซึ่งมีตลอดปี ครอบครัวอินเดียจึงค่อนข้างอบอุ่น

เงินเป็นเรื่องสำคัญสำหรับคนอินเดีย ก็แน่นอน เช่นเดียวกับคนทั้งโลกที่บูชาเงิน เมื่อหาเงินมาได้ เวลาใช้จึงต้องใช้ให้คุ้มค่า และสร้างความสุขให้เราได้มากที่สุด

อภิเษกเล่าว่าต้นแบบในอุดมคติของคนรุ่นใหม่มิได้อยู่กับคนที่ประสบความสำเร็จที่มีฐานเดิม เช่นเศรษฐีอินเดียที่ร่ำรวยที่มีชื่อเสียงอยู่ในปัจจุบัน ส้วนใหญ่มาจากครอบครัวที่เป็นนักธุรกิจตระกูลใหญ่และรวยมาก่อน และปัจจุบันเป็นรุ่นที่สามหรือที่สี่ แต่คนรุ่นใหม่นิยมเศรษฐีใหม่ที่สามารถสร้างตัวมาได้เองเป็นรุ่นแรกเพราะถือว่าลำบากและต่อสู้มากกว่า

ผมอำลาอภิเษกมาด้วยความชื่นชม เขาอาจจะเป็นตัวอย่างและตัวแทนของคนอินเดียรุ่นใหม่ได้ดี เช่นเดียวกับที่ชื่ออภิเษกที่มีมากมายในอินเดีย ณ วันนี้ อินเดียเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ แม้จะจากจำนวนน้อยๆ ของคนชั้นกลางรุ่นใหม่ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ วันหนึ่งเราคงไม่สามารถหลบเลี่ยงคนอินเดียรุ่นใหม่เหล่านี้ได้แน่นอน อภิเษกจบท้ายด้วยประโยคที่บอกว่า

“สิ่งที่พบเห็นได้ง่ายในโลกนี้ นอกจากมะเขือเทศ กล้วยแล้ว ก็มีคนอินเดียนี่ละ ที่พบได้ง่าย”

แหม น่าจะจริงของเขาแฮะ

เขียนใน GotoKnow โดย พลเดช วรฉัตร
ใน เรียน ดู รู้ เล่น ผจญภัยในโลกกว้างกับนักการทูต

คำสำคัญ (Tags): #คนรุ่นใหม่#อินเดีย#อภิเษก

หมายเลขบันทึก: 452094เขียนเมื่อ 2 สิงหาคม 2011 17:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 พฤษภาคม 2012 17:34 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่าน

ความเห็น (8)