ผู้เขียนเคยได้ยินเรื่องราวของนกอินทรีย์มาตั้งแต่เด็ก แต่ในเวลานั้นมิได้รู้สึกซาบซึ้งหรือติดใจต่อเรื่องราวเหล่านั้นจวบจนวันที่ถึงเวลาจะต้องอยู่ในสถานะการณ์เดียวกัน และเรื่องราวต่างๆได้ถูกรื้อฟื้นจากเพื่่อนสนิทรอบข้าง ทำให้บัดนี้เรื่องราวที่ได้รับฟังอีกครั้งดูมีความหมายมากมายกับคำว่า"ชีวิต" ยิ่งนัก
สิ่งมีชีวิตทั่วไป ต้องต่อสู้ดิ้นรน เพื่อการมีชีวิตรอด หรือตอบสนองความต้องการด้านต่างๆของชีวิตไม่ว่าจะเป็นการหาอาหาร หรือการหลบเลี่ยงที่จะเป็นอาหารของผู้อื่น สำหรับนกอินทรีย์ถือว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่ยืนยาวที่สุดในบรรดาสัตว์ปีก มันสามารถมีชีวิตได้นานถีง 70 ปี แต่มันจะต้องมีการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตของมันเมื่ออายุได้ 40 ปี
ตอนนั้นกรงเล็บที่แข็งแกร่งของมันจะไม่สามารถจับสัตว์เป็นอาหารได้อีก จงอยปากที่แหลมคมเริ่มโค้งงอ
ขนที่หน้าอกยาวและรกรุงรัง อีกทั้งปีกจะหนาและหนักขึ้นเป็นอุปสรรคต่อการบิน
และเมื่อนั้น มันจะมีทางเลือกอยู่ 2 ทาง นั่นก็คือเลือกที่จะตาย หรือจะตัดสินใจที่จะอยู่ต่อไปอีก 30 ปี
ซึ่งต้องเผชิญความเจ็บปวดในขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงชีวิต เป็นระยะเวลายาวนานถึง 150 วัน
โดยมันจะต้องบินขึ้นไปบนยอดภูเขาสูง ใช้จงอยปากที่โค้งงอของมันจิกกับก้อนหิน ครั้งแล้วครั้งเล่า
จนกระทั่งจงอยหลุดออกมา เพื่อให้จงอยปาก และกรงเล็บงอกขึ้นมาใหม่
มันต้องจิกถอนขนที่ดกหนาออกเพื่อผลัดขนใหม่ ขั้นตอนทั้งหมดใช้เวลา 5 เดือน
เสร็จขั้นตอน นกอินทรีย์ก็จะบินสูงทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าอีกครั้ง
พร้อมกับร้องเสียงดังก้องสะท้านฟ้า
และจะมีชีวิตที่ยืนยาวต่อไปอีก 30 ปี....
ถ้าหากเป็นคุณ............
อยู่ดีๆการฟังเรื่องราวนกอินทรีย์ครั้งนี้ ก็สะกิดใจ
อาจทำให้การตัดสินทำอะไรบางอย่างง่ายขึ้น
ถึงแม้ว่าจะมีบางสิ่งในชีวิตที่่ยากขึ้นก็ตาม .....
ขอบคุณเพื่อนปุ๋ม และน้องปอ ที่ทำให้ความทรงจำนี้กลับคืนมาอีกครั้ง
และขอให้กำลังใจทุกคนที่กำลังอยู่บนทางหลายแพร่งค่ะ
ขอบคุณสำหรับความรู้ที่ได้รับค่ะ
ถึงแม้จะเป็นพญาอินทรีย์ผู้ยิ่งใหญ่ก็ยังต้องยอมพ่ายแพ้ต่อสังขาร
คงเหมือนคนเรานะที่มีจุดสูงสุดของชีวิตแล้ว ก็คงจะหนีไม่พ้นจุดต่ำสุดและ
ร่วงโรยไปพร้อมกับกาลเวลา