หน้าแรก
สมาชิก
บุญนิธิจันทร์ตองไ...
สมุด
ผญา(ผะหญ๋า)แห่งเม...
๑๖๖.เสน่ห์ของอาสา...
บุญนิธิจันทร์ตองไชยะวุฑฒิกุล
พระครูโสภณปริยัติสุธี, รศ.ดร. ถิรธมฺโม
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
๑๖๖.เสน่ห์ของอาสาฬหะ-วันพระที่น่าสนใจ
ดังนั้น วันนี้เป็นวันที่สำคัญยิ่ง ที่ชาวพุทธจะได้ตั้งจิตอธิษฐานเพื่อให้เกิดความตั้งมั่นในสิ่งที่ได้ตั้งใจเอาไว้ว่า ตลอด ๓ เดือนตนเองจะประพฤติปฏิบัติอย่างไรเพื่อเป็นพุทธบูชา แต่เหนือสิ่งอื่นใด ก็ปฏิบัติเพื่อตนเองจะได้มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดีขึ้น และสามารถสร้างประโยชน์ให้กับตนเอง ครอบครัว สังคม ประเทศชาติ ต่อไป
วันนี้เป็นวันพระใหญ่ ขึ้น ๑๕ ค่ำ หรือที่เราเรียกกันว่า
“วันอาสาฬหบูชา” หรือ “วันอาสาฬหปุณณมี”
บางท่านก็มักพูดเปรียบเปรยว่า “
วันนี้เป็นวันเข้าพรรษาของโยม พรุ่งนี้เป็นวันเข้าพรรษาของพระ
”
อย่างไรก็ตามวันนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อวิถีของพุทธศาสนิกชน ซึ่งพอจะสรุปได้ว่า
๑) เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรมครั้งแรกชื่อ “
ธัมมจักกัปปวัตนสูตร
”
๒) เป็นวันที่สาวกชื่อ “
อัญญาโกณฑัญญะ
” ได้ดวงตาเห็นธรรม ระดับขั้นอริยะ เป็นการยืนยันทฤษฎีของพระพุทธเจ้าว่า สามารถสื่อให้คนได้เรียนรู้และปฏิบัติตามได้
๓) เป็นวันที่เกิด แก้ว(รัตนะ)
ครบเป็นดวงที่สาม คือสังฆรัตนะ
รวมเป็นรัตนตรัย (แก้วสามประการ)
๔) เป็นวันที่
พระจันทร์เต็มดวงเสวยฤกษ์อาสาฬหะ
ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘
วันนี้วัดศรีโคมคำ มีกิจกรรมตลอดทั้งวัน เพื่อให้ผู้แสวงบุญได้ สร้างบุญ บำเพ็ญกุศลเพื่อเป็นเสบียงแห่งชีวิตติดตัวไปในภพภูมิน้อยใหญ่ ดังนี้
๑.เช้าตรู่มีญาติโยมมาถวายทานเพื่ออุทิศเจาะจงไปหาญาติพี่น้องและบุคคลอันเป็นที่รัก
-
ประเด็นที่น่าสังเกตก็คือ
ในช่วงนี้เป็นช่วงการทำบุญเป็นส่วนตัว เนื่องจากมีการรอคิวในการถวายทานเพื่อเจาะจงญาติของแต่ละท่าน ไม่ปนกัน พระต้องคอยให้พร ต้องเอ่ยชื่อผู้ถวายและผู้ที่ทำบุญอุทิศเจาะจงไปหา ยิ่งเป็นพระท้องถิ่นแล้วยิ่งดีเนื่องจากให้พรเป็นภาษาท้องถิ่นได้และสามารถร่ายยาว ขึ้นอยู่กับลีลาและปฏิภาณของแต่ละรูปที่จะมี “คำให้พร” แตกต่างกันอย่างไร? แต่สุดท้ายก็ต้องมาจบที่ “ยถา-สัพพี”
๒.หลักจากนั้นก็มีพิธีอย่างเป็นทางการในพระวิหารหลวง คือไหว้พระ รับศีล ฟังธรรมเทศนา ถวายภัตตาหาร ตลอดจนถึงถวายผ้าอาบน้ำฝน
-
ประเด็นที่น่าสังเกตคือ
เป็นการทำบุญในภาคส่วนรวม เป็นกิจกรรมร่วมกันระหว่างคนมาวัด คนนอนวัด คนจรมาทำบุญ ไม่ได้เจาะจงให้ใคร ถ้าจะอุทิศให้ญาติพี่น้อง ต่างคนก็ต่างอธิษฐานในใจ หรือไม่ก็กล่าวเบา ๆ แล้วแต่ใครจะอธิษฐานอะไร นี้เป็นเสน่ห์ของการทำบุญอย่างหนึ่ง
๓.ปกติจะทำวัตรเช้าในเวลา ๐๘.๐๐ น. แต่เนื่องจากวันนี้มีพิธีอุปสมบทพระ ๒ รูป ซึ่งเป็นสามเณรภายในวัดรูปหนึ่งมาจากอำเภอเมือง รูปหนึ่งมาจากอำเภอปง ญาติพี่น้องแต่ละฝ่ายก็เดินทางมาร่วมงาน
-เป็นที่น่าสังเกตว่า
กระบวนทัศน์ของคนสองกลุ่มนี้ต่างกันมากในเรื่องรายละเอียด คือ เมื่อถึงคราวถวายเครื่องสักการะพระอุปัชฌาย์และถวายจตุปัจจัยแด่พระสงฆ์นั่งอันดับ สิ่งที่เห็นคือกลุ่มคนที่มาจากต่างอำเภอ จะทำเครื่องสักการะที่เป็นเอกลักษณะของล้านนาคือ มะพร้าวหนึ่งลูกมีการจัดอย่างดีปักเทียนไว้ เมื่อถวายพระอันดับจะถวายซองปัจจัยพร้อมสรวย(กรวย)ดอกไม้ แต่กลุ่มคนที่มาจากอำเภอเมือง จะทำเครื่องสักการะที่เป็นแก้วน้ำใส่ข้าวสารปักเทียนและมีดอกไม้แซม เมื่อถวายพระสงฆ์ก็ถวายแต่ซองปัจจัย
-
หากมองในแง่วัฒนธรรม
คนต่างอำเภอจะรักษาวัฒนธรรมท้องถิ่นได้ดีกว่าโดยวิถีชีวิต แต่คนอำเภอเมืองจะได้รับอิทธิพลของสื่อมากกว่าและมองมิติทางเวลาคือการเตรียมการที่เร่งรีบเป็นเกณฑ์
-
หากมองในแง่คุณค่า
คนต่างอำเภออาจจะมองในเรื่องของจิตวิญญาณ และมีเวลาร่วมทำมากกว่า แต่คนอำเภอเมืองอาจจะมองที่ประโยชน์ของการใช้สอยว่าหลังจากเสร็จงานแล้วจะใช้ต่ออย่างไร?
ความคิดที่แตกต่างนี้ ความผิดถูกไม่ใช่สาระสำคัญ แต่เป็นบทเรียนที่ต่างหากที่หน่วยงานไหนที่เกี่ยวข้องต้องปรับวิธีคิดใหม่ เพื่อใช้เป็นกระบวนทัศน์ในอนาคตต่อไป
๔.เวลาบ่ายโมง มีสังฆกรรมลงปาฏิโมกข์
เป็นที่น่าสังเกตว่า
การลงร่วมสังฆกรรมปาฏิโมกข์นี้ เป็นการทำร่วมกันระหว่างวัดต่าง ๆ ภายในเขตเทศบาลเมืองพะเยา จำนวน ๙-๑๐ วัด อันเนื่องมาจากวัฒนธรรมนี้หลวงปู่ใหญ่ให้พระสงฆ์ในเขตเทศบาลได้มีกิจกรรมร่วมกัน อันแสดงถึงความสามัคคี ร่วมใจเป็นหนึ่งเดียว
๕.เวลาบ่ายสองโมงครึ่ง มีการเทศน์บรรยายและเทศน์แบบพื้นเมือง
เป็นที่น่าสังเกตว่า
เป็นกิจกรรมช่วงพรรษาที่ทางวัดได้จัดให้พระภิกษุสามเณรได้มีการเทศนาธรรมเพื่อฉลองศรัทธาของญาติโยมที่มานอนวัดโดยถือศีล ๘ และประชาชนที่สัญจรไปมา ใน ๒ รูปแบบคือ แบบธรรมบรรยาย-ขยายความตามแบบนิยมทั่วไปและแบบทำนองล้านนา ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของท้องถิ่น
๖.เวลาหนึ่งทุ่มจะมีพิธีเวียนเทียน
เป็นที่น่าสังเกตว่า
เป็นกิจกรรมที่มีเด็ก ๆ วัยต้นของชีวิต เข้ามาร่วมเป็นจำนวนมากขึ้น อาจเป็นเพราะเป็นกิจกรรมที่มีการเคลื่อนไหว ไม่ใช้เวลานาน และอิสระในการเข้าและออกจากพิธีกรรมได้สะดวก ซึ่งจะแตกต่างจากกิจกรรมตอนเช้า และตอนบ่าย ที่ผู้เข้าร่วมต้องนิ่งในการร่วมพิธีกรรมต่าง ๆ แต่วันนี้หลายวัดไม่ได้มีพิธีเวียนเทียนเนื่องจากฝนตกมาตั้งแต่เช้า บางที่ก็หยุด ๆ ตก ๆ เป็นระยะตลอดวันเช่นกัน
ส่วนตัวผู้เขียน มีเพิ่มอีกกิจกรรมเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งกิจกรรม คือ
๗.
การบริการวิชาการแก่สังคม
คือต้องไปเทศน์งานศพต่างอำเภอ ในเวลา ๒๐.๐๐ น. ซึ่งห่างออกไปอีกประมาณ ๓๐ กิโลเมตร อันเป็นภารกิจที่ต้องไปฉลองศรัทธาให้กับญาติโยม แม้จะเหนื่อยก็ต้องไปเนื่องจากเขาเจาะจงมา
ดังนั้น วันนี้เป็นวันที่สำคัญยิ่ง ที่ชาวพุทธจะได้ตั้งจิตอธิษฐานเพื่อให้เกิดความตั้งมั่นในสิ่งที่ได้ตั้งใจเอาไว้ว่า ตลอด ๓ เดือนตนเองจะประพฤติปฏิบัติอย่างไรเพื่อเป็นพุทธบูชา แต่เหนือสิ่งอื่นใด ก็ปฏิบัติเพื่อตนเองจะได้มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดีขึ้น และสามารถสร้างประโยชน์ให้กับตนเอง ครอบครัว สังคม ประเทศชาติ ต่อไป
เขียนใน
GotoKnow
โดย
บุญนิธิจันทร์ตองไชยะวุฑฒิกุล
ใน
ผญา(ผะหญ๋า)แห่งเมืองพะเยา : พุทธศาสนาเชิงรุก
คำสำคัญ (Tags):
#ท้องถิ่น
#ประเพณี
#ปัญญาเพื่อสังคม
#มหาจุฬาฯ
#มหาศรีบรรดร
#วรรณกรรม
#วัฒนธรรมล้านนา
#ศิลปวัฒนธรรม
#เมืองพะเยา
หมายเลขบันทึก: 449259
เขียนเมื่อ 15 กรกฎาคม 2011 22:56 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:48 น. (
)
สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกัน
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
บุญนิธิจันทร์ตองไ...
สมุด
ผญา(ผะหญ๋า)แห่งเม...
๑๖๖.เสน่ห์ของอาสา...
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท