ผมมาอยู่บ้านดินจนถึง ณ.วันนี้ก็เป็นเวลา 2 ปี กว่าแล้ว บ้านดินหลังนี้ผมสร้างมันขึ้นมาเองด้วยตัวคนเดียว ตลอดระยะเวลา 7 เดือนที่ใช้เวลาในการก่อสร้าง ผมได้เรียนรู้การใช้ชีวิตโดยลำพังคนเดียวว่าจะต้องอยู่อย่างไรให้อยู่รอด ทั้งประหยัดรายจ่ายในการดำรงชีวิต อาหารแต่ละมื้อจะต้องทำกินอย่างไรให้อิ่มและอร่อยด้วย
ยกตัวอย่างให้เห็นเป็นรูปธรรมในเรื่องการหุงข้าว ผมจะใช้หม้อฃึ้งนึ่งข้าวใส่ถ้วยชามใบเล็กตราไก่ 3 ถ้วย คือสามมื้อ เช้า เที่ยง เย็น พร้อมกับนึ่งไข่ตุ๋นไว้ 3 ถ้วยด้วยเช่นกัน หากวันใดผมอยากจะกินกับข้าวอย่างอื่นก็เตรียมอาหารให้พร้อมทั้งสามมื้อนึ่งในฃึ้งพร้อมกันไปด้วย เป็นเช่นนี้ทุกวัน สลับสับเปลี่ยนกันไปแล้วแต่นึกอยากจะทานอะไรก็เดินไปในสวนหาผักที่ขึ้นเองตามธรรมชาติหรือที่ปลูกเอาไว้มาต้มเกลือ ลวกจิ้มกินกับน้ำพริก ไข่ต้ม หอม กระเทียม เป็นเครื่องเคียง ชีวิตมันมีอะไรที่ต้องการไปมากกว่านี้พอถึงจุดหนึ่งของบั้นปลายชีวิต ทุกสิ่งล้วนกลับมาเริ่มต้นกันใหม่ มันเป็นวงจรสัจจะธรรมที่ทุกศาสดาได้กล่างเอาไว้ ดังนั้นเราจะวิตกกังวลไปใยกับอนาคตอยู่ตรงนี้และที่นี่ ทำทุกสิ่งอย่างมีสติและเป้าหมาย ผลลัพธ์ในวันรุ่งขึ้นจะต้องเป้นดังที่เราตั้งใจไว้แน่นอน.
...เอายายธี..ไปอยู่ด้วยได้ไหมเอ่ย...อยากอยู่บ้านดิน..บ้าง..อ้ะ....สวัสดียายธีเจ้าค่ะ
ดีเหมือนกันนะครับชีวิตแบบนี้
ขอให้มีความสุขกับชีวิตมากมายนะครับ
ไม่มีอะไรดีไปกว่าธรรมชาติและการปรับตัวให้อยู่กับธรรมชาติได้อย่างมีความสุข
นะคะ เคยไปนอนบ้านดินที่ปาย สบายและเย็นดีค่ะ