การพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์และทักษะการปฏิบัติงาน
ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวัดบ้านดาบ
โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบโครงงาน : รายงานการวิจัย
วงศ์รวี มีศิริ : รายงาน
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2)พุทธศักราช 2545 มุ่งใช้การศึกษาเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญาความรู้และคุณธรรมจริยธรรมและวัฒนธรรมในการดำรงชีวิตสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่น ได้อย่างมีความสุข โดยกระบวนการจัดการเรียนรู้ต้องปลูกฝังจิตสำนึกที่ถูกต้องเกี่ยวกับการเมือง การปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข รู้จักรักษาและส่งเสริมสิทธิหน้าที่ เสรีภาพ การเคารพกฎหมาย ความเสมอภาคและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์มีความภาคภูมิใจ ในความเป็นไทยรู้จักรักษาผลประโยชน์ส่วนรวมและของประเทศชาติรวมทั้งส่งเสริมศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรมของชาติ การกีฬา ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทยและความรู้อันเป็นสากลตลอดจนอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีความสามารถในการประกอบการ การอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข โดยกระบวนการจัดการเรียนรู้ต้องปลูกฝังจิตสำนึกที่ถูกต้องเกี่ยวกับอาชีพ รู้จักพึ่งตนเอง มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ใฝ่รู้และเรียนรู้ด้วยตนเองอย่างต่อเนื่อง การจัดการศึกษาให้ยึดหลักการศึกษาตลอดชีวิต โดยให้สังคมมีส่วนร่วม ในการจัดการศึกษา การพัฒนาสาระและกระบวนการเรียนรู้ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง(กระทรวงศึกษาธิการ. 2546 : 5-6)
โรงเรียนวัดบ้านดาบ เป็นโรงเรียนขนาดเล็ก ผู้ปกครองของนักเรียนส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรม รับจ้างและเป็นพนักงานตามโรงงานอุตสาหกรรม ส่วนใหญ่มีฐานะยากจนทำให้นักเรียนขาดโอกาสในการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น ทางโรงเรียนจึงมีแนวคิดที่จะให้เด็กนักเรียนได้เรียนรู้อาชีพเสริมควบคู่กับหลักวิชาการ เพื่อจะได้นำความรู้ไปประกอบอาชีพและหารายได้เสริมในระหว่างเรียน ซึ่งเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระของผู้ปกครองอีกทางหนึ่งด้วย โรงเรียนจึงได้กำหนดไว้ในแผนกลยุทธ์ของโรงเรียนวัดบ้านดาบ โดยได้กำหนดให้มีการสอนอาชีพเสริมให้กับนักเรียนในระดับช่วงชั้นที่ 2 ในกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานพื้นฐานอาชีพและเทคโนโลยี ประกอบกับในปีการศึกษา 2550 โรงเรียนได้รับประเมินภายนอกจาก สมศ. ซึ่งผลการประเมินคุณภาพนักเรียนในมาตรฐานที่ 4 ด้านความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำ
การเรียนรู้ด้วยโครงงาน จัดเป็นวิธีการที่เสริมสร้างและพัฒนาทักษะกระบวนการคิด ทั้งนี้เพราะ การเรียนรู้แบบนี้เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ประยุกต์ใช้ทักษะการเรียนรู้ของตนเองเต็มที่ เน้นพลังความอยากรู้อยากพิสูจน์ของผู้เรียน แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของผู้เรียน โครงงานเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่สำคัญของทุกรายวิชา นักเรียนได้ศึกษาเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างลุ่มลึก ด้วยกระบวนการคิดและแก้ปัญหาเรื่องที่ศึกษามาจากความสนใจของเด็กเอง โดยกำหนดประเด็นหรือคำถามที่อยากรู้ขึ้นมาเอง ครูไม่ใช่ผู้ถ่ายทอดหรือกำหนดกิจกรรมให้เด็กทำครูทำหน้าที่ เป็นเพียงที่ปรึกษาสำหรับเด็ก ส่วนเด็กเล็กครูจะเป็นที่ปรึกษาและผู้ชี้แนะอย่างใกล้ชิดเป็นการส่งเสริมให้เด็กฝึกฝนการตัดสินใจอย่างมีประสิทธิผล ส่งเสริมให้นักเรียนเป็นนักวางแผน นักแก้ปัญหาที่ใจเย็นและมีเหตุผล นักเรียนสร้างองค์ความรู้ขึ้นจากการมีปฏิสัมพันธ์การค้นคว้า ปรึกษาหารือ อภิปราย ทดลอง ประเด็นสำคัญคือเด็กมีโอกาสได้พบทั้งความสำเร็จและความล้มเหลวจากกระบวนการเรียนรู้ของเขาเอง(หน่วยศึกษานิเทศก์ กรมสามัญศึกษา เขตการศึกษา 10. 2544 : 4)
จากความต้องการแนวคิดการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ สภาพปัญหาของชุมชนและผลการประเมินคุณภาพภายนอกของ สมศ. รอบสอง ดังกล่าวข้างต้น ผู้วิจัยในฐานะครูที่รับผิดชอบการจัดกิจกรรม การเรียนรู้สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ได้ดำเนินการศึกษาเพื่อหาแนวทางสำหรับการพัฒนานักเรียน โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน กับกลุ่มสาระการงานอาชีพและเทคโนโลยี ซึ่งเป็นสาระการเรียนรู้ที่มุ่งพัฒนานักเรียนให้มีความเข้าใจเกี่ยวกับงานอาชีพและเทคโนโลยี มีทักษะการทำงานทักษะการจัดการ สามารถนำเทคโนโลยีสารสนเทศเทคโนโลยีต่าง ๆ มาใช้ในการทำงานอย่างถูกต้องเหมาะสมคุ้มค่ามีคุณธรรม สร้างและพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือวิธีการใหม่ สามารถทำงานเป็นหมู่คณะ มีนิสัยรักการทำงานเห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่องานตลอดจนมีคุณธรรมจริยธรรมและค่านิยมที่เป็นพื้นฐาน ผู้วิจัยจึงมีแนวคิดที่จะศึกษาความสามารถในการคิดวิเคราะห์และทักษะการปฏิบัติงาน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เรื่อง การแปรรูปอาหาร โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบโครงงาน ซึ่งมีการเผยแพร่ความรู้ที่ได้จากการศึกษาของผู้เรียนต่อชุมชนและเพื่อเป็นการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในท้องถิ่นให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด รู้จักอนุรักษ์สภาพแวดล้อมที่มนุษย์อาศัยอยู่ร่วมกันเพื่อส่งผลต่อการดำรงชีวิตในอนาคตต่อไป
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
1. เพื่อศึกษาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนที่เรียนรู้ด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน
2. เพื่อศึกษาทักษะการปฏิบัติงาน ของนักเรียนที่เรียนรู้ด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน
ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ปีการศึกษา
2553 กลุ่มโรงเรียนศรีทักษิณ ประกอบด้วยนักเรียนโรงเรียนวัดบ้านดาบ โรงเรียนวัดมาบ พระจันทร์ โรงเรียนวัดราษฎร์บำเพ็ญ โรงเรียนวัดโพธิ์ทองและโรงเรียนวัดเสด็จ จำนวน 120 คน
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียน
วัดบ้านดาบ ปีการศึกษา 2553 จำนวน 22 คน โดยใช้วิธีการเลือกแบบเจาะจง
ตัวแปรที่ศึกษา
ตัวแปรต้น คือ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน
ตัวแปรตาม คือ
1) ความสามารถในการคิดวิเคราะห์
2) ทักษะการปฏิบัติงาน
คำจำกัดความที่ใช้ในการวิจัย
การจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน หมายถึง การดำเนินการจัดการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นให้นักเรียนเป็นศูนย์กลาง โดยให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง เริ่มจากความสนใจใคร่รู้ของนักเรียนที่อยากจะศึกษาเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ทำให้เกิดการสืบเสาะหาความรู้และวิธีการแก้ปัญหาด้วยตัวของนักเรียนเอง อันจะนำไปสู่ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ แสวงหาความรู้และแนวทางในการแก้ปัญหาแล้วนำเสนอผลการศึกษาตามวิธีการของตนเองอย่างเป็นขั้นตอน โดยมีครูเป็นผู้ให้คำปรึกษา
ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ หมายถึง ความสามารถของนักเรียน ในการพิจารณา ค้นหาใคร่ครวญ ประเมินค่าโดยใช้เหตุผลเป็นหลักในการหาความสัมพันธ์เชื่อมโยง หล่อหลอมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้อย่างสมบูรณ์แบบ อย่างสมเหตุสมผลก่อนที่จะตัดสินใจ ซึ่งวัดได้จากคะแนนตอบแบบทดสอบวัดความสามารถในการคิดวิเคราะห์ แบบปรนัย 4 ตัวเลือก ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ตามเนื้อหา และจุดประสงค์การเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สาระที่ 1 หน่วยที่ 1 เรื่อง การแปรรูปอาหาร โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบโครงงาน
ทักษะการปฏิบัติงาน หมายถึง ความสามารถในการทำงานด้วยตนเอง โดยมุ่งเน้นการฝึกวิธีการทำงานอย่างสม่ำเสมอ ทั้งการทำงานเป็นรายบุคคล และการทำงานเป็นกลุ่ม เพื่อให้สามารถทำงานได้บรรลุเป้าหมาย ได้แก่ การวิเคราะห์งาน การวางแผนในการทำงาน การปฏิบัติงานตามลำดับขั้นตอน และการประเมินผลการทำงาน ซึ่งผู้วิจัยได้สร้างเครื่องมือวัดทักษะการปฏิบัติงานโครงงานของนักเรียน โดยใช้แบบสังเกตที่สร้างขึ้น
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี หมายถึง กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่
ช่วยพัฒนาให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจ มีทักษะพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต และรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง สามารถนำความรู้มาประยุกต์ใช้ในการทำงานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ เห็นแนวทางในการประกอบอาชีพ รักการทำงาน มีเจตคติที่ดีต่อการทำงาน สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างพอเพียงและมีความสุข
นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หมายถึง นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ของโรงเรียนวัดบ้านดาบ ตำบลบ่อโพง อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประจำปีการศึกษา 2553 จำนวน 22 คน
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1. ได้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ที่เหมาะสมกับการจัดการเรียนรู้
2. ได้แนวทางในการพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนที่เรียนรู้ด้วยวิธีการเรียนรู้แบบโครงงาน
3. ได้แนวทางในการพัฒนาทักษะกระบวนการทำงาน ของนักเรียนที่เรียนรู้ด้วยวิธีการเรียนรู้แบบโครงงาน
4. ได้แนวทางสำหรับครูผู้สอน ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ที่มีประสิทธิภาพ
เครื่องมือที่ใชในการวิจัย
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลและเครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง
1. เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล ได้แก่ แบบทดสอบวัดความสามารถในการคิดวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี และแบบวัดทักษะการปฏิบัติงาน
2. เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ วิธีการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน
การดําเนินการทดลอง
1. กำหนดกลุ่มตัวอย่าง นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวัดบ้านดาบ ปีการศึกษา 2553 จำนวน 22 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง
2. กอนการทดลอง ทำการทดสอบนักเรียนกลุมตัวอยางกอนเรียน ดวยแบบทดสอบก่อนเรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน แลวนําผลการทดสอบมาตรวจใหคะแนน
3. ชี้แจงกระบวนการจัดการเรียนรู พรอมแนะนําเกี่ยวกับชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ
โครงงาน เพื่อให้นักเรียนเกิดความรู้ความเข้าใจและสามารถปฏิบัติกิจกรรมได้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้
4. ดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน โดยผู้วิจัยเป็นผู้ดำเนินการจัดการเรียนรู้เอง ใช้เวลาเรียน 8 ชั่วโมง ซึ่งในระหว่างดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ผู้วิจัยได้ดำเนินการวัดทักษะการทำงานของนักเรียนควบคู่ไปด้วย
5. เมื่อสิ้นสุดการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน ทำการทดสอบหลังเรียน โดยใช้แบบทดสอบวัดความสามารถในการคิดวิเคราะห์
6. ตรวจผลการทดสอบของนักเรียน แล้วนำคะแนนที่ได้มาวิเคราะห์ โดยใช้วิธีทางสถิติเพื่อทดสอบสมมติฐาน
การวิเคราะห์ข้อมูล
1. เปรียบเทียบความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ภายในกลุ่มทดลอง ใช้ t-test แบบ Dependent Samples โดยใช้สถิติพื้นฐานคือ คะแนนเฉลี่ย (Mean) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation)
2. สังเกตการปฏิบัติงานของนักเรียน โดยใช้แบบสังเกตที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น
การวิจัยเรื่อง การพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์และทักษะการปฏิบัติงาน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวัดบ้านดาบ โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบโครงงาน สรุปผลการวิจัยได้ ดังนี้
1. นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนการสอนโดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบโครงงาน มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ .05
2. นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนการสอน โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบโครงงาน มีทักษะการปฏิบัติงาน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ .05
1. ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ พบว่านักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
แบบโครงงาน มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์สูงขึ้น เนื่องจาก การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน เป็นการใช้กระบวนการทำงานเป็นกลุ่ม ได้มีปฏิสัมพันธ์ทำให้นักเรียนได้พัฒนากระบวนการทางสมองระดับสูง สามารถพิจารณาสถานการณ์ คิดหาเหตุผล การจำแนกและการแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ สอดคล้องกับ วนิช สุธารัตน์ (2547 : 125-128) ที่กล่าวว่า การคิดวิเคราะห์เป็นกระบวนการที่ใช้ปัญญา หรือใช้ความคิดนำพฤติกรรม ผู้ที่คิดวิเคราะห์เป็นจึงสามารถใช้ปัญญานำชีวิตได้ในทุก ๆ สถานการณ์ เป็นบุคคลที่ไม่โลภไม่เห็นแก่ตัว ไม่ยึดเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง มีเหตุผลไม่มีอคติ มีความยุติธรรมและพร้อมที่จะสร้างสันติสุขในทุกโอกาส การคิดวิเคราะห์จะต้องอาศัยองค์ประกอบที่สำคัญสองเรื่อง คือ ความสามารถในการให้เหตุผลอย่างถูกต้องกับเทคนิคการตั้งคำถามเพื่อใช้ในการคิดวิเคราะห์ ซึ่งทั้งสองเรื่องมีความสำคัญต่อการคิดวิเคราะห์เป็นอย่าง สอดคล้องกับคราจซิค (Krajcik. 1994 : 483-497) ได้ศึกษารูปแบบการให้ความช่วยเหลือของครูในการทำโครงงานของนักเรียน พบว่า การจัดการเรียนการสอนแบบโครงงานเป็นการเรียนแบบร่วมมือ ผลที่ได้จากโครงงานเป็นการพัฒนาความคิดรวบยอดและสร้างมนุษย์สัมพันธ์ทางวิชาการของนักเรียน
2. ทักษะการปฏิบัติงาน ของนักเรียนที่เรียนรู้ด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ
โครงงาน มีทักษะการปฏิบัติงานหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนเนื่องมาจาก แผนจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน ที่ผู้วิจัยจัดทำขึ้นประกอบด้วยส่วนที่เป็นการให้ความรู้พื้นฐานและความรู้ที่เกี่ยวข้องเบื้องต้น ตามด้วยกิจกรรมที่ใช้สำหรับการฝึกทักษะการจัดทำโครงงานตามลำดับขั้นจากง่ายไปยาก การมีตัวอย่างหรือสถานการณ์ประกอบทุกขั้นตอน ทำให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจในกระบวนการจัดทำโครงงาน การได้ฝึกทักษะช่วยให้นักเรียนได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้จากเพื่อน ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างทั้งความรู้และทักษะในการจัดทำโครงงานมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้การเปลี่ยนบทบาทของครูผู้สอนจากผู้ถ่ายทอดมาเป็นการเป็นที่ปรึกษา คอยดูแลช่วยเหลือและสนับสนุนให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ การเรียนรู้ไปกับผู้เรียนรวมทั้งกิจกรรมการเรียนรู้มาจากความสนใจของนักเรียนเป็นหลัก จึงส่งผลโดยตรงให้นักเรียนมีความสามารถในการจัดทำโครงงานตามเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนดได้ สอดคล้องกับ สุจิตรา ขุนคำ (2553 : บทคัดย่อ) ได้ทำการศึกษาการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการปฏิบัติงาน รายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี งานธุรกิจ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในรายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี งานธุรกิจ นักเรียนได้รับคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนในทุกแผนการจัดการเรียนรู้ รวมถึงนักเรียนมีทักษะการปฏิบัติงานในภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก
จากการสังเกตของผู้วิจัยพบว่า นักเรียนที่เรียนรู้ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน มีความกระตือรือร้น ร่วมมือในการทำกิจกรรมการเรียนรู้เป็นอย่างดี ในการศึกษาค้นคว้าหาข้อมูล การทำงานร่วมกับเพื่อน การแสดงความคิดเห็น การสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง การแสดงผลงานที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับนักเรียน บรรยากาศสนุกสนาน นักเรียนกล้าแสดงความคิดเห็นและรับฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกันทั้งภายในกลุ่มและระหว่างกลุ่ม โดยเฉพาะเมื่อมีการรายงานผลงานของแต่ละกลุ่ม อันเป็นการแลกเปลี่ยนกระบวนการคิด กระบวนการทำงาน การะบวนการสร้างความรู้ด้วยตนเอง การวิเคราะห์กระบวนการเรียนรู้และการประยุกต์ใช้ความรู้อันเป็นทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิตและเป็นเป้าหมายหลักของการจัดการเรียนรู้ในปัจจุบัน จึงเป็นผลให้การจัดการเรียนรู้แบบโครงงานสามารถพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และทักษะการปฏิบัติงานของนักเรียนได้เป็นอย่างดี
1. ควรนำการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน ไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับเนื้อหาวิชาอื่น เพื่อพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ ส่งเสริมให้การเรียนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมกลุ่มอย่างทั่วถึงกัน การเรียนรู้ที่ผู้เรียน ได้ศึกษาค้นคว้าด้วยตัวเอง จะทำให้ผู้เรียนเกิดความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ สามารถปรับตัวและทำงานร่วมกับผู้อื่นได้เป็นอย่างดี
2. ควรมีการเปรียบเทียบผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน กับกิจกรรมการเรียนรู้แบบอื่น เช่น การจัดกิจกรรมเรียนรู้แบบ 4 MAT การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Story line
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2546). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 พร้อมกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้อง และพระราชบัญญัติการศึกษา
ภาคบังคับ พ.ศ. 2545. กรุงเทพมหานคร : องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์
(ร.ส.พ.).
วนิช สุธารัตน์. (2547). ความคิดและความคิดสร้างสรรค์. กรุงเทพฯ : สุวีริยาสาส์น.
สุจิตรา ขุนคำ. (2553). การจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการปฏิบัติงาน รายวิชาการงานอาชีพ
และเทคโนโลยี งานธุรกิจ. ศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต. เชียงใหม่ : บัณฑิตวิทยาลัย.
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. ถ่ายเอกสาร.
หน่วยศึกษานิเทศก์ กรมสามัญศึกษา เขตการศึกษา 10. (2544). การเรียนการสอน แบบโครงงาน
เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏิบัติการ. อุบลราชธานี : หน่วยศึกษานิเทศก์
กรมสามัญศึกษา เขตการศึกษา 10.
Krajcik. J.S; Blumenfeld, P.C.; Marx, R.W.;& Soloway, E. (1994). A collaborative model for
helping middie-grade science teachers learn preject-besed instruction.
The Elementary School Journal, 94, 483-497.
ไม่มีความเห็น