"แรงงานควายไถนา"
ภูมิปัญญาไทยที่เลือนหายไปจากท้องทุ่งนาไทยไม่น่าจะน้อยกว่า 2
ทศวรรษแล้ว
ถูกนวัตกรรมใหม่ภายใต้อิทธิพลเทคโนโลยีสมัยใหม่กลืนหายไปจากท้องถิ่น
ในสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลง
ชาวนาต้องดิ้นรนเพื่อช่วยเหลือตนเองมากขึ้นให้หลุดพ้นจากจากความทุกข์ยากทางเศรษฐกิจโดยพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน
ณ ท้องทุ่งบ้านหนองเทิง ตำบลหนองแวง อำเภอเมืองร้อยเอ็ด
จังหวัดร้อยเอ็ด ชาวนากลุ่มหนึ่งรวมกลุ่มกันขึ้นเพื่อจัดแหล่งเรียนรู้
"ภูมิปัญญาควายกับวิถีชาวนาไทย" ดำเนินกิจกรรมภูมิปัญญาอาชีพชาวนา
ความผูกพันระหว่างควายกับคน ภูมิปัญญาท้องถิ่นระหว่างควาย คน
วัฒนธรรมประเพณี ตลอดจนพัฒนานวัตกรรมจากควาย เช่น ปุ๋ยขี้ควาย
แก๊สชีวภาพจากขี้ควาย
โรงเรียนกาสรกสิวิทย์ ของสมเด็จพระเทพฯค่ะ เมื่อน้ำมันแพงและอาจหาซื้อไม่ได้ เครื่องมือทำนา ก็ต้องกลับมาเริ่มต้นที่เจ้าทุยเพื่อนยากนี่ละค่ะ
ขอบคุณครับ ร่วมคิด ร่วมพัฒนา ร่วมเรียนรู้ทำอย่างไรถึงจะพัฒนาที่เรียกว่า "สู่ความยั่งยืน" โรงเรียนฝึกสอนควาย คนไถนาที่ร้อยเอ็ดก็เป็นอีกหนึ่งแห่งที่สนองโครงการพระราชดำริฯ ในรูปแบบกระบวนการเรียนรู้ วิถีกระบือกับท้องถิ่น
การที่จะนำควายกลับมาไถ่นาเหมือนเมื่อก่อนคงจะเป็นไปได้ยาก..เพราะวิถีการเกษตรที่เปลี่ยนไป..เราจะอนุรักษ์ควายไทยให้คงอยู่กับชาวนาได้คงต้องอาศัยภูมิปัญญาท้องถิ่นผสมผสานกับนวัตกรรมใหม่ๆ ให้ชาวนาได้เห็นประโยชน์และความสำคัญของควาย เหมือนกับชาวบ้านบ้านหนองเทิง ตำบลหนองแวง อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด ที่กำลังทำอยู่นั่นหล่ะครับ...ถูกต้องที่สุด