สาธุบุญทัน ปุญญกาโม ถือว่าเป็นประธานองค์การพุทธศาสนาสัมพันธ์ (อพส.) แขวงหลวงพระบาง ซึ่งก็คือเจ้าคณะจังหวัดหลวงพระบางนั้นเอง ท่านเป็นพระที่บริหารกิจการคณะสงฆ์
การเข้าไปสัมภาษณ์ครั้งนี้ เป็นการเข้าไปสัมภาษณ์ครั้งที่ 2 โดยครั้งแรกสัมภาษณ์ ณ กุฎิของท่านที่วัดโพนเพลาเมื่อปี 2552 ครั้งนี้เป็นการสัมภาษณ์ขณะที่ท่านสาธุเป็นประธานสนามสอบโรงเรียนพระปริยัติธรรม ระดับมัธยมปลาย (ม.๗) อยู่ ณ วัดพระบาท บางเรื่องบางประเด็นทำให้เห็นถึงแนวคิดที่ ทำให้คนไทยสะดุ้งได้เหมือนกัน เนื่องจากเขามองเรา-ซึ่งแน่นอนต้องต่างจากที่เรามองเขา จึงขอนำเสนอบทสัมภาษณ์ดี ๆ ดังนี้
มหาศรีบรรดร ถิรธมฺโม (ต่อไปจะใช้คำว่า “ผู้สัมภาษณ์” แทน)
สบายดีครับสาธุ ผมเห็นการสอบของพระภิกษุสามเณรแล้วรู้สึกดีใจมากครับ แสดงให้เห็นว่าการศึกษาของพระพุทธศาสนากำลังเจริญรุ่งเรือง
สาธุบุญทัน ปุญญกาโม (ต่อไปจะใช้คำว่า “สาธุบุญทัน” แทน)
สบายดี มาจากไหนกัน?
ผู้สัมภาษณ์ :ผมมาจากพะเยาครับ
สาธุบุญทัน :ดี ๆ
ผู้สัมภาษณ์ :ผมขอเรียนถามเกี่ยวกับพุทธศาสนาในหลวงพระบางเป็นอย่างไรบ้างครับ?
ผู้สัมภาษณ์ :ในทัศนะของสาธุ คำว่าพุทธศาสนาเชิงรุกคืออะไร?
สาธุบุญทัน :สามารถประยุกต์เข้ากับวิชาการทางโลกได้ ไม่ใช่บอกสอนกันสืบ ๆ มาตามมีตามเกิด
ผู้สัมภาษณ์ :พระพุทธศาสนาในหลวงพระบาง 10 ปีที่แล้วกับปัจจุบันสาธุมองเห็นประเด็นนี้ว่าอย่างไร?
สาธุบุญทัน :มีการขยายตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น มีตำราใหม่ มีระบบใหม่ ๆ เข้ามา มีการจัดการแบบใหม่
ผู้สัมภาษณ์ :แล้วในอนาคตพระพุทธศาสนาในหลวงพระบางเป็นอย่างไรบ้างครับ?
สาธุบุญทัน :โอกาสดีมาก รัฐบาลเห็นความสำคัญ ด้านวัสดุอุปกรณ์ก็ให้การสนับสนุนดี
ผู้สัมภาษณ์ :พุทธศาสนาเชิงรุกในหลวงพระบางเป็นอย่างไรบ้างครับ?
สาธุบุญทัน :ปัจจุบันคณะสงฆ์หลวงพระบางแบ่งหน้าที่กันทำงานใน 4 ฝ่ายประกอบด้วย
1)ฝ่ายการปกครอง มีสาธุบุญทัน ปุญญกาโม เป็นหัวหน้า ทำหน้าที่ในการปกครองดูแลความเรียบร้อยของพระภิกษุสามเณรในแขวงหลวงพระบาง
2)ฝ่ายเผยแผ่ศีลธรรม มีสาธุอ่อนแก้ว กิตติภทฺโท เป็นหัวหน้า ทำหน้าที่ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาและอบรมศีลธรรมให้กับประชาชน
3)ฝ่ายการศึกษา มีสาธุจันทริน จินธมฺโม เป็นหัวหน้า ทำหน้าที่จัดการศึกษา ปัจจุบันมีโรงเรียนพระปริยัติธรรมเปิดสอนตั้งแต่มัธยมปีที่ 1-7
4)ฝ่ายสาธารณูปการ มีสาธุบุญเลิศ รวิวณฺโณ เป็นหัวหน้า ทำหน้าที่ให้คำปรึกและดูแลการก่อสร้างศาสนวัตถุ
ผู้สัมภาษณ์ :งานด้านการเผยแผ่มีอะไรบ้างครับ?
สาธุบุญทัน :ในปัจจุบันงานด้านการเผยแผ่ที่ถือว่าเป็นพุทธศาสนาเชิงรุกนั้นมี ดังนี้
1)โครงการบวชภาคฤดูแล้ง (ภาคฤดูร้อน)
2)โครงการฝึกอบรมวิปัสสนากัมมัฏฐาน
3)โครงการเมตตาธรรม (เกี่ยวกับผู้ป่วยโรคเอดส์)
4)โครงการพุทธศาสนาสัญจร
5)โครงการพุทธศาสนาเพื่อพัฒนาสังคม ส่วน
6) การจัดรายการธรรมทางสถานีวิทยุ -โทรทัศน์ และ
7)การจัดทำวารสาร เพิ่งมี 2-3 ปีที่ผ่านมา
ผู้สัมภาษณ์ :การสาธารณสงเคราะห์ในหลวงพระบางเป็นอย่างไรบ้างครับ?
ผู้สัมภาษณ์ :ในทัศนะของสาธุ คำว่าพระหัวก้าวหน้าเป็นอย่างไร?
สาธุบุญทัน :ในหลวงพระบางมีพระหัวก้าวหน้าเพียง 3 รูปเท่านั้น คือ สาธุบุญทัน สาธุอ่อนแก้ว และสาธุจันทริน ส่วนนอกนั้นยังมีความเชื่อแบบเดิมอยู่มาก
ผู้สัมภาษณ์ :ถ้าอย่างนั้นการทำงานด้านพระพุทธศาสนาก็มีปัญหาสิครับ?
สาธุบุญทัน :ใช่ เท่าที่ผ่านมาการพัฒนามุ่งไปสู่การพัฒนาวัตถุโดยให้ความสำคัญมากกว่าคน เนื่องจากคนไม่ใช่ประเด็น เพราะคนโดยมากนับถือผีและบรรพบุรุษ เป็นพุทธโดยบัตรประชาชน ที่ระบุในบัตรประชาชนเนื่องจากไปไหนมาไหน สะดวกเพราะได้ชื่อว่าคนลาวแท้ (เนื่องจากรัฐบาลมีกฎหมายห้ามประชาชนบูชาหรือนับถือผี)
ผู้สัมภาษณ์ :ถ้าทางวัดจะจัดงานฝึกอบรม หรืองานด้านพุทธศาสนาเชิงรุกจะดำเนินการอย่างไร?
สาธุบุญทัน :อันนี้เป็นเรื่องใหญ่ การจะดำเนินการใดใดต้องขออนุญาตจากภาครัฐเสียก่อน เท่าที่ผ่านมาได้จัดบอร์ดแสดงวันสำคัญทางพุทธศาสนาและกิจกรรมของวัด การนำเด็กนักเรียนมาตอบปัญหาธรรมะ ซึ่งล้วนแล้วแต่ต้องขออนุญาตก่อนทั้งสิ้น
ผู้สัมภาษณ์ :เมื่อจัดงานวัดขึ้นมา มีการโฆษณาอย่างไรบ้างครับ?
สาธุบุญทัน :วัดต้องแทรกในตอนใดตอนหนึ่ง จะทำการบรรยายแบบตรง ๆ ไม่ได้ต้องแอบ ๆ ค่อย ๆ แทรกเอา
ผู้สัมภาษณ์ :ในเมืองไทย เวลามีงานวัดจะมีการประดับประดาธงทิว ไฟ สี-แสง-เสียง แต่ทางนี้เป็นอย่างไรบ้างครับ?
ผู้สัมภาษณ์ :ขอบคุณมากครับ สาธุที่กรุณาให้สัมภาษณ์?
ไม่มีความเห็น