Primary Care Strengthening

เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2554 ที่ผ่านมา
มีการจัดเวทีการประชุมจัดทำยุทธศาสตร์ฯ 55-59
ณ โรงแรมรามาการ์เด้น
โดยการประชุมประกอบด้วยเครือข่ายทำงานร่วมกันระหว่าง สปสช. กระทรวงฯ สธ. และหน่วยงานอื่นๆ

มียุทธศาสตร์ที่ 3 ของ สปสช ว่าด้วยเรื่อง ที่เกี่ยวข้องกับทิศทางของ ระบบบริการปฐมภูมิ โดยตรง นั้นก็คือ
“สร้างความเข้มแข็งของระบบบริการสาธารณสุข โดยเฉพาะระบบบริการปฐมภูมิที่เหมาะสมในทุกมิติ และสอดคล้องกับบริบทพื้นที่”
(Primary Care Strengthening)

การประชุมเพื่อให้มีการปรับ OUTCOME ที่ตรงกัน (Shared Vision & Goal)
แล้ววางบทบาท หน้าที่ของแต่ละองค์กร เพื่อจะเดินไปสู่การบรรลุเป้าประสงค์ร่วมกัน

โดยกำหนดเป้าประสงค์ ไว้ว่า
ประชาชนเข้าสู่ระบบบริการที่ระบบบริการปฐมภูมิเป็นที่แรกเมื่อเจ็บป่วยหรือต้องการดูแลสุขภาพ และได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง เชื่อมโยงสู่บริการระดับโรงพยาบาลเมื่อมีความจำเป็น

โดยมีภาพ OUTCOME ที่อยากเห็นใน 5 ปี คือ
ความเชื่อมโยงของระบบบริการสาธารณสุข ทั้งบุคคล ครอบครัว และระบบสุขภาพชุมชน การเชื่อมระบบบริการปฐมภูมิ เข้ากับระบบบริการระดับโรงพยาบาล, ระดับทุติยภูมิ ถึงระดับตติยภูมิ

สิ่งที่สำคัญ Input ของการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์นี้ คือ "กำลังคน"
การที่จะให้ระบบบริการปฐมภูมิ เดินหน้าอย่างภาคภูมินั้น
จำเป็นต้องมีทีมสหสาขาวิชาชีพ จำนวนมาก
การกำหนดแนวทางการเพิ่มแพทย์ (เพิ่ม GP และ ชักนำสู่ FamMed) เพื่อทำหน้าที่ Care Manager จึงจำเป็นที่จะต้องมีความรู้ ด้านการบริหารจัดการควบคุมด้วย
และต้องมีทีมงาน ที่จะประกอบด้วยพยาบาล, ทันตแพทย์ (ทันตาภิบาล), เภสัชกร (จพ.เภสัชกรรม), จพ.สาธารณสุข, นักกายภาพบำบัด, นว.สาธารณสุข, นักโภชนการ, นักจิตวิทยา

ซึ่งเหล่านี้ ล้วนแต่ต้องอาศัย "งบประมาณ" "เวลา" และ "ศรัทธา" ในการขับเคลื่อน