พระธาตุสามหมื่น...ศาลาพันห้อง...พระนอน...พญายมราช


วันศุกร์ที่ 3 มิถุนายน 2554

ภาคบ่ายของวันนี้ ผมได้ไปช่วยงานเตรียมประเมินอำเภอควบคุมโรคเข้มแข็ง ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านลาด ต.บ้านแก้ง อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ต้องร่วมแรงร่วมใจหลาย ๆ ฝ่ายในชุมชน

 

ประมาณบ่าย 4 โมงเย็น ผมก็เดินทางกลับบ้าน แต่ก่อนกลับบ้านขอแวะชม 'พระธาตุสามหมื่น' ก่อนครับ ได้โอกาสมาทำงานแล้วแวะมาไหว้พระและมาเที่ยวด้วยครับ เพราะระยะทางห่างจากบ้านผม ประมาณ 10 กิโลเมตรเอง

 

ลูกหลานชาวอำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ทุกคน คงจะเคยมาไหว้พระธาตุ แม้ 'ทิมดาบ' เอง อายุ 7 ขวบ แล้ว 3 ครั้ง แต่ละครั้งเขาตื่นเต้นมาก รวมทั้งเพื่อน ๆ ผม ที่ผมต้องพามา ทุกคนต่างประทับใจและกลับไปทบทวนชีวิตตนเองกับ ดินแดนมหัศจรรย์ที่มีเรื่องราว และเป็นวงกลม มีเนื้อหาสาระ (ถ้ามีการพัฒนาและบูรณะ ประเทศเกาหลีก็เถิดครับ ต้องอายเราเลย)

 

 

ฝนโปรยปรายแค่ละอองพอชุ่มชื่นเล็กน้อย  ทำให้ความรู้สึกของผมที่เดินทางมาคนเดียว รู้สึกความยิ่งใหญ่และอลังการ ถึงแม้จะมานับครั้งไม่ได้ ทางเข้ามาพระธาตุ สองข้างทาง เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ๆ เช่น ต้นเต็ง สัก สะเดา มะขาม และคูน เป็นต้น เมื่อเข้ามาก็จะพบหุ่นปั้นรูปคนต่าง ๆ ตั้งตระหง่าน ซึ่งผสมผสานความทันสมัยและโบราณ  มีทั้งรอยยิ้มทักทาย ความโหดร้าย และการผจญวิบากกรรม

 

 

ตอนบ่ายแก่ ๆ แสงแดดเริ่มอ่อนแรงลง  ผู้คน พระสงฆ์ และเณร ไปไหนกันหมดนะ ผมได้ยินแต่เสียงฝีเท้าตนเอง จนต้องมองกลับหลังเรื่อย ๆ เหมือนมีใครสะกดรอยมา และผมก็ข้ามคูน้ำบนสะพานที่วังเวง เข้าสู่ ศาลาพันห้อง  น่าจะพันห้องจริง ๆ ถ้านับจากเสาครับ เอาไว้สักวันมากันหลาย ๆ คน จะร่วมกันนับนะครับ ภายในมีพระพุทธรูป พระสารีบุตร  และพระต่าง ๆ

 

 

นอกจากนั้น ยังมีการรวบรวมหัตถกรรมโบราณฝีมือชาวบ้าน ที่ทำจากไม้ เช่น ข้องสำหรับใส่ปลา กระบุง กะด้ง  เครื่องมือสำหรับทอผ้า และแล้วผมก็เดินกลับ แต่เป็นสะพานคนละฝั่ง มีม่านจากร้านต้นไทรที่สวยงาม

 

 

การก้าวเดินของผม จะเป็นวงกลมโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องมีแผนที่ว่า จะต้องไปไหน แต่ก็พบแล้วครับ

 

พระธาตุหนองสามหมื่น

เป็นพระธาตุที่มีลักษณะสวยงามและสมบูรณ์ที่สุดองค์หนึ่ง  สันนิฐานว่า  สร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่  21 - 22  ในสมัยพระไชยเชษฐาธิราช  แห่งราชอาณาจักรลาว มีลักษณะเป็นเจดีย์ย่อยมุมไม้ 12 ตั้งอยู่บนฐานเขียงรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสกว้าง 32.7 เมตร สูง 45.3 เมตร มีบันไดทางขึ้น 4 ด้าน เหนือฐานเขียงฐานคว่ำ บัวหงาย รองรับองค์พระธาตุ มีซุ้มทั้ง 4 ทิศ ประดิษฐานพระพุทธรูปปางรำพึงและปางลีลา ภายในองค์พระธาตุบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ

 

ผมนั่งลงไหว้สักการะ แล้วแหงนมองดู ผมช่างเล็กนิดเดียว ใครนะที่ก่อสร้าง คงต้องใช้เวลานับแรมปีแรมเดือน ผมเดินดูรอบ ๆ เสียงฟ้าร้องคำราม ดูน่าตกใจไม่น้อย

 

 

มองทุกทิศทุกทาง ช่างงดงามเหมือนมีมนต์สะกด และรอบ ๆ กำแพง จะมีภาพวาดพุทธประวัติ และชาดก เป็นเรื่องราว ที่สอนใจและเตือนใจได้เป็นอย่างดี

 

 

เดินมาเรื่อย ๆ หน้าพระธาตุ จะพบแผนที่ บอกสถานที่ต่าง ๆ โน้น ผมเจอ พระพุทธรูปนอน หลับตาพริ้มพราย  ช่างงดงามจังครับ มีเทวดา และนางฟ้า มากราบไหว้ อย่างตั้งใจและตั้งจิตอธิษฐาน

 

 

เดินตามถนน...ใต้ร่มไม้ใหญ่ที่ร่มรื่น ก็พบโบสถ์ของวัดครับ ข้างหน้ามีรูปปั้นของ หลวงปู่ศรีทัตต์ ท่านเป็นผู้พัฒนาและบูรณะวัดแห่งนี้ สิ่งที่ผมและทุกคนเห็น ล้วนเกิดจากท่าน เมื่อประมาณ 40 ปี ที่แล้ว

 

และท่านยังทำให้ครอบครัวของผมมีอาชีพ และเตี่ย สามารถเลี้ยงลูกได้ 13 คน เพราะท่าน ตอนท่านมีชีวิตอยู่ท่านดังมาก เพราะมีรถราวิ่งเข้าออก ไม่ต่ำกว่า 10 คัน (สมัย 40 ปี) ซึ่งนับว่าเยอะมากครับ

 

เตี่ย และลูก ๆ ทั้งหลาย จะนำรูปภาพ ทั้งเป็นแผ่น และใส่กรอบเรียบร้อยแล้ว มาให้หลวงปู่ เพื่อญาติโยมบูชา เพื่อศิริมงคล

 

ผมจำได้ว่า ผมน่าจะตัวเล็ก ๆ เตี่ยจะเอาผมมัดกับผ้าขาวม้าผูกกับตัวเตี่ย กันผมตกรถมอเตอร์ไซด์ และข้างหลังผมเป็นลังใส่รูป

 

รูปที่เห็นเป็นฝีมือของเตี่ยผมเอง ถึงแม้เตี่ยจะตายไปหลายปี ผมยังรู้สึกว่า เตี่ยยังอยู่ในสมองและหัวใจของผมตลอดเวลา  

 

คุณตาคุณยาย อายุ 70 ปี ขึ้นไป ที่ผมไปเยี่ยมบ้าน จะจำเตี่ยผมได้ และร้านถ่ายรูป พินิจศิลป์ ร้านแรกของเมืองภูเขียว

 

 

เดินมาไม่ไกลครับ ก็ถึงประตูสู่ พญายมราช จะมีกำแพงกั้น เตี้ย ๆ พอมองเห็นข้างใน เป็นรอยรอบเหมือนหอยขดตัว ภายกำแพง จะมีภาพวาด และปั้น บอกเล่าถุงผลที่ทุกคนทำบาปกรรมในรูปแบบต่าง ๆ เราจะได้ผลกรรมอย่างไรบ้าง

 

 

ข้างในนั้น จะพบเห็นพญายมราช และคณะ มีศาลตัดสินโทษ มีการจับกุม และลงโทษ กับผู้ที่ก่อกรรมทำชั่ว  และยังมี บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ด้วย

 

 

มีโทษกรรมจากการผิดลูกผิดเมียคนอื่น ต้องปีนต้นงิ้ว ถูกแทง ภาพสะท้อนถึงความทารุณทรมานมาก ผมดูไปดูมา ยิ่งเหมือนจริง ขนลุกด้วยครับ เพราะมาคนเดียว เงียบเหงา วังเวง และร่มเงาไม้ใหญ่ ทำให้รู้สึกไปไกลร้อยแปด

 

 

ผลจากการมดเท็จ  การเสพเมียคนอื่น และกามสูตร จะต้องรับกรรม อย่างทรมานเช่นนี้ครับ

 

 

ผมรู้สึกว่า ที่บ้านผมมีดีจังครับ ที่มีสถานที่ที่งดงาม โบราณ  แสดงถึงความยิ่งใหญ่ในอดีต และบรรยากาศ การสื่อสารธรรมะ บาป บุญ และสัจธรรม ณ สถานที่แห่งนี้ เป็นสิ่งที่ทุกคนพึงตระหนัก ถึงแม้จะไม่มีความน่าเชื่อถือทางนัยทางสถิติก็ตาม ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ครับ

 

และแล้วผมก็เดินทางกลับ ด้วยหัวใจที่พึงรับแต่สิ่งที่เป็นศิริมงคลให้กับชีวิต

 

ดอกหางนกยูง หลังประตูทางออก ยิ้มแย้มให้ผม

 

และกระซิบผมเบาเบาว่า ....อีกไม่นาน คงได้กลับมาเจอกันอีก..... 

 

มีชีวิตด้วยความไม่ประมาทนะครับ....

หมายเลขบันทึก: 442178เขียนเมื่อ 3 มิถุนายน 2011 18:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:45 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ สำหรับคำที่ผิดผิดมากมายครับ

ดูแล้วบรรยากาศค่อนเข้างขลังๆ อย่างไรชอบกลนะครับ

หรือว่า อดีตชาติเคยไปทำอะไรอยู่แถวนั้น

หรืเปล่าครับ?

มาเยี่ยม..มาชม  มาเที่ยวด้วยนะ

เคยมีโอกาสได้ใช้บริการของแดอู่ ยังจำได้ดี และยังมีรูปเหล่านั้นอยู่ ได้ดูเพื่อคิดถึงวันเก่าได้อย่างดี เราคงเคยเห็นหน้ากัน แต่ไม่รู้จักกัน แต่บ้านเราในสมัยก่อนเตี่ยเราสนิทกัน เตี่ยเจ๊ไม่เคยเรียกใครมาถ่ายรูปนอกจากแดอู่

อยากจะขออนุญาตใช้รูปและข้อความ(เอาไปดัดแปลงโดยมีเค้าเดิม) เพื่อนำไปทำโบรชัวร์ประกอบการแสดงศิลปพื้นเมืองความคิดสร้างสรรค์ ในโครงการแข่งทักษะของเด็กนักเรียนของอำเภอภูเขียว โดยใช้เพลงที่เราแต่งกันขึ้นเอง พูดถึงว่าบ้านเรามีกี่ตำบล และมีของดีอะไรบ้าง เราเพิ่งทำทุกอย่างเป็นเพลงเรียบร้อยเลยจะเอามาให้นักเรียนของเราเองรำแข่ง เพราะไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร เราแน่ใจ จะมีแต่ทำนองเท่านั้นที่ใช้ทำนองเพลงทางเหนือ

จะรอคำตอบนะคะ กรุณาแจ้งกลับทาง e-mail ที่ให้มาด้วยนะคะ ขอความกรุณาว่าไม่เกินวันที่ 29 / 9 / 54 นะ ขอบคุณมาก

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท