รัฐบาลเดินหน้าตรึงราคาดีเซล 30 บาทต่อลิตร สั่งยกเลิกภาษีสรรพสามิตดีเซลและภาษีมูลค่าเพิ่ม “กรณ์” ระบุรัฐรายได้สูญ 44,380 ล้านบาท ไม่กระทบฐานะการคลัง เพราะจะกู้ชดเชยขาดดุลอยู่แล้ว
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลจะยังคงดำเนินนโยบายในการตรึงราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 30 บาทต่อลิตรต่อไป โดยเปลี่ยนจากการใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่กำลังจะติดลบในช่วงสิ้นเดือน เม.ย. นี้ เป็นการยกเลิกการเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 5.30 บาทต่อลิตร และภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 40 สตางค์ต่อลิตร รวม 5.70 บาทต่อลิตร และจะเสนอการแก้ปัญหาราคาน้ำมันแพงต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 20 เม.ย. นี้
“การที่รัฐบาลไม่สามารถปล่อยให้ราคาน้ำมันเกิน 30 บาทได้ เนื่องจากจะทำให้กระทบต่อค่าครองชีพ เพราะจะมีค่าขนส่งและราคาสินค้าหลายตัวที่จะขึ้นราคาหากราคาดีเซลสูงกว่า 30 บาทต่อลิตร”
นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง กล่าวว่า การประชุม ครม. วันที่ 20 เม.ย. กระทรวงการคลังจะเสนอการยกเว้นการเก็บภาษีสรรพสามิต โดยจะเทียบเคียงกับรัฐบาลในอดีต ซึ่งกระทรวงการคลังจะปรับลดการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตให้เหลืออยู่ที่ 0.005 บาทต่อลิตร ซึ่งเหมือนกับไม่จัดเก็บเลย เพียงแต่เป็นประเด็นทางเทคนิคที่ต้องจัดเก็บ 0.005 บาทต่อลิตร เพื่อให้มีการรายงานการใช้น้ำมันต่อกรมสรรพสามิต
สำหรับสถานการณ์ปัจจุบันกระทรวงการคลังเห็นว่าไม่มีความจำเป็นต้องจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล เนื่องจากต้องการช่วยลดภาระของประชาชน และจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม จึงเห็นว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเว้นวรรคการจัดเก็บภาษีน้ำมันดีเซล ส่วนผลกระทบด้านการเงินการคลังในส่วนของภาษีสรรพสามิตประมาณ 5.31 บาท โดยรวมภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7% จะทำให้มีเม็ดเงินภาษีในส่วนของน้ำมันดีเซลหายไปประมาณ 5.70 บาท ซึ่งจะทำให้ราคาน้ำมันอยู่ที่ระดับ 30 บาทต่อลิตรได้
ทั้งนี้ คาดว่างบประมาณปี 2554 จะสูญเสียรายได้จากการยกเว้นภาษีน้ำมันดีเซลในช่วง 5 เดือนที่เหลือของรัฐบาลชุดนี้ (พ.ค.-ก.ย. 54) ประมาณ 44,380 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย ภาษีสรรพสามิต และภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่จะไม่กระทบเป้าหมายงบประมาณปี 254 เนื่องจากจะกู้ชดเชยการขาดดุล โดยจะกู้เพียง 163,000 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าเอกสารงบประมาณที่ตั้งไว้ และเงินคงคลังปลายงวดจะอยู่ที่ 300,000 ล้านบาท
“หากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังอยู่ในระดับนี้ คาดว่าการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) จะลดการชดเชยได้อีก 40 สตางค์ต่อลิตร เหลือ 6 บาทต่อลิตร และขณะนี้การชดเชยของกองทุนน้ำมันอยู่ที่วันละ 403 ล้านบาทต่อวัน หากลดลงก็จะอยู่ที่ 300 ล้านบาทต่อวัน จึงยังไม่เก็บเงินเข้ากองทุน แต่หากราคาน้ำมันลดลงอีกก็จะเรียกเก็บอีกครั้ง ซึ่งเป็นแนวนโยบายที่รัฐบาลปฏิบัติมาตลอด และเงินในกองทุนน้ำมันขณะนี้มีอยู่ประมาณ 4,500 ล้านบาท ซึ่งสามารถดูแลราคาน้ำมันได้จนถึงสิ้นเดือน เม.ย. นี้แน่นอน”
ที่มา :
หนังสือพิมพ์ โลกวันนี้ |
ปีที่ 12 ฉบับที่ 3035 ประจำวัน อังคาร ที่ 19 เมษายน 2011 |
ไม่มีความเห็น