ตอน การย้ายครั้งที่ 6 ของชีวิตรับราชการ


ตอน การย้ายครั้งที่ 6 ของชีวิตรับราชการ

 

 

 

 

   ตอน การย้ายครั้งที่ 6 ของชีวิตรับราชการ   

 

 

             เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2545  ผู้เขียนก็ได้รับคำสั่งให้ย้ายไปดำรงตำแหน่ง ผู้ช่วยหัวหน้าการประถมศึกษาอำเภอชาติตระการ สปจ.พิษณุโลก ซึ่งการย้ายไปดำรงตำแหน่งในครั้งนี้ ไม่มีหัวหน้าการประถมศึกษาอำเภอดำรงตำแหน่งอยู่ เนื่องจากหัวหน้าการประถมศึกษาอำเภอคนเดิมนั้น ย้ายไปดำรงตำแหน่งใน สปอ.อื่น จึงทำให้ผู้เขียนต้องรับบทในการเป็นผู้ช่วยหัวหน้าการประถมศึกษาอำเภอ แทนหัวหน้าการประถมศึกษาอำเภอ เรียกว่า “ทำทุกอย่าง ที่ตนเองสามารถจะทำได้”  ก็ค่อย ๆ พยายามศึกษา เรียนรู้ ในเรื่องของการบริหารจัดการสำนักงาน เนื่องจากว่า ผู้เขียนได้จบการศึกษาระดับปริญญาโท วิชาเอกการบริหารการศึกษา ก็พอจะรู้ในเรื่องของการบริหารจัดการใน 4 M มาบ้าง ว่ามีอะไรบ้าง?...บวกกับความรู้เดิมเมื่อจบการศึกษาระดับปริญญาตรี วิชาเอกการจัดการทั่วไป ก็พอที่จะสามารถทำงานในส่วนของผู้บังคับบัญชาข้าราชการครูทั้งอำเภอได้

            ในช่วงแรก ๆ ก็เล่นเอาป่วนเหมือนกัน เนื่องจากมีข้าราชการในอำเภอไม่ค่อยจะเข้าใจกันสักเท่าไร?...คล้าย ๆ กับการแบ่งพรรค แบ่งพวก...อาศัยผู้เขียน เป็นคนพูดน้อย ยิ้มง่าย ไม่เรื่องมาก (ซึ่งนิสัยจะเข้มแข็งเหมือนผู้ชายมากกว่า จึงทำให้การทำงานผ่านไปอย่างราบรื่น) การที่เกิดเหตุการณ์ในอำเภอนี้ เนื่องจาก การไม่เข้าใจ ไม่พูดกัน จะพูดกันลับหลัง พูดกับคนโน้นที คนนี้ที จึงเป็นปัญหาให้แต่ละฝ่ายบาดหมางใจกัน...ผู้เขียนเลยตัดสินใจ เรียก ประชุมผู้บริหารทั้งอำเภอ เรียกว่า “เปิดใจคุยกัน และพยายามอธิบายในเรื่องที่เกิดขึ้น และบอกวัตถุประสงค์ว่า ผู้เขียนเองมาทำงานเพื่อมาช่วยพัฒนา เพื่อทำให้ดีขึ้น ไม่ได้มีเจตนาเข้าข้างใดข้างหนึ่ง เรื่องเดิม ๆ ที่ไม่ดีก็ขอให้ทุกคนลืมเสียว่าไม่มีเรื่องใดเกิดขึ้น แล้วเรามาเริ่มต้นกันใหม่เพราะผู้เขียนก็เพิ่งจะมารับงานใหม่ ไม่ทราบในเรื่องเดิมของพวกท่านหรอก ว่ามีเรื่องบาดหมางอะไรกัน...โดยผู้เขียนมีความพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างกับทุกคน ยามเกิดทุกข์ ถึงแม้ผู้เขียนในขณะนั้น อายุยังน้อยในการเป็นผู้บังคับบัญชา แต่ก็บอกให้ที่ประชุมได้รับฟังว่า...พร้อมที่จะอยู่เคียงข้างและทำงานร่วมกันแก้ไขปัญหากับข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทุก ๆ คนในอำเภอนี้ ไม่คิดในเรื่องแสวงหาผลประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้น...” ผลสุดท้ายผู้บริหารก็เข้าใจ...ปัญหาต่าง ๆ ก็คลี่คลายลงได้บ้าง?...จนในที่สุด ผู้เขียนก็ได้รับฉายาว่า “เป็นผู้ช่วยหัวหน้าการประถมศึกษาอำเภอที่ติดดิน”...ไม่หลงเหลิงกับตำแหน่งที่ได้รับ มีความเข้าใจและให้ความช่วยเหลือต่อทุกคนเสมอ..."

    การเป็นผู้ช่วยหัวหน้าการประถมศึกษาอำเภอนั้น ส่วนมาก

จะเป็นผู้ชายกันเสียมากกว่า คนที่เป็นผู้หญิงจะมีน้อยมาก   

 

              ประสบการณ์ในการทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยหัวหน้าการประถมศึกษาอำเภอนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการเข้าร่วมประชุมกับ ผอ.ปจ. กับผู้บริหาร และก็ออกตรวจนิเทศ ตรวจเยี่ยมโรงเรียนต่าง ๆ ในสังกัด สปอ.ชาติตระการ การเป็นประธานในพิธีเปิดงานตามโครงการต่าง ๆ ที่โรงเรียนได้จัดขึ้น การร่วมงานวันครู การจัดทำหลักสูตร  การจัดทำโครงการต่าง ๆ ฯลฯ ทำให้ผู้เขียนได้รับทราบเรื่องเกี่ยวกับการเรียนการสอน สภาพทั่วไปของอำเภอ รวมทั้งปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น และก็ได้พยายามแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ลงไปได้ด้วยดี...เกือบ 1 ปี หัวหน้าการประถมศึกษาอำเภอก็ได้มาดำรงตำแหน่งที่นี่...ทำให้ผู้เขียนก็เริ่มเบาลงในเรื่องงาน...

            ดูเหมือนการทำงานกำลังจะดำเนินการไปด้วยดี...แต่อนิจจา!!!...คำสั่งจาก สพฐ. สั่งยุบตำแหน่งผู้ช่วยหัวหน้าการประถมศึกษาอำเภอ โดยให้ทุกคนไปรวมกันอยู่ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาพิษณุโลก เขต 3...ผู้เขียนก็ได้เก็บข้าวเก็บของเพื่อกลับบ้านที่พรหมพิรามก่อน...ในครั้งนั้น ไม่มีใครทราบมาก่อนว่า...เวลาผู้เขียนขับรถยนต์ลงมาจากอำเภอชาติตระการ...”น้ำตาไหล” นึกอยู่ในใจว่า “นี่นะหรือ สุดท้ายของชีวิต อุตส่าห์ทำงาน ทำความดีมาตลอด ตัวเราได้รับผลเช่นนี้เองหรือ?...ไม่มีตำแหน่ง ไม่มีโต๊ะนั่งทำงาน ไม่มีเก้าอี้ นี่คือ!!!...ผลของการปฏิรูปการศึกษา...การปฏิรูป ๆ ให้ดีขึ้นจริงหรือ?...ใครได้ดี?...เด็กหรือ?...จริงหรือเปล่าที่ยุบ สปอ.แล้ว เด็กนักเรียนจะเรียนดีขึ้น...มีคุณภาพการเรียนการสอนที่ดีขึ้นหรือการต้องการตำแหน่งให้ใหญ่ขึ้นของเบื้องบน?"...นี่คือ คำถามที่ครุ่นคิดอยู่ในใจตลอดเวลาขณะขับรถยนต์ลงมาจากเขาอำเภอชาติตระการ...

            ผู้เขียนอยู่ที่ สพท.พิษณุโลก เขต 3 ไม่นาน ก็ขอย้ายไปอยู่ สพท.พิษณุโลก เขต 2 เพราะไม่ต้องการเดินทางให้ลำบากไปมากกว่านี้แล้ว เพียงเท่านี้ ชีวิตและครอบครัวก็เจ็บมากพอแล้ว...แต่ใครจะไปทราบได้ว่า เมื่อไปอยู่ เขต 2 แล้ว อาการมันจะย่ำแย่ไปมากกว่านี้อีก (ผู้เขียนได้เขียนเรื่อง ผลกระทบจากการโดนยุบเลิกตำแหน่ง) ตามบล็อกด้านล่างนี้...

 http://gotoknow.org/blog/bussaya7/355050 

             เมื่อมาอยู่เขต 2 ความที่ไม่ค่อยสบายใจในหลาย ๆ เรื่องเกี่ยวกับการทำงาน การเล่นพวก เพราะในชีวิตของผู้เขียน ๆ ผ่านกระบวนการสอบมาทั้งนั้น จึงอยู่ที่เขตพื้นที่แบบไม่มีความสุข จึงตัดสินใจสอบโอนมาอยู่ มรภ.พิบูลสงคราม กว่าจะได้มาอยู่ ก็ได้มาแบบทุลักทุเล สพฐ. จะไม่ยอมปล่อยตัวในตอนแรก...ดีตรงที่ว่า ผู้เขียนเป็นผู้ที่ถูกยุบตำแหน่ง สพฐ.จึงปล่อยตัวให้โอนมาได้...

              ซึ่งการโอนมานั้น ผู้เขียนคิดว่า “ตัวเราจะเกิดอะไรขึ้นอีกไหมหนอ แต่ก็ต้องเดินเพราะเราเดินหน้ามาตลอด คงไม่หันหลังกลับ ขอไปตายเอาดาบหน้าดีกว่า” สุดท้ายผู้เขียนก็ได้รับคำสั่งให้ย้ายโอนมาอยู่ที่ มรภ.พิบูลสงครามได้...


อ่านประสบการณ์ชีวิตของการทำงาน "รับราชการ"

ทุกฉบับ ได้จากที่นี่...

ประสบการณ์ชีวิตของการทำงาน "รับราชการ"

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 435696เขียนเมื่อ 17 เมษายน 2011 21:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:43 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)
  • สวัสดีค่ะ
  •   ชื่นชมกับการฟ่าฟันอุปสรรคมาด้วยตัวเอง... 
  •   ภูมิใจกับอาจารย์บุษยมาศด้วยค่ะ
  •   อุปสรรคคือครู  ทำให้รู้คุณค่าของชีวิต  รู้คุณค่าของความเหนื่อยยาก
  •   ขอเป็นกำลังใจให้อาจารย์ค่ะ
                                  
  •   วันนี้ฝนตกอากาศเย็น  รักษาสุขภาพด้วยนะคะ

สวัสดีค่ะ...พี่ KRUDALA...

  • ถึงบอกไงค่ะ...ประสบการณ์แต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่สำหรับน้องการที่จะได้มาซึ่งตำแหน่งที่สูงขึ้น ไม่ได้มาด้วยความสบายเลยค่ะ...เรียกว่า "มีอุปสรรค ปัญหา นานัปการค่ะ แต่ก็ทำให้ตัวเราเกิดความภูมิใจในศักดิ์ศรีของเรา ที่เราสามารถเดินทางมาได้ด้วยตัวของเราเอง ความสามารถของเราเอง และการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเองได้...โดยเฉพาะตัวเราเป็นผู้หญิง ถ้าเป็นผู้หญิงบางคนเขาคงไม่เป็นเช่นนี้หรอกค่ะ...แต่ทำให้เรารู้จักคุณค่าของตัวเราเองดีขึ้นค่ะ"
  • 
  • ขอบคุณพี่ KRUDALA มาก ๆ ค่ะ...
  • ขอบคุณสำหรับดอกไม้กำลังใจค่ะ ดร.จันทวรรณ Ico24
อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท