“เมื่อยังมีผู้ที่สืบสาน รักษาไว้ซึ่งศิลปะการแสดงของท้องถิ่นอย่างเหนียวแน่น แล้วจะมีใครที่มองเห็นคุณค่าความสำคัญ ให้กำลังใจ ให้การสนับสนุนกันต่อไป”
เพลงอีแซว ตอนที่ 16
เกาะติดเวทีการแสดงเพลงอีแซว
งานทำบุญอัฐิที่วัดบางเตย กรุงเทพฯ
โดย นายชำเลือง มณีวงษ์
ผู้มีผลงานดีเด่น รางวัลราชมงคลสรรเสริญ ด้านการแสดงเพลงพื้นบ้าน ปี 2547
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมีนาคม 2554 ผมได้รับการติดต่อทางโทนศัพท์ จากคุณพนม เค้าแสงทอง ท่านได้ไปร่วมกิจกรรมในงามมหกรรมการเงินที่ศูนย์สิริกิติ เมื่อ ปี พ.ศ. 2552 (ปี 2009) และได้ชมการแสดงเพลงพื้นบ้าน คณะสายเลือดสุพรรณฯ ท่านได้บันทึกเบอร์โทรศัพท์ ที่ปรากฏบนด้านหลังเสื้อของนักแสดงเอาไว้ เมื่อถึงวันที่ท่านต้องการให้นักแสดงที่ท่านเคยเห็นไปทำการแสดงที่วัดบางเตย ท่านจึงโทรศัพท์ติดต่อเข้ามาแจ้งให้ผมทราบว่า ในวันที่ 13 เมษายน 2554 ที่วัดบางเตย ถนนนวมินทร์ 60 เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ จะมีงานทำบุญอัฐิรวมญาติ ในเทศกาลสงกรานต์ วันผู้สูงอายุ ต้องการให้ผมนำคณะนักแสดงเพลงพื้นบ้านไปร่วมกิจกรรมเต็มรูปแบบ หมายถึงว่าทีมงานจะต้องจัดเป็นชุดการแสดงที่ประกอบด้วย
1. ทีมนักแสดงชายหญิงผู้ให้จังหวะจำนวน 15 คนนำเสนอเรื่องของสังขารบาปและบุญ
2. เวทีการแสดงเพลงพื้นบ้านหน้ากว้างประมาณ 9-10 เมตร ความลึก 4.5-5 เมตร และความสูงจากพื้นล่างถึงพื้นเวที 1.00-1.50 เมตร
3. ชุดเครื่องเสียงชนิดลำโพงแขวนพร้อมไฟฟ้าให้แสงสว่างบนเวทีมองเห็นผู้แสดงชัดเจน
ผมจัดเตรียมทีมการแสดงตามที่จะต้องออกไปนำเสนอผลงานเต็มรูปแบบ นัดหมายนักแสดงเพื่อที่จะวางโครงเรื่องให้เหมาะสมกับงานซึ่งในแต่ละสถานที่เราไม่ทราบความสนใจของท่านผู้ชมว่าท่านชอบการแสดงที่ออกมาในรูปแบบใด เช่น
- การแสดงที่เน้นร้องตามทำนองเพลงอีแซว เพลงฉ่อย ลำตัด ฯลฯ ล้วน ๆ ไม่มีการพูดสลับ
- การแสดงที่มีทั้งร้อง รำ พูดประกอบการแสดงคละเคล้ากันไปตั้งแต่ต้นจนจบ
- การแสดงที่เล่นเป็นเรื่องแบบละคร ตอนสั้น ๆ ประกอบการแสดงเพลงพื้นบ้าน
- การแสดงที่เน้นความตลกขบขัน ผสมผสานกับการแสดงเพลงพื้นบ้าน
- การแสดงที่เน้นความสนุกสนานบันเทิงเป็นหลักแต่สอดแทรกอยู่ในการแสดงเพลงพื้นบ้าน
เช้าวันที่ 13 เมษายน 2554 เวลาประมาณ 12.00 น. ผมนำทีมงานการแสดง เวทีแสงเสียงออกเดินทาง จากอำเภอดอนเจดีย์ไปยังวัดบางเตย ถนนนวมินทร์ 60 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร โดยใช้เส้นทางถนนวงแหวน สายบางนา-ตราด ถนนโล่งดีการเดินทางสะดวกแต่ว่าอ้อมไปมากพอสมควร ไปถึงวัดประมาณ 14.45 น. เป็นเวลาที่เวทีของอ๊อดสุพรรณฯ (เพิ่มพร ฤกษ์อาวรณ์) กำลังดำเนินงานติดตั้งโดยใช้เวลาประกอบเวที ติดตั้งเครื่องขยายเสียงและไฟฟ้าประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย นักแสดงได้รับการต้อนรับจากคณะกรรมการวัดบางเตยเป็นอย่างดี โดยมีบุคคลสำคัญ 4 ท่าน ขออนุญาตเอ่ยนามไว้ ณ ที่นี้ (เพราะท่านเป็นผู้ที่ให้การสนับสนุนเพลงพื้นบ้านโดยแท้) ได้แก่
- พระเดชพระคุณหลวงพ่อ พระครูประพัทธ์ธรรมพิสุทธิ์ เจ้าอาวาสวัดบางเตย
- คุณลุงสำนวน เชยกลิ่น ประธานคณะกรรมการวัดบางเตย
- คุณสุวิทย์ จันทร์อำรุง กรรมการวัดบางเตย
- คุณพนม เค้าแสงทอง กรรมการวัดบางเตย
โดยเฉพาะคุณพนม เค้าแสงทอง นำผมและคณะนักแสดงไปรับประทานอาหารกลางวัน (บ่าย 2 โมงเศษ) ที่โรงอาการ คณะแม่ครัวเตรียมอาหารเอาไว้รองรับคณะนักแสดงจำนวนมาก รับประทานกันไม่หมด อิ่มอร่อยไปตาม ๆ กัน พอตกเย็นที่ข้างเวทีแสดงยังมีอาหารอีก 1 ชุด สำรองเอาไว้กันหิวอีก (ด้วยความเป็นห่วงและมีเมตตาของคณะกรรมการ) พอประมาณ 21.30 น. มีอาหารรอบดึกเป็นข้าวต้มเครื่องมาอีกรอบ น้ำดื่มพร้อมมีทั้งแช่เย็นและไม่แช่เย็น ผมทำได้แค่เพียงยกมือไหว้ขอบพระคุณคณะกรรมการที่มีเมตตาพวกเรามากจริง ๆ
งานในคืนวันนี้ ที่วัดบางเตยเป็นงานทำบุญอัฐิ ญาติพี่น้องทั้งหลายนำกระดูกของบรรพบุรุษมาตั้งรวมกันที่วัด (ทำศพรวมญาติ) ตามประเพณีนิยมในเทศกาลสงกรานต์ที่ต่อเนื่องกันมานาน เวลาประมาณ 18.45 น. พิธีกรของวัดประกาศให้ประชาชนทุกท่านเข้ามานั่งบนศาลาที่ตั้งกระดูก เวลา 19.00 น.พระภิกษุและสามเณรลงศาลา ต่อจากนั้นก็จะเป็นพิธีสงฆ์ไปจนถึงเวลา 20.00 น.เสร็จพิธี ต่อไปก็จะเป็นหน้าที่ของมหรสพเพลงพื้นบ้านทำการแสดง คุณพนมกระซิบให้ผมทราบว่าการแสดงคืนนี้ให้เริ่มต้นได้ตั้งแต่เวลา 20.00 น. (2 ทุ่มตรง)
นักแสดงใช้สถานที่บนเวทีแต่งหน้าทาปากเขียนคิ้วทำผมและเปลี่ยนเป็นชุดการแสดงกันบนเวทีโดยหลบ ๆ มุมเอา หาฉากบังเอาไว้บ้าง (ปกตินักแสดงเพลงพื้นบ้านจะแต่งตัวกันบนเวทีแบบโบราณ) พอได้เวลาการแสดงก็เริ่ม
ตอนที่ 1 เป็นการร่ายรำเชิญเทวา บูชาครูไหว้ครูที่ได้สอนศิลปะการแสดงมาตั้งแต่รุ่นเก่า
ตอนที่ 2 ร้องเรื่องประวัติสงกรานต์ ที่มาของการทำบุญและการสาดน้ำในวันสงกรานต์
ตอนที่ 3 กล่าวสวัสดีคารวะท่านผู้ชม สนทนาและต่อด้วยบทร้องเพลงออกตัวโดยนักแสดงรุ่นใหม่ ผมออกไปแสดงร่วมกับทีมงาน ด้นกลอนสดขอบคุณท่านเจ้าภาพ คุณลุงสำนวน เชยกลิ่น คณะกรรมการและผู้ชมทุกท่าน (ขอบพระคุณในรางวัลน้ำใจที่หยิบยื่นให้)
ตอนที่ 4 เป็นการแสดง “ชุดสังขาร” ติดตามด้วยลำตัดประยุกต์ “ชุดส้มตำลำตัด”
ตอนที่ 5 เป็นเพลงประคารมแบบสนุกสนานสอดแทรกคติสอนใจเอาไว้
ตอนที่ 6 เพลงลา อวยพร ขอบคุณท่านผู้ชมที่ให้กำลังใจจนจบการแสดง
การแสดงเริ่มต้นตั้งแต่เวลา 20.05 น. ไปจนถึง 23.05 น. (180 นาที) แต่กว่าที่จะจัดเก็บอุปกรณ์เสร็จเรียบร้อยออกเดินทางกลับจากวัดบางเตย 00.30 น. ไปถึงห้องศิลปะการแสดง อาคาร 5 โรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา 1 เวลา 02.50 น. นักแสดงทุกคนรู้สึกอ่อนเพลียบ้างเพราะทำการแสดงมา 5 สถานที่ ในช่วงเวลาเทศกาลสงกรานต์ปีนี้
บรรยากาศภายในบริเวณวัดบางเตย หนาแน่นไปด้วยอาคาร ทีเป็นสถานที่ประกอบกิจของสงฆ์ มีที่ว่างอยู่ประมาณ 1 งาน หน้าศาลาการเปรียญ เป็นที่ตั้งเวทีการแสดงเพลงพื้นบ้าน คืนนี้ท่านผู้ชมมารอให้กำลังใจกันตั้งแต่เวลา 18.30 น. กว่าเพลงจะทำการแสดงก็เวลา 20.00 น. เศษ เก้าอี้ได้ถูกนำเอาออกมาวางเรียงกันที่หน้าเวทีเป็นจำนวนมาก ท่านผู้ชมทยอยกันเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ชมการแสดง ให้กำลังใจด้วยเสียงปรบมือ เสียงหัวเราะ ให้รางวัลผู้แสดง บางท่านเรียกให้นักแสดงลงไปรับรางวัลที่เก้าอี้ที่ท่านนั่งชมแถวหลัง ก็ได้รับเสียงฮือฮากันพอสมควร บางท่าก็เข้ามาให้กำลังใจกันที่หน้าเวที (กราบขอบพระคุณในทุก ๆ กำลังใจที่มีเมตตาต่อนักแสดงในทีมงาน)
ภารกิจของเราได้ผ่านไปอีกช่วงเวลาหนึ่งอันเป็นเทศกาลสำคัญ สงกรานต์ไทย แต่ภารกิจในวันข้างหน้าต่อ ๆ ไปของพวกเรายังมีอีกยาวนาน เพียงแต่ว่า “เมื่อยังมีผู้ที่สืบสาน รักษาไว้ซึ่งศิลปะการแสดงของท้องถิ่นอย่างเหนียวแน่น แล้วจะมีใครที่มองเห็นคุณค่าความสำคัญ ให้กำลังใจ ให้การสนับสนุนกันต่อไป”
ติดตามเพลงอีแซว เกาะติดเวทีการแสดง ตอนที่ 17 มหาสงกรานต์ “พาณิชย์นิยมไทย”