ข้าพเจ้าอาศัยติดรถคุณหมออ้อ หรือทันตแพทย์หญิงสิริรัตน์ วีระเดช มาที่วัดหนองไคร้ คุณหมออ้อได้อาสามาร่วมในการขับเคลื่อน R2R เครือข่ายอุบลศรีโสธรเจริญ โดยเฉพาะตอนที่ประชุมจัดตั้งเครือข่ายข้าพเจ้าเสนอคุณหมออ้อทำหน้าที่เป็นรองประธานเครือข่าย อันเป็นตัวแทนจากจังหวัดยโสธร
ซึ่งในวันข้าพเจ้าจะต้องเดินทางต่อไปที่ รพ.ป่าติ้ว เรามีนัดหมายกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ R2R ที่ห้องประชุมโรงพยาบาลป่าติ้ว ซึ่งในทัศนะของข้าพเจ้ามองว่าที่นี่พร้อมต่อการเป็นจุดนัดพบเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เครือข่าย Happiness R2R ได้อย่างดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นท่านผู้อำนวยการโรงพยาบาล นพ.เอกวิทย์ เรืองไชยวุฒิ หรือพี่แก้ว – หัวหน้าพยาบาล ตลอดจนสมาชิกโดยภาพรวมของโรงพยาบาลต่างล้วนมีความพร้อมแห่งต้นทุนทางจิตใจที่จะมาร่วมกันพัฒนางานประจำด้วยความสร้างสรรค์ผ่านการทำ R2R
การเจอกันครั้งนี้...ไม่ได้เพียงแค่เจอนักพัฒนางานประจำ R2R โรงพยาบาลป่าติ้วเท่านั้น
หากแต่เราได้เจอ...นักพัฒนางาน R2R รพ.คำเขื่อนแก้ว, รพ.มหาชนะชัย และโรงพยาบาลไทยเจริญ ถือว่าวันนี้เราได้รวบรวมเครือข่ายที่มาด้วยใจได้ถึงสี่เครือข่าย เสียดายว่าทางโรงพยาบาลยโสธรยังเชื่อมโยงไม่ได้...ส่วนโรงพยาบาลกุดชุมพี่แก้วเล่าให้ฟังว่าประสานไปแต่...ทางกุดชุมติดภารกิจหลักของโรงพยาบาล แต่ข้าพเจ้าก็เชื่อว่าสักวันเราจะรวมตัวกันได้อย่างเหนียวแน่นมากขึ้น
ในวันนี้ข้าพเจ้าได้พี่ศรี หรือคุณเนาวรัตน์ ผู้ซึ่งเพิ่งจะได้รับรางวัลข้าราชการดีเด่น ผู้ซึ่งทำงานอย่างไม่หวังอะไรทั้งสิ้นในชีวิตหากแต่พาชาวบ้านและชุมชนขับเคลื่อนเรื่องสุขภาพจนได้รับเลือกให้ไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในงานมหกรรมการจัดการความรู้ครั้งที่ผ่านมา
การนำเสนอเรื่องราว R2R และความก้าวหน้าในการทำ ก็ยังคงดำเนินไปในบรรยากาศแห่งความเป็นกัลยาณมิตรอันอบอุ่น อย่างช่วยกันคิดช่วยกันดู เป้าหมายเราไม่ได้ปรารถนาที่จะเป็นผู้ชำนาญทางการวิจัย หากแต่เรามุ่งมั่นต่อการฝึกฝนการเป็นผู้คิดได้และลงมือทำได้มากกว่า เหนือสิ่งอื่นใด เครือข่ายได้มารวมตัวกันอันปราศจากคำสั่งว่า “ต้องทำ” หากแต่ว่าทุกคนปรารถนาที่อยากจะมาเรียนรู้ด้วยหัวใจ แบบไม่เครียดหรือกดดัน แต่กลับได้งานได้ผลลัพธ์ที่เปี่ยมสุขทั้งผู้รับบริการและผู้ให้บริการ นี่น่ะคือ รากฐานของการบ่มเพาะความเกื้อกูลกันและกัน...
เรียนรู้แบบนั่งไปนอนไป...ใจเป็นสุข หากแต่ได้เรื่องได้ราว เราคุยกันสนุกๆ ว่านี่เรามาร่วมงานบุญ เที่ยงมาก็ล้อมวงทานข้าว ใกล้ชิดกันมากขึ้น คุ้นกันมากขึ้น ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันมากขึ้น
เครือข่ายโรงพยาบาลมหาชนะชัย...มาอย่างพร้อมเพรียงและประทับใจอย่างยิ่ง มากันแบบสหวิชาชีพ แม้ไกลแต่ก็มา...
พี่ศรีหรือพี่เนาวรัตน์ คนดีศรียโสธร ผู้ไม่เคยหยุดหรือย่อท้อต่อการทำงานเพื่อสุขภาพชุมชน
เริ่มต้นการเรียนรู้ด้วยพี่คำผิว-คนเวรเปลที่ผลิกผันตัวเองมาเป็น R2R-Facilitator ไม่ว่าจะเป็นพยาบาลหรือเภสัชยังต้องมาปรึกษาพี่คำผิว...ในวันนั้นพี่คำผิวมาเล่าให้ฟังว่า R2R คืออะไร ซึ่งภาษาอังกฤษพี่คำผิวไม่รู้หรอกว่า R2R แปลว่าอะไร มีความหมายอย่างไร แต่พี่คำผิวบอกว่า "ผมรู้แต่ว่าหากผมจะทำ R2R ผมจะต้องเริ่มต้นเอ๊ะก่อน จากนั้นก็คิดหาข้อมูล และลงมือเก็บข้อมูล วิเคราะห์" พี่คำผิวนี่เป็นต้นแบบของผู้ที่ได้ชื่อว่าเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติได้ดีทีเดียวอีกคนหนึ่ง
เภสัชกรหวาน จากโรงพยาบาลไทยเจริญ ตกหลุมพลางไปรับทุนวิจัย R2R สองหมื่นบาทตามโครงการของจังหวัด แต่ก็ได้นำพาตนเองมาเรียนรู้ R2R แบบมีความสุขได้
เรื่องเล่าของเภสัชกรอ้อ ที่ทำวิจัยเรื่องถุงผ้าแทนถุงพลาสติกต่อการลดต้นทุน ทำให้เกิดการแตกยอดไปทำต่อทั้งน้องไก่ นักสิ่งแวดล้อม และพี่ศรี...นี่แหละคือ เสน่ห์ของการใช้ KM มาเป็นตัวเดินเรื่อง R2R
น้องเอ...คนหน้างาน OPD ที่ทุกข์จากการแฟ้มผู้ป่วยไม่เจอ จนได้มาคิดพัฒนางานของตนเองขึ้นมาใหม่ และลองเก็บข้อมูลดูปรากฏว่า กระบวนการทำงานของตนเองดีขึ้น ลดเวลา และเหนื่อยว้าวุ่นใจน้อยลง
พี่สหัส คนหน้างานซักฟอกที่คิดวิจัยพัฒนาการลดความชื้นจากการอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ ... เรื่องเล่าของพี่สหัสทำให้มองเห็นภาพของกระบวนการคิดอย่างวิจัยได้ชัดครบทุกขั้นตอน แต่...พี่สหัสอธิบายมาเป็นทฤษฎีทางระเบียบวิธีวิจัยไม่ได้หรอก...นี่น่ะคือ ความมหัศจรรย์ทางปัญญาของคนหน้างาน
พี่รัตน์จากโรงพยาบาลคำเขื่อนแก้วที่เป็นต้นแบบในการทำ R2R2R ได้อย่างเยี่ยมยอดและมีการนำกระบวนการ KM มาใช้ในการทำวิจัย
แม้เป็นความก้าวหน้า...ก็ยังสามารถนำมาเล่าบอกสู่กันฟังได้
ทำให้ได้เกิดการเติมเต็มต่อยอดได้อีก
การแลกเปลี่ยนเรียนรู้เช่นนี้ เราคาดหวังว่าจะพบกันเดือนละหนึ่งครั้ง โดยไม่รบกวนเงินของหลวงมาเขียนโครงการ หากแต่เราจะใช้แนวคิดแบบมาร่วมทำบุญ เช่น เรื่องอาหาร เราก็ใช้หลักการลงขันร่วมกัน ... ส่วนพื้นที่ที่ใช้พบปะกันท่านผู้อำนวยการ นพ.เอกวิทย์ เรืองไชยวุฒิ ท่านสนับสนุนอย่างไร้เงื่อนไข และท่านยังทำหน้าที่เป็นต้นแบบของการทำงาน "เสียสละ" ให้เราได้เห็นได้เรียนรู้อีกด้วย
๑ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๔
สวัสดีครับอาจารย์ที่เคารพ
ผมอยากได้จังแบบนี้ เอาใจมากองแผ่ให้กันดูเลย
ลงขันกัน...
จริง ๆ แล้วถ้ารอให้เงินมาก่อน ไม่ทันการแน่นอนครับ
ดีใจและงดงามมาก ที่มีกลุ่มคนแบบนี้ในประเทศไทยของเราครับ
ทางสายกลาง