ศูนย์สามวัยบางโทรัด..... ตอนเรื่องเล่าจากเรื่องจริงของวัยใสๆ


ฟังไว้นะ มันถึงตายเชียวนะ ไอ้ความรักนี่ เดี๋ยวนี้มันมีพิษ

ครั้งนั้นมันนานมาแล้ว

แต่นับได้ 15 ปี

สีสรรเด็กหญิงน่ารัก มีชีวิตที่ปราศจาก

อ้อมอกอุ่นๆของพ่อแม่

เธอรู้จักแต่คำว่าแม่ และพ่อว่าสะกดอย่างไรเท่านั้น

เส้นทางชีวิตตลอด 15 ปีของเธอมีแต่ความเข้มงวด

ทั้งจากญาติผู้ใหญ่ที่เลี้ยงดูเธอมา

จนท.รพ.ที่เธอรู้สึกรัก และปลอดภัยทุกครั้ง

ที่เธอต้องมารับยา

เสียงของผู้เกี่ยวข้องที่บอกแล้วบอกเล่า ย้ำแล้วย้ำอีก

จนเธอจำได้แม่ยำว่า

"รักนะ.อย่าลืมกินยานะ เป็นห่วงนะ"

แต่จะมีสักกี่คน.....รู้บ้างไหมว่าเสียงเหล่านั้น

กลับทำให้เธอปวดร้าวใจยิ่งนัก

ที่บ้านของเธอก็เช่นกัน มีแต่เสียงพร่ำบ่นตักเตือน

และย้ำถึงความผิดพลาดของผู้ให้กำเหนิดของเธอ

ที่เธอได้เห็นจากภาพถ่าย

ก็ญาตินั่นแหละเก็บไว้ก่อนพ่อและแม่จากไป

แม่ของเธอขาวอวบ และสวยมาก

 

ทุกครั้งที่เธอมองกระจก ภาพหญิงสาวที่สวยงามเปล่งปลั่งตามวัย

ปรากฏขึ้น ยิ้มนั้นเศร้า และเหงา เสียงสะอื้นในอกกระชั้นถี่

จนสีสรรรู้สึกถึงความปวดร้าว จนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

ปล่อยให้มันหล่นแผละๆ

มันเป็นเช่นนี้ทุกครั้งจนเธอชาชินกับความปวดร้าวใจ

เมื่อหวลถึงชีวิตที่แสนเศร้าของเธอ

เธอนึกถึงเพื่อนเรียนคนหนึ่ง...

เขาเป็นหนุ่มรูปหล่อ เรียนสาขาเดียวกับเธอ

ทุกครั้งที่เจอะเจอ พบหน้ากัน

ยิ้มของเขาทำให้สีสรรรู้สึกว่าโลกใบนี้ช่างสดชื่นเสียจริง

"หิวไหม"เป็นคำถามที่เธอได้ยินทุกครั้งที่เขาเดินมาหา

และยื่นถุงน้ำหวานให้เธอดื่มทุกครั้ง

ไม่นานเพียง 1 อาทิตย์ผ่านไป

สีสรรรู้สึกว่าประตูใจของเธอเปิดรับเขาเสียแล้ว

เธอและเขากลับใกล้ชิดสนิทสนมเป็นทองแผ่นเดียวกัน

ในเวลาต่อมา...วันนั้นคือวันแห่งความรัก ที่เธอมารู้สึกเสียใจภายหลังว่าเธอเข้าใจ

วันแห่งความรักผิดไป

เขาและเธอไม่ห่างสายตากัน

ทำให้เพื่อนสาวของเธอกลับรู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมาทันที

"ความเหงามั๊งค่ะ" เธอเปิดใจ "หนูกับเขาเป็นของกันและกัน"

ไอ้หยา!..ฉันนึกในใจ แล้วแอบคิดต่อไป

คิดยาว.....อย่างที่โบราณว่า

"ยาวยิ่งกว่าหางว่าว"

" จะทำอย่างไรดีหนอ?"

เด็กผู้ชายคนนั้นจะเป็นเหมือนเด็กหญิงสีสรรไหมหนอ?

เขาเป็นลูกใคร? แล้วจะพูดจะบอกกับเธอกับเขาอย่างไร?

จะช่วยเธออย่างไร?

"เธอรู้ไหมว่าครั้งเดียวก็ติดแล้ว?"

เขาได้ชื่อว่าผู้เสี่ยงติดเชื้อทันที

มีใครเคยสอน เคยบอกเธอไหม?

หรือเธอรู้แล้ว แต่ยังปล่อยให้เกิดการแพร่ระบาด?

หรือว่าความรักเป็นเหตุ

ความรักเจ้าขามันเล่นงานเธอเข้าอย่างจังแล้วหรือนี่?

แล้วเธอจะกล้าบอกเพื่อนชายของเธอไหม?

ว่า"เธอคือผู้ติดเชื้อ"

และถ้าเพื่อนชายของเธอรู้เขาจะทำอย่างไร?

ฉันคิดไม่นานก็นึกถึงเพื่อนนักสังคมสงเคราะห์ที่น่ารักของฉัน

ตัดสินใจไปหาและเล่าให้ฟัง เราปรึกษาหาแนวทางช่วยเหลือสีสรร

และเพื่อนชายของเธอ

ไม่ให้เรื่องลุกลามมากไปกว่านี้

แต่สายเสียแล้ว เรายังไม่สามารถเข้าถึงคนรักของเธอเลย

เราช้าไปจริงๆ  ฉันรู้สึกแย่ลงทันที

เพื่อนฉันติดต่ออาสาสมัครผู้ป่วยผู้อารีคนหนึ่ง

ให้ทำการติดต่อเข้าถึงทั้งเธอและเขา

มันช้าไปแล้วจริงๆนะ

เมื่อเรารู้ว่าเธอกับเขาแยกทางกัน

เขามีกิ๊กใหม่อีก 2 -3 คน

เพราะรูปงามนี่เอง สาวๆจึงพากันหลงใหล

ฉันมีคำถามเดิมๆเกิดขึ้นอีกแล้ว

และคำถามสุดท้ายของฉันคือ เธอ เธอ เธอ เหล่านั้น

จะยุติการระบาดติดเชื้อได้อย่างไร?

เธอ และเขาจะรู้และเข้าใจมากน้อยเพียงไร

เธอๆๆๆๆๆๆเหล่านั้นจะมีจิตสำนึกรักเพื่อนมนุษย์บ้างไหม

จิตใจของเขาทั้งสองจะกล้าหาญ และเสียสละเพื่อส่วนรวมหรือไม่

จะยอมรับและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้ไหม

และหรือพวกเราจะช่วยอะไรได้บ้าง

ไม่ให้สังคมในอนาคตต้องพบกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอย่างนี้

ในอีกไม่เกิน 8-10 ปี ข้างหน้า

รัฐต้องเตรียมงบอีกจำนวนมากที่จะต้องทุ่มเพื่อการดูแล รักษาผู้ป่วยติดเชื้อ

คุณยายในกลุ่มผู้สูงอายุเรียกฉันเข้าไปกระซิบว่า"ต้องสอนมันๆ"

ฉันรู้สึกดีใจกับเรื่องที่ฉันเล่า อย่างน้อยก็มีคนเข้าข้างฉันแล้ว

คุณย่านั่งข้างๆหลานหันไปบอกหลานสาวว่า

"ฟังไว้นะ มันถึงตายเชียวนะ ไอ้ความรักนี่ เดี๋ยวนี้มันมีพิษ"

แป่ววววว

ฉันนึกในใจ

เจ้าประคูณ!... ขออย่าได้เกิดขึ้นกับลูกหลานฉันเลย

คุณก็คิดเช่นนี้เหมือนกันมิใช่หรือ

เราจะต้องสอนเพศศึกษาให้ลูก หลานของเรา

ลูกศิษย์ของเรา และลูกเพื่อนบ้าน

สอนลูกหลานไม่ยาก สอนลูกศิษย์ไม่ยากเช่นกัน

เพียงระวังคำพูด สอนให้ได้ตามตำรา เชื่อมโยงกับเรื่องจริง

ที่ไม่บาดหู บาดใจใคร

ปรับเอาใช้ให้เหมาะกับวัยเด็ก และทำความเข้าใจสังคม

ชุมชนนั้นๆ  คำพูดและท่าทีที่สอน ต้องเป็นไปอย่างสุภาพ

อย่าให้พ่อแม่เขามาตำหนิ

ว่าครูสอนอะไรก็ไม่รู้...น่าจะให้เด็กโตก่อนก็แล้วกัน ....

ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ก็เคยเกิดขึ้นแล้วจากความไม่เข้าใจ

ถ้ามีใครถามฉันว่าครูผู้หญิงกับครูผู้ชายใครจะสอนเรื่องเพศศึกษาได้เหมาะกว่ากัน

ฉันเห็นว่าครูผู้ชายกลับสอนเพศศึกษา ได้ลำบากกว่าครูผู้หญิง

 ...พูดยากเหมือนกันนะคะ 

 

นี่ไม่ใช่นิยาย....มันคือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นแล้วในสังคม

และเรากำลังช่วยกันปกป้องเยาชน ร่วมแก้ไขสถานการณ์

เพื่อให้ทุกคนปลอดภัยจากHIV

อ่านบทความความรู้เรื่องเอดส์

 และไปฟังเสียงเพลงจากเด็กน้อยที่ลิงค์ข้างล่างนะคะ

ขอบคุณที่แวะมาอ่านค่ะ

ขอบคุณ streamsofmercyinc สำหรับสื่อที่ฉันคิดว่าดีที่สุดที่นี่นะคะ

ขอบคุณ http://www.youtube.com/watch?v=e_POXFFXev0

และhttp://www.teenpath.net/home.asp

กับงานวิจัยเกี่ยวกับความคิดเห็นเรื่องการสอนเพศศึกษาที่นี่ค่ะ

หมายเลขบันทึก: 427616เขียนเมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2011 22:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีค่ะพี่ต้อย

๑๕ ปีแห่งความหลัง หากก็ยังเป็นเรื่องที่ฮิต ให้ได้คิดตามแก้ไข ป้องกัน กันต่อไปนะคะ

มาชม มาเชียร์กิจกรรมสามวัย เพื่อทุกวัยปลอดภัยเอดส์

ยินดีล่วงหน้าที่พี่จะได้มาหาดใหญ่ค่ะ

Ico48nong Poo ja

P' phai pukpon kha ....

ฮา.....

วันนี้สอนการแปลประโยคเป็นสัญญลักษณ์

และสอนให้ดูภาพแล้วเขียนประโยคภาษาอังกฤษสอนเสร็จก็ทดลองเลย

ปรากฏผลหลังการสอนเชิงประจักษ์ค่ะ

เด็กนร.คนหนึ่งเขาเขียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาคาโอเกะมาส่ง

ทีแรกก็งงค่ะ พยายามอ่านถึงได้ก๊าก...

แต่เกรงเด็กจะอายรีบบอกว่า Good idea.

หมดชั่วโมงก็มานั่งคุยกัน

เป็นโปรแกรมพักผ่อนค่ะ

อาจได้ความคิด มุมมองใหม่ๆกลับมา

ขอบคุณค่ะ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท