การสอนเพศศึกษาในแต่ละระดับชั้น


การสอนเพศศึกษาในแต่ละระดับชั้น

การสอนเด็กวัยอนุบาล (3-5 ขวบ)
 

พัฒนาการทางเพศ
 

เด็กจะเริ่มเรียนรู้ความแตกต่างทางสรีระภายนอกระหว่างเด็กหญิงและเด็กชาย สำหรับพ่อแม่การตอบคำถามลูก ควรใช้วิธีคุยมากกว่าตอบ อย่างเดียว โดยมีหลัก 4 ประการ ในการพูดคุยกับลูกดังนี้
 

1. ไม่ดุว่าลูกเมื่อลูกถามเรื่องเพศ เพื่อให้ลูกรู้สึกว่าเรื่องเพศเป็นเรื่องปกติที่สามารถถามและพูดคุยกับพ่อแม่ได้
 

2. ตอบคำถามของเขาด้วยกิริยาท่าทางปกติ เหมือนอธิบายเรื่องทั่ว ๆ ไป
 

3. ใช้คำพูดและเหตุผลง่าย ๆ ตามความเป็นจริง ไม่หลอกหรือขู่
 

4. ตั้งใจฟังและให้เวลาแก่ลูก
 

5. ใช้การพูดคุยมากกว่าตอบคำถามอย่างเดียวและการตอบควรตอบตรงไปตรงมา ใช้คำพูดง่าย ๆ สั้น ๆ เช่น
ถาม ทำไมนมหนูเล็ก นมคุณแม่ใหญ่
ตอบ ตอนนี้หนูยังเล็ก มือก็เล็ก เท้าก็เล็ก นมก็เล็ก เล็กไปทุก ๆ ส่วน เมื่อหนูโตขึ้น อวัยวะทุก อย่างก็ค่อย ๆ โตตามด้วย ดังนั้น เมื่อหนูโตเท่าแม่ นมหนูก็จะโตเหมือนแม่
ถาม หนูเกิดมาจากไหน
ตอบ หนูเกิดจากท้องแม่
ถาม แล้วหนูออกมาได้อย่างไร
ตอบ เป็นคำถามที่ยากขึ้นแต่เด็กไม่ได้สนใจว่า เขาออกมาจากช่องไหน ดังนั้น ควรใช้คำตอบกลาง ๆ ว่า “หมอช่วยลูกออกมา ลูกถึงได้แข็งแรงและน่ารัก แบบนี้”

การสอนเด็กปฐมวัย 6-8 ขวบ   
 

1. พัฒนาการทางเพศ เด็กจะเริ่มเรียนรู้ความแตกต่างระหว่างหญิงและชายในด้านบทบาททางสังคม
 
เด็กวัย 6-8 ขวบ ร่างกายกำลังเจริญเติบโต มีความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ด้วยตนเอง ชอบซักถาม ชอบลองทำในสิ่งที่ท้าทายความ สามารถ ต้องการเพื่อน ชอบแข่งขัน ชอบเล่นเป็นกลุ่ม ชอบแสดงออกในรูปแบบต่าง ๆ ต้องการให้คนสนใจ ชอบคนยกย่องชมเชย และต้องการการยอมรับจากครูและเพื่อน แต่ยังต้องการความสนับสนุนจากพ่อแม่ ทั้งด้านการเรียน การเล่น การเข้าสังคม การปรับตัว การควบคุมอารมณ์ และการสร้าง จริยธรรม
 
เด็กจะมีการเล่นโดยแยกเพศ เด็กจะรวมกลุ่มในเพศเดียวกัน ความสัมพันธ์กับเพศเดียวกันนี้ ช่วยเน้นเอกลักษณ์ทางเพศของเด็ก เด็กผู้ชายสนใจการเล่นที่ใช้แรง ให้ความสนใจในการเข้าสังคม น้อยกว่าเด็กผู้หญิงซึ่งชอบอยู่รวมกลุ่มกัน ชอบเล่นเกมที่ใช้แรงน้อย และให้ความสนใจในการเข้าสังคม การที่แยกกลุ่มจะทำให้เด็กแต่ละเพศเริ่มเรียนรู้พฤติกรรมเฉพาะเพศจากเพื่อน ๆ 
 

เมื่อผ่านวัยที่แล้วมาเด็กจะมีความรู้สึกว่าตนเป็นเพศใด และเริ่มบทบาทที่เหมาะสมกับเพศของตน และรู้จักพัฒนาตนเองให้เข้ากับเพื่อนเพศเดียวกัน โดยสามารถสนใจ มีกิจกรรมรวมทั้งมีความ คิดฝันทางเพศร่วมกับเพื่อนได้ กิจกรรมทางเพศของเด็กในวัยนี้คือ เขาจะมีการเล่นสมมุติ โดยแสดง เป็นพ่อแม่หรือสามีภรรยาในหมู่เพื่อน
 
เด็กวัยนี้ถูกแนะนำเข้ามาในโลกทางเพศของผู้ใหญ่โดยหนังสือนวนิยาย ภาพยนตร์ โทรทัศน์ และการสังเกตสิ่งแวดล้อมประจำวันรอบ ๆ ตัว ความสนใจเกี่ยวกับเรื่องเพศจะค่อยเกิดขึ้นภายในจิตใจ เด็กจะเรียนรู้ว่าอะไรดี อะไรไม่ดี อะไรถูก อะไรผิด มีการใช้ dirty word dirty action เพิ่มมากขึ้น ความรู้ที่ได้มาคล้ายกับการต่อภาพจิ๊กซอว์ คือ เด็กจะค้นพบความเป็นจริงไปทีละเล็กทีละน้อย
 


 


2.  สุขอนามัยทางเพศ การดูแลรักษาความสะอาด, การทำความสะอาดหลังการขับถ่าย, การสังเกตความผิดปกติของอวัยวะเพศ/อุบัติเหตุจากการเล่น
 
3.  พฤติกรรมทางเพศ เรื่องเพศเป็นเรื่องส่วนตัว (การปกปิดร่างกาย, การพูดคำหยาบ, การเคารพสิทธิในร่างกายของผู้อื่น, การแต่งกายให้เหมาะสมกับเพศ)
 

ขอขอบคุณ

http://www.clinicdek.com/index.php?option=com_content&task=view&id=653&Itemid=51

สาระที่  ๒      ชีวิตและครอบครัว

มาตรฐาน พ ๒.๑  เขาใจและเห็นคุณคาตนเอง ครอบครัว เพศศึกษา และมีทักษะในการดําเนินชีวิต

การสอนสุขศึกษา ชั้นประถมปีที่ 1

๑. ระบุสมาชิกในครอบครัวและความรักความผูกพันของสมาชิกที่มีตอกัน

๒. บอกสิ่งที่ชื่นชอบ และภาคภูมิใจในตนเอง

๓. บอกลักษณะความแตกตางระหวางเพศชาย และเพศหญิง

การสอนสุขศึกษา ชั้นประถมปีที่ 2

๑. ระบุบทบาทหนาที่ของตนเองและสมาชิกในครอบครัว

๒. บอกความสําคัญของเพื่อน

๓. ระบุพฤติกรรมที่เหมาะสมกับเพศ

๔. อธิบายความภาคภูมิใจในความเปนเพศหญิง หรือเพศชาย

การสอนสุขศึกษา ชั้นประถมปีที่ 3

๑. อธิบายความสําคัญ  และความแตกตางของครอบครัวที่มีตอตนเอง

๒. อธิบายวิีธสรางสัมพันธภาพในครอบครัวและกลุมเพื่อน

๓. บอกวิีธหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่นําไปสูการลวงละเมิดทางเพศ

การสอนสุขศึกษา ชั้นประถมปีที่ 4

๑. อธิบายคุณลักษณะของความเปนเพื่อนและสมาชิกที่ ีดของครอบครัว

๒. แสดงพฤติกรรมที่เหมาะสมกับเพศของตนตามวัฒนธรรมไทย

๓. ยกตัวอยางวิีธการปฏิเสธการกระทําที่เปนอันตรายและไมเหมาะสมในเรื่องเพศ

การสอนสุขศึกษา ชั้นประถมปีที่ 5

๑. อธิบายการเปลี่ยนแปลงทางเพศ  และปฏิบัติตนไดเหมาะสม

๒. อธิบายความสําคัญของการมีครอบครัวที่อบอุนตามวัฒนธรรมไทย

๓. ระบุพฤติกรรมที่พึงประสงคและไมพึงประสงคในการแกไขปญหาความขัดแยงในครอบครัวและกลุมเพื่อน

การสอนสุขศึกษา ชั้นประถมปีที่ 6

๑. อธิบายความสําคัญของการสรางและรักษาสัมพันธภาพกับผูอื่น

๒. วิเคราะหพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจนําไปสูการมีเพศสัมพันธการติดเชื้อเอดส  และการตั้งครรภกอนวัยอันควร

การสอนสุขศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

๑. อธิบายวิีธการปรับตัวตอการเปลี่ยนแปลงทางรางกายจิตใจ อารมณ  และพัฒนาการทางเพศอยางเหมาะสม

๒. แสดงทักษะการปฏิเสธเพื่อปองกันตนเองจากการถูกลวงละเมิดทางเพศ

การสอนสุขศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

๑. วิเคราะห  ปัจจัยที่มีอิทธิพลตอเจตคติในเรื่องเพศ

๒. วิเคราะห  ปัญหาและผลกระทบที่เกิดจากการมีเพศสัมพันธในวัยเรียน

๓. อธิบายวิีธีปองกันตนเองและหลีกเลี่ยงจากโรคติดตอทางเพศสัมพันธ  เอดส  และการตั้งครรภโดยไมพึงประสงค

๔. อธิบายความสําคัญของความเสมอภาคทางเพศ และวางตัวไดอยาง เหมาะสม

การสอนสุขศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

๑. อธิบายอนามัยแมและเด็ก       การวางแผนครอบครัว และวิีธีการปฏิบัติตนที่เหมาะสม

๒. วิเคราะห  ปัจจัยที่มีผลกระทบตอการตั้งครรภ์

๓. วิเคราะหสาเหตุ  และเสนอแนวทางปองกัน แกไขความขัดแยงในครอบครัว

การสอนสุขศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6

๑. วิเคราะหอิทธิพลของครอบครัว  เพื่อน สังคม และวัฒนธรรมที่มีผลตอพฤติกรรมทางเพศและการดําเนินชีวิต

๒. วิเคราะหคานิยมในเรื่องเพศ  ตามวัฒนธรรมไทยและวัฒนธรรมอื่น ๆ

๓. เลือกใชทักษะที่เหมาะสมในการปองกัน  ลดความขัดแยงและแก  ปญหาเรื่องเพศและครอบครัว

๔. วิเคราะหสาเหตุและผลของความขัดแยงที่อาจเกิดขึ้นระหวางนักเรียน

ขอขอบคุณ http://www.act.ac.th/document/curriculum/8.pdf 

ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรูแกนกลางกลุมสาระการเรียนรูสุขศึกษาและพลศึกษาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

การสอนสุขศึกษา ในระดับอุดมศึกษา

ในการสอนสุขศึกษา ควรจัดการสอนที่เน้นกิจกรรมที่สนุกสนาน จูงใจให้นักศึกษาเข้ากลุ่มก่อน แล้วจึงสอดแทรกเนื้อหา รวมถึงสถานที่บริการการให้คำปรึกษาต่างๆเข้าไป  เนื่องจากนักศึกษาเป็นบุคคลที่ใกล้บรรลุนิติภาวะแล้ว และผ่านการเรียนเรื่องเพศศึกษามามาก ดังนั้นเนื้อหาที่ควรเน้นก็คือ เรื่องการดูแลอนามัยการเจริญพันธุ์ของตนเอง การมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย การป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะโรคเอดส์ รวมไปถึงเรื่องการตั้งครรภ์  การป้องกันการตั้งครรภ์ ทั้งเพศชายและหญิง เช่นผู้หญิงก้อสอนเรื่อง การใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ผู้ชายก็สอนเรื่องการใช้ถุงยางอนามัย และสอนให้ตระหนังถึงโทษของคำว่า "ลืม" หรือคิดว่า "ช่างมัน" เป็นต้น และสำหรับนักศึกษาเรียนคณะศึกษาศาสตร์ หรือ ครุศาสตร์ ความจะสอนครูสุขศึกษาให้ มองการสอนเพศศึกษาเป็นการพูดถึง “ความจริงของชีวิตคน” ซึ่งมีทั้งด้านบวกและด้านลบ ต้องเข้าใจวิถีชีวิตปัจจุบันว่าการรับรู้ในชีวิตของเด็กไปไกลกว่าห้องเรียนมากมาย อยู่นอกเหนือการควบคุม จึงเป็นลบได้ง่ายเพราะได้รับข้อมูลไม่รอบด้าน แต่การเรียนการสอนในชั้นเรียนมีจุดประสงค์หลักคือ ให้ผู้เรียนวิเคราะห์ด้วยตัวเอง มองเห็นความสำคัญของผู้อื่น จึงเป็นบวก และได้นำข้อถกเถียงนี้ไปเป็นคำถามหลังเรียนวิชาเพศศึกษาแบบรอบด้านด้วยเช่นกัน และความท้าทายที่ผู้สอนต้องเผชิญคือ การไม่ใช้อคติไปตัดสินเด็ก ไม่ว่าคำตอบนั้นจะเป็นอย่างไร เพราะการพูดคุยเรื่องเพศวิถีเป็นเรื่องละเอียดอ่อน กระทบต่อตัวตนของคน ผู้เรียนย่อมจับตามองท่าที ทัศนคติต่อเรื่องเพศของผู้สอนไปด้วยพร้อมกัน และต้องมองทะลุในกรอบเนื้อหาของวิชาว่า ครอบคลุมวิถีชีวิตทุกด้านโดยมองจากความเป็นเพศ ไม่ใช่การมีเพศสัมพันธ์เท่านั้น 

http://www.radompon.com/webboard/index.php?topic=33.0

http://www.teenpath.net/content.asp?ID=389

หมายเลขบันทึก: 426517เขียนเมื่อ 16 กุมภาพันธ์ 2011 15:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 22:32 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ดิฉันเห็นว่า เป็นความคิดที่ดี ที่มีการจัดการเรียนการสอนเรื่องเพศตั้งแต่เนิ่นๆ

เห็นด้วยกับเนื้อหาค่ะ

การให้ความรู้เกี่ยวกับเพศศึกษาเป็นประโยชน์มากเลยค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท